×

โคล พาลเมอร์ เพราะอัจฉริยะไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียว

20.04.2024
  • LOADING...
โคล พาลเมอร์

สำหรับผู้เชื่อในความสมบูรณ์แบบอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา แล้ว ตลอดชีวิตการทำงานเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล มีแค่ไม่กี่เรื่องที่ทุกอย่างจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด

 

หนึ่งในนั้นคือ โคล พาลเมอร์ เด็กหนุ่มที่เลือกที่จะลิขิตชีวิตของตัวเองด้วยตัวเอง โดยไม่รอการชี้นำและเปิดประตูให้จากผู้ที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจปราดเปรื่องที่สุดในเรื่องของเกมลูกหนังยุคปัจจุบัน

 

เป๊ปประคบประหงมเด็กหนุ่มคนนี้มาเป็นเวลาสักพักใหญ่ และเชื่อว่าเวลาที่ทั้งเด็กคนนี้และเขารอคอยจะมาถึงในไม่ช้า โดยเฉพาะหลังจากที่ ริยาด มาห์เรซ ปีกผู้เป็นด่านขวางหน้า ได้เดินทางไปต่อในเส้นทางลูกหนังที่ซาอุดีอาระเบีย

 

พาลเมอร์จะก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นได้ในแบบเดียวกับที่ ฟิล โฟเดน เป็น และจะถือเป็นผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

แต่ทุกอย่างมันผิดคาดไปหมด เมื่อพาลเมอร์เชื่อว่าเขาพร้อมแล้วและไม่ต้องการที่จะรออีกต่อไป

 

เพราะเส้นทางของอัจฉริยะไม่จำเป็นจะต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป

 

ย้อนหลังกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโปรแกรมต้องลงสนามแมตช์พิเศษในรายการยูฟ่าซูเปอร์คัพ ในฐานะแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งต้องพบกับเซบียา แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก

 

ผลปรากฏว่า ทีมจากอังกฤษเป็นฝ่ายที่เอาชนะได้ในช่วงการดวลลูกจุดโทษหลังจากที่เสมอกันในเวลาปกติ 1-1

 

 

คนที่ทำประตูตีเสมอให้แมนฯ ซิตี้ ได้ก็คือ โคล พาลเมอร์ กองหน้าดาวรุ่งจากอะคาเดมีของสโมสร ซึ่งเป็นรุ่นไล่เลี่ยกับ ฟิล โฟเดน ที่เป็น ‘วันเดอร์คิด’ หรือเด็กมหัศจรรย์ที่แจ้งเกิดกับทีมไปก่อนแล้ว

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าพาลเมอร์น่าจะสบโอกาสในการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้กับซิตี้ แต่ในบทสัมภาษณ์หลังจบเกมซูเปอร์คัพปรากฏว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา บอกเป็นนัยว่าดาวรุ่งรายนี้อาจจะขอย้ายออกจากทีม

 

เป๊ปบอกว่า “ความเห็นที่ผมได้ยินมาคือเขาต้องการจะไป เพียงแต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่”

 

ไม่กี่วันหลังจากนั้นการย้ายทีมของพาลเมอร์ก็เกิดขึ้นจริง เชลซีทุ่มเงิน 45 ล้านปอนด์เพื่อแลกตัวกับเด็กดาวรุ่งคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์อะไรมากนัก ซึ่งก็ถือเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยสักเท่าไรเมื่อคิดถึงเวลานั้น แม้ว่าทีมจากลอนดอนในยุคของ ทอดด์ โบห์ลี จะเซ็นเช็คเป็นว่าเล่นก็ตาม

 

แต่สำหรับวันนี้ ค่าตัวที่จ่ายให้ไปเหมือนกลายเป็นการได้ของดีราคาถูกทันที พาลเมอร์คือนักเตะที่ดีที่สุดของเชลซีในฤดูกาลนี้ และหากวัดจากฟอร์มการเล่นตอนนี้ก็อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกด้วย

 

เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ

 

มองย้อนกลับไป พาลเมอร์ถือเป็น ‘สายเลือดแท้’ ของแมนฯ ซิตี้ ที่อยู่กับสโมสรมายาวนานกว่า 15 ปี และเส้นทางทุกอย่างคล้ายกับถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ที่เป็น ‘Local Lad’ อีกคนของสโมสร

 

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นในแบบเดียวกับที่ ฟิล โฟเดน เคยผ่านมาก่อน

 

โฟเดนเองก็เป็นนักเตะลูกหม้อของแมนฯ ซิตี้ เป็นเด็กมหัศจรรย์ที่ได้รับการจับตามองมาอย่างยาวนานว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นดารานักเตะที่แสนหายากของสโมสร ซึ่งไม่ได้เป็นสโมสรเล็กๆ ของชาวเมือง เพราะเปลี่ยนเป็นมหาอำนาจของวงการที่มีศักยภาพจะดึงนักเตะคนใดในโลกมาร่วมทีมก็ได้

 

ประกายแสงแรกของโฟเดนเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมที่ช่วยพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์เยาวชนโลกได้สำเร็จ

 

ในตอนนั้นทั้งสื่อและแฟนบอลเรียกร้องขอให้เป๊ปส่งเด็กคนนี้ลงแจ้งเกิดทันทีกับแมนฯ ซิตี้

 

แต่เป๊ปไม่ใช่คนที่ทำงานตามแรงกดดันจากภายนอก ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ว่าจะกับบาร์เซโลนาหรือบาเยิร์น มิวนิก เขาพอจะดูออกว่าเด็กคนไหน ‘พร้อม’ เมื่อไร

 

สำหรับโฟเดน เป๊ปรู้ว่าแม้จะมีพรสวรรค์สูงและศักยภาพในตัวมาก แต่ต้องใช้เวลาในการขัดเกลา เจียระไนให้สวยงามและพร้อมสำหรับโลกของการแข่งขันในเกมฟุตบอลที่โหดร้าย ซึ่ง ‘กระบวนการ’ นี้ไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่หลักวัน หลักเดือน หรือหลักปี

 

แต่กินระยะเวลาหลายปี

 

 

ในมุมของเป๊ป วิธีการ ‘ฟูมฟัก’ แบบนี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว โดยที่ความอดทนจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

 

ถ้าเรามองจากผลงานของโฟเดน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ก็จะพบว่าเป๊ปก็ไม่ได้ผิด เพราะเด็กคนนี้เก่งและเพียบพร้อมไปเสียเกือบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะพรสวรรค์ แต่รวมถึงร่างกาย จิตใจ และความเข้าใจในเกมฟุตบอล

 

โฟเดนค่อยๆ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกำลังหลักของแมนฯ ซิตี้ และได้รับการยกย่องว่าควรจะได้เป็นเสาหลักในทีมชาติอังกฤษได้แล้ว

 

เพียงแต่การเติบโตของคนเราไม่ได้มีแค่หนทางหรือรูปแบบเดียวเสมอไปครับ

 

ในปี 1997 รอย อีแวนส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลในช่วงเวลานั้น ได้เปิดโอกาสให้ ไมเคิล โอเวน ไอ้หนูดาวรุ่งจากทีมเยาวชน ได้โอกาสแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ของสโมสร ทั้งๆ ที่เพิ่งจะอายุได้เพียงแค่ 17 ปี

 

เรื่องนี้ทำให้อีแวนส์ถูกตั้งคำถามไม่น้อย แต่กุนซือผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายแห่ง ‘บู๊ตรูมสตาฟฟ์’ ตำนานห้องเก็บรองเท้าอันโด่งดังของลิเวอร์พูล ได้ตอบสั้นๆ ว่า “If you are good enough you are old enough”

 

“ถ้าเก่งพอก็ถือว่าโตพอ”

 

โอเวนไม่ได้ทำให้อีแวนส์และแฟนลิเวอร์พูลต้องผิดหวัง เขาก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของสโมสร แซงหน้าแม้กระทั่ง Prodigal Son ลูกรักคนเก่าอย่าง ร็อบบี ฟาวเลอร์ ที่ต้องตกเป็นเบอร์สองรองลงไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นตลอดมาเป็นคนที่ถูกเชื่อว่าจะพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่เหมือนที่ เอียน รัช เคยทำไว้ในอดีต

 

โอเวนก็เหมือนกับพาลเมอร์ เป็นนักเตะในประเภท ‘Prodigy’ ผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่น

 

สิ่งที่ต่างกันออกไปคือ พาลเมอร์ยังไม่ได้รับโอกาสในแบบเดียวกับที่โอเวนได้รับจากอีแวนส์ เพราะสไตล์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 

แต่เพราะเชื่อในตัวเอง ทำให้พาลเมอร์ตัดสินใจที่จะเป็นขบถเล็กๆ ต่อเจ้านาย ด้วยการยืนกรานว่าจะขอย้ายออกจากทีมหลังได้รับข้อเสนอจากเชลซี ที่พร้อมจะให้โอกาสได้พิสูจน์ตัวเองแบบที่ไม่ต้องอดทนรอคอยอยู่ที่ข้างสนาม

 

 

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจครั้งนี้ก็ถือเป็นการ ‘เดิมพัน’ ที่ใหญ่พอสมควรสำหรับเด็กคนหนึ่ง

 

สำหรับเชลซีมันอาจเป็นการลงทุนเงินจำนวนไม่น้อยในการซื้อนักเตะที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ตัวเองมามากพอ แต่ถ้ามันล้มเหลวอย่างมากที่สุด สโมสรก็แค่หาทางขายเขาออกไป จะได้ราคากลับมาเท่าไรก็ว่ากัน

 

แต่สำหรับพาลเมอร์แล้ว ถ้าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นเหมือนนักเตะดาวรุ่งอีกหลายคนที่เป็นได้มากที่สุดเพียงแค่ดอกไม้ไฟที่สว่างไสวแค่ชั่วคราว

 

มันมีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับอนาคต โดยที่ไม่มีใครบอกได้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงอย่างไร

 

โชคดีสำหรับพาลเมอร์ และโชคดีกว่ามากสำหรับเชลซีที่พวกเขาเดิมพันถูกข้าง เด็กดาวรุ่งคนนี้ได้เติบโตและพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว

 

การ Coming of Age ของพาลเมอร์เป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน เพราะจากจุดเริ่มต้นของการเป็นดาวรุ่งคนหนึ่ง วันนี้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ตัวรุกที่ดีที่สุดบนเกาะอังกฤษ’ แล้ว

 

พูดแบบนี้มันอาจจะฟังดูเหมือนเกินจากความเป็นจริง แต่ผลงานในฤดูกาล 2023/24 จนถึงตอนนี้ 25 ประตู กับ 13 แอสซิสต์ (รวมทุกรายการ) จากการลงสนาม 41 นัดของนักเตะที่เพิ่งจะแจ้งเกิดได้เล่นทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวเป็นฤดูกาลแรกในทีมที่เต็มไปด้วยปัญหาอย่างเชลซี

 

ผลงานนี้เข้าขั้นมหัศจรรย์

 

และมันตอกย้ำความอัศจรรย์ที่อัดแน่นในตัวของพาลเมอร์ ซึ่งไม่ได้เป็นแค่กองหน้าตัวริมเส้นธรรมดา แต่เป็น ‘ครีเอเตอร์’ ผู้สร้างสรรค์เกมได้ยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วย ‘วิชัน’ ที่อ่านการเล่นได้เด็ดขาด พร้อมเซนส์การเล่นอันสูงส่งที่หาได้ยากยิ่งในนักฟุตบอลยุคปัจจุบัน และเท้าซ้ายฉมังเดชที่ทำได้ทั้งยิงและจ่าย

 

ที่สำคัญคือความเยือกเย็นจนได้ชื่อว่า ‘Cold’ พาลเมอร์

 

 

ไอ้หนูวัย 21 ปีคนนี้จึงไม่เพียงแต่จะเป็นนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในตอนนี้ เขายังเป็นตัวแทนของคนที่กล้าจะตามล่าความฝันในอีกรูปแบบหนึ่ง

 

โลกไม่ได้มีเส้นทางให้แค่คนที่อดทนรอคอยไหว พร้อมอยู่ในเส้นทางที่มีคนขีดให้อย่างโฟเดนเท่านั้น

 

โลกนี้ยังใจดีพอที่จะมีเส้นทางให้คนที่ไม่กลัวและพร้อมเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่มีอย่างพาลเมอร์ด้วย

 

คืนนี้ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งในสนาม โดยมีตั๋วนัดชิงเอฟเอคัพเป็นเดิมพัน

 

เป็นไฮไลต์เล็กๆ ส่วนตัวที่อยากเห็นว่า ระหว่างอัจฉริยะทั้งสองที่เลือกเส้นทางที่แตกต่าง ใครจะดีกว่ากันในวันนี้

 

ไม่ใครก็ใคร

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising