×

บทสรุป 19 วัน ปฏิบัติการปลดอาวุธ ‘เรือหลวงสุโขทัย’ แต่ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 คน

โดย THE STANDARD TEAM
12.03.2024
  • LOADING...

ในที่สุดเมื่อวานนี้ (11 มีนาคม) ก็ปิดฉากปฏิบัติการที่กองทัพเรือเรียกว่า ‘ปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย’ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

THE STANDARD ชวนย้อนอ่านบทสรุปผลการปฏิบัติการตลอดระยะเวลา 19 วันของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ

 

ปฏิบัติการนี้คืออะไร 

 

เรือหลวงสุโขทัยอับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีกำลังพลสูญหาย 5 นาย เสียชีวิต 24 นาย และรอดชีวิต 70 นาย

 

ข้อมูลจากกองทัพเรือระบุว่า ปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยกองเรือสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิกได้ส่งกำลังประกอบด้วย เรือกู้ซ่อมชื่อ Ocean Valor และทีมนักประดาน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ มาร่วมปฏิบัติการภายในกรอบการฝึกร่วม-ผสมคอบร้าโกลด์ 2024 

 

ปฏิบัติการครั้งนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เป็นการกู้เรือแบบจำกัด ไม่ใช่การกู้เรือขึ้นจากทะเลทั้งลำ สาเหตุสำคัญเนื่องจากเรือลำนี้ต่อในสหรัฐอเมริกา อนาลโย กอสกุล ระบุว่า ในเรือหลวงสุโขทัยลำนี้มีเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐอเมริกาเต็มลำเรือ ซึ่งผู้ซื้ออาวุธจะต้องยอมรับข้อตกลงที่เรียกว่า ข้อตกลงของผู้ใช้รายสุดท้ายคือ End User Agreement 

 

ข้อตกลงนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขจำกัดการใช้งาน แต่จะต้องรักษาความลับทางทหารของสหรัฐอเมริกา ไม่ให้บุคคลที่ 3 เข้าถึงได้ ซึ่งการละเมิด End User Agreement นั้น แม้สหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถจับคนไทยคนไหนขึ้นศาลได้ แต่สหรัฐอเมริกาสามารถแบนการขายอาวุธหรืออะไหล่ในอนาคตต่อไทยได้ทั้งหมด เนื่องจากไทยผิดข้อตกลงนี้

 

เป้าหมายของปฏิบัติการ

 

กองทัพเรือสรุปเป้าหมายของปฏิบัติการใน 4 ภารกิจดังต่อไปนี้

 

  1. การค้นหาผู้สูญหายจำนวน 5 คนที่อาจติดอยู่ภายในเรือ
  2. การตรวจสอบวัตถุพยานที่ตัวเรือ เพื่อประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการอับปางของเรือหลวงสุโขทัย
  3. การปลดวัตถุอันตรายและการทำให้ยุทโธปกรณ์สำคัญของสหรัฐฯ หมดขีดความสามารถ (Demilitarization)
  4. การนำสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจของเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาทำอนุสรณ์สถาน

 

เรือหลวงสุโขทัยจมอยู่ที่ใด

 

ปัจจุบันเรือหลวงสุโขทัยจมอยู่ที่กลางทะเลความลึก 50 เมตร ทางทิศตะวันออกของท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 21.4 ไมล์ทะเล หรือ 38.52 กิโลเมตร 

 

โดยทัศนวิสัยใต้น้ำประมาณ 5-10 เมตร พื้นท้องทะเลเป็นโคลนปนทราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคลน สภาพตัวเรือตั้งตรงหรือนั่งแท่น เอียงซ้ายเล็กน้อยประมาณ 7 องศา หัวเรือหันไปในทิศ 240 หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตัวเรือจมโคลนประมาณ 1 เมตร บริเวณตัวเรือและอุปกรณ์ภายนอกตัวเรือทั้งหมดปกคลุมด้วยตะกอนดิน เพรียง และหอย ความหนาประมาณ 1 นิ้ว 

 

โดยตัวเรือภายในเริ่มปกคลุมด้วยตะกอนดินและเศษวัสดุต่างๆ ที่เริ่มย่อยสลาย ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันหรือสารเคมีต่างๆ จุดที่สูงที่สุดของเรือคือเสากระโดงเรือ อยู่ลึกจากผิวน้ำลงไป 90 ฟุต หรือ 27 เมตร ไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ (จากสถิติเรือที่กินน้ำลึกสูงสุด 24.5 เมตร) 

 

ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 คน

 

กองทัพเรือแถลงผลการปฏิบัติการตลอดระยะเวลา 19 วันของการปฏิบัติการ โดยเฉพาะการค้นหาผู้สูญหายที่อาจติดอยู่ภายในเรือ ผลปรากฏว่า ไม่พบผู้สูญหายในทุกห้อง 

 

“ทุกสถานที่ที่เราเข้าไปได้และสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีคนอยู่ รวมถึงค้นหาบริเวณรอบนอกตัวเรือและพื้นท้องทะเลใกล้ตัวเรือ ก็ไม่พบร่างหรือชิ้นส่วนกระดูกของคน” พล.ร.อ. ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ระบุในการแถลงผลการปฏิบัติการ

 

ปลดวัตถุอันตราย-เก็บพยานหลักฐาน

 

การปฏิบัติการครั้งนี้ได้ปลดวัตถุอันตรายและการทำให้ยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของสหรัฐฯ หมดขีดความสามารถทางทหารจำนวน 3 อย่าง คือ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นฮาร์พูน, ตอร์ปิโด MK 309 และเครื่องมือสื่อสารที่เกี่ยวข้อง

 

และยังได้มีการนำอาวุธปืนของกองทัพเรือขึ้นมาจากน้ำ เช่น ปืนกล 20 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก, ปืนเล็กยาว M16 จำนวน 10 กระบอก รวมถึงได้หลักฐานครบถ้วนตามที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องนำเรือทั้งลำขึ้นมาจากน้ำ

 

กองทัพเรือยังได้นำสิ่งของในเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาเพื่อจัดทำเป็นอนุสรณ์สถานรวม 11 รายการ เช่น ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย, พญาครุฑประจำเรือ, พระพุทธรูปประจำเรือ, เสากระโดงเรือ, สมอเรือ และป้ายรายนามผู้บังคับการเรือ

 

นอกจากนี้ในปฏิบัติการยังได้ตัดเสากระโดงเรือความสูง 10 เมตรออกอีก ทำให้ความสูงของเรือลดลงไปอีก ส่งผลให้มีความปลอดภัยต่อการเดินเรือเพิ่มขึ้นอีก ไม่มีวัตถุและสิ่งที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไม่มีวัตถุอันตรายต่อคนและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมทั้งไม่มีขีดความสามารถทางทหารที่จะสามารถนำไปใช้ได้อีก

 

ขั้นตอนต่อไปหลังจบปฏิบัติการ

 

กองทัพเรือแถลงว่า หลังจากปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเสร็จสิ้นในวันนี้ สิ่งที่กองทัพเรือจะดำเนินการต่อไปคือ รวบรวมยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ และสิ่งของของเรือหลวงสุโขทัย ที่เก็บกู้ได้นำส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบต่อไป

 

โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางจะสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจากข้อมูลและพยานวัตถุที่สำรวจ ตรวจสอบ และเก็บกู้ได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ และกองทัพเรือจะจัดการแถลงข่าวต่อไป

 

ทั้งนี้ กองทัพเรือจะจัดสร้างอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัย โดยใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนของเรือที่ถอดถอนและนำขึ้นมาได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงเรือหลวงสุโขทัย รวมทั้งความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหาย 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising