×

นโยบายเงินหมื่นดิจิทัล: ไม่มีอรหันต์ในกระทรวงการคลังเสียแล้ว

13.04.2024
  • LOADING...
นโยบายเงินหมื่นดิจิทัล: ไม่มีอรหันต์ใน กระทรวงการคลัง เสียแล้ว

พลันที่นายกรัฐมนตรีและบรรดาผู้ที่รับผิดชอบนโยบายเงินหมื่นดิจิทัล อันรวมถึงคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) สรุปผลการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวในการประชุมครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 สังคมก็ส่งเสียงตอบรับแซ่ซ้องไปพร้อมกันคำวิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึงไปทั่วทั้งประเทศ นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญคือ การกระตุ้นระบบเศรษฐกิจผ่านการแจกเงินไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนกลุ่มข้างต้นนำเงินไปจับจ่ายใช้สอย หรือบริโภคสินค้าและบริการตามที่ตนต้องการ แต่เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด นอกเหนือจากเป้าหมายดังกล่าวแล้ว นโยบายเงินหมื่นดิจิทัลยังคงเป็นหมุดหมายหลักของสัญญาทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลจะต้องส่งมอบนโยบายตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ด้วย

 

การปฏิบัติตามสัญญาที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้กับประชาชนถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี อันเป็นเรื่องที่หาได้ยากในบรรดานักการเมืองโดยจริต แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากนักเศรษฐศาสตร์สารพัดสำนัก แต่ความมุมานะพยายามของรัฐบาลที่ดื้อรั้นผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลในทางปฏิบัติให้จงได้ ก็เป็นพฤติกรรมทางการเมืองที่เป็นกรณีจำเป็นที่จะต้องรักษาฐานเสียงของตนไว้ หาไม่แล้วเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งถัดไปคงจะสูญเสียไปให้แก่พรรคการเมืองอื่นไม่มากก็น้อย 

 

แต่ผู้เขียนตระหนักเป็นอย่างดีว่า กระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่นักการเมืองผู้ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะสร้างเมนูนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่กลุ่มผลประโยชน์ที่ตนเป็นตัวแทน และได้รับอาณัติมาให้ดำเนินการ แต่อีกมุมหนึ่ง กระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะก็ได้รับการถ่วงดุลจากกลไกราชการที่กฎหมายมุ่งหวังให้เกิดระบบการคานอำนาจซึ่งกันและกัน เพื่อป้องกันหายนะหรือภยันตรายที่จะกระทบต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่ฝ่ายการเมืองจะถูกทัดทานอย่างเป็นเหตุเป็นผลจากสามเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศไทย อันได้แก่ กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย

 

เสาหลักทั้งสามต้นที่พยุงระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ตั้งมั่นและแข่งขันได้ในเวทีโลก ต่างได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘อรหันต์’ หรือ ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ที่ประชาชนตามท้องถนนยากที่จะแตะต้องหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเหล่าเทคโนแครตหรือขุนนางนักวิชาการที่เป็นสมาชิกของสามเสาหลักล้วนแล้วแต่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้ดูแลและปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของชาติ มูลเหตุสำคัญของความเป็น ‘อรหันต์’ ของหน่วยงานดังกล่าวตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์สุจริต จริยธรรมอันสูงส่ง ความฉลาดเฉลียวและปรีชาสามารถเป็นที่ยิ่ง และความมุ่งมั่นแน่วแน่ในผลประโยชน์สูงสุดของชาติและประชาชนจนเป็นที่ประจักษ์มาหลายยุคหลายสมัย เพียงแต่วันนี้ ผู้เขียนกลับเห็นความเสื่อมทรามทางวิชาการที่หนึ่งในหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือกระทรวงการคลัง ได้ใช้ความอุตสาหะอย่างเป็นพิเศษที่จะเข็นนโยบายที่ขัดแย้งกับหลักวิชาเพื่อเอาใจรัฐบาลให้จงได้ จนแทบจะลืมรากเหง้าแห่งความภูมิใจของความเป็นมืออาชีพของตนเสียจนสิ้น

 

กระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับการยกย่องมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานว่า กระทรวงการคลังเป็นกระทรวงที่นักการเมืองส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เกลียดชังน้ำหน้า เพราะมักจะรับบทที่สวนทางกับผลประโยชน์ของนักการเมืองมาเกือบทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงการคลังในยุคของขุนคลังที่ชื่อ ‘สมหมาย ฮุนตระกูล’ ผู้ได้รับฉายา ‘ซามูไรเลือดเดือด’ ที่สามารถรักษาพรหมจรรย์ทางวิชาการของกระทรวงการคลังไว้ได้อย่างน่าประทับใจ และพิสูจน์ให้เห็นว่ากระทรวงการคลังมี ‘อรหันต์’ ในสมัย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี

 

ผู้เขียนขอแสดงความระลึกถึงปู่สมหมายในฐานะ ‘อรหันต์’ แห่งกระทรวงการคลังในบทความฉบับนี้ เพราะผู้เขียนมิอาจเห็นผู้ใดในกระทรวงการคลัง ณ เวลานี้ ที่มีความเป็น ‘อรหันต์’ เพียงพอที่จะทัดทานความผิดปกติแห่งนโยบายเงินหมื่นดิจิทัลของนายกรัฐมนตรี ผู้ควบเก้าอี้ขุนคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง อาจเป็นเพราะผู้เขียนสายตาสั้นด้วยอคติแห่งวิชาการที่บดบังแสงแห่งความเจริญของนโยบายดังกล่าวก็เป็นได้

 

ประวัติศาสตร์จารึกว่า จิตวิญญาณแห่งความรักชาติและประชาชนของคุณสมหมาย ฮุนตระกูล แสดงให้เห็นอย่างเข้มข้น ดังจะเห็นได้จากการทำงานในตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อชาติบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ และคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ด้วยเหตุนี้ ชื่อของคุณสมหมาย ฮุนตระกูล จึงโดดเด่นขึ้นมาทันทีท่ามกลางบรรดาคนในกระทรวงการคลังปัจจุบัน โดดเด่นเพราะประการหนึ่งเขาทำทุกอย่างเพื่อชาติ ประการหนึ่งเขาทำโดยไม่เห็นแก่สมัครพรรคพวกหรือหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น ประการหนึ่งเขามีความมุ่งมั่นที่จะนำพาบ้านเมืองให้พ้นภัยอย่างเด็ดเดี่ยว ที่ทุกๆ คนที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาต้องเดินไปทางเดียวกัน และอีกประการหนึ่งเพราะเขาไม่เคยเสแสร้งว่าตนเองรักชาติ ด้วยประการทั้งปวงนี้ เขาจึงเป็นคนที่ใครๆ ต่างก็ให้ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำหน้าที่ขุนคลังของประเทศได้โดยไม่บกพร่อง 

 

แม้แต่ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เองก็มั่นใจในความจริงข้อนี้ และเมื่อคุณสมหมายต้องอำลาโลกนี้ไปก็มีแต่คนอาลัยเขา แล้วเพราะเหตุใดเล่าที่มีแต่คนเฝ้าคารวะต่อวิญญาณของ ‘สมหมาย ฮุนตระกูล’ และพากันเชิดชูคุณสมหมายว่าเป็นรัฐมนตรีคลังต้นแบบ และเพราะเหตุใดเล่าที่หลายคนบ่นกับผู้เขียนถึงคุณสมหมายว่า “ดวงวิญญาณท่านสมหมายคงไม่เป็นสุขแน่ หากได้รู้ว่ามีเด็กเมื่อวานซืนกำลังเล่นกับเงินกับทองของชาติเหมือนอย่างทุกวันนี้”

 

ความเป็นอรหันต์ของคุณสมหมายสามารถนิยามได้จากแนวคิดเรื่อง ‘ผู้บริหารที่มีประสิทธิผล (Effective Executive)’ ของปีเตอร์ เอฟ. ดรักเกอร์ (Peter F. Drucker) ซึ่งคุณสมบัติภาวะผู้นำของผู้บริหารที่มีประสิทธิผลตามแนวคิดของดรักเกอร์ จะต้องให้ความสนใจต่อการสร้างองค์กรให้สูงขึ้นด้วยจิตวิญญาณในผลงาน ซึ่งคุณสมหมายมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่ในกายอย่างเต็มเปี่ยม คุณสมบัติของคุณสมหมายที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ ได้แก่

 

  1. ความซื่อสัตย์ ถ้าจะถามความซื่อสัตย์และคุณธรรมของคุณสมหมายแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย การผ่านชีวิตราชการที่ไม่เคยมีมลทิน การเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้จัดการใหญ่เครือปูนซีเมนต์ไทยที่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นใหญ่ ประสบการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องการันตีได้ว่า คุณสมหมายบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยข้อกำหนดด้านจริยธรรมอย่างชัดเจน

 

  1. การมุ่งผลลัพธ์ คุณสมบัติข้อนี้ถือเป็นข้อที่เด่นที่สุดของคุณสมหมาย ว่ากันว่าในการทำงานคุณสมหมายจะตั้งเป้าหมายไว้เสมอ และทำทุกวิถีทางที่ไม่ขัดต่อคุณธรรมเพื่อทะยานไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ คนในกระทรวงการคลังต่างทราบถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างดี

 

  1. การสร้างจุดแกร่งทั้งตนเองและต่อผู้อื่น คุณสมหมายเป็นคนที่ถ้าคิดว่าถูกต้องแล้ว จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจโดยเด็ดขาด แต่ก่อนจะตัดสินใจ คุณสมหมายมักจะถามความเห็นของผู้ร่วมงานทุกครั้ง และมักจะไม่แสดงออกว่าตนเองต้องการคำตอบแบบใด ด้วยจุดแกร่งของคุณสมหมายเช่นนี้ ส่งผลให้คุณสมหมายได้รับการยอมรับทั้งต่อหน้าและลับหลังว่าเป็นคนเด็ดขาดที่ใจกว้าง

 

  1. การคำนึงถึงผลที่บังเกิดแก่ส่วนรวม แม้ครั้งใดที่กระทรวงการคลังต้องเจ็บตัว แต่ประเทศชาติได้ประโยชน์ คุณสมหมายก็ยินดีที่จะทำ เรื่องที่เห็นได้ชัดยิ่งคือ การตั้งเป้างบประมาณแบบ Zero Growth ที่ทำให้ดุลการคลังกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง แม้จะมีหน่วยงานของรัฐบาลบางหน่วยไม่พอใจ

 

ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่คุณสมหมายฝากไว้ ได้แก่ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงระดับ 2 หลักหลังจากนั้นราวสิบปี และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในห้าเสือของโลก และคงเป็นเรื่องน่าสลดใจหากวันนี้คุณสมหมายรู้ว่า ผู้คนในกระทรวงการคลังพากันละทิ้งจิตวิญญาณความเป็นนักการคลัง และโอ้โลมปฏิโลมรัฐบาลด้วยการเล่นแร่แปรธาตุงบประมาณของชาติเพื่อเอาใจพรรคการเมืองให้เดินหน้าเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสียแล้ว คุณสมหมายของปลดบรรดาข้าราชการเหล่านี้โดยทันทีเป็นแน่แท้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising