×

รู้จัก OnlyFans จากเว็บไซต์ 18+ สู่โซเชียลมีเดียที่จะทำรายได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์

09.12.2020
  • LOADING...
รู้จัก OnlyFans จากเว็บไซต์ 18+ สู่โซเชียลมีเดียที่จะทำรายได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์

HIGHLIGHTS

4 mins. read
  • แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มาแรงและแย่งซีนสุดๆ คงต้องยกให้กับ OnlyFans ที่ให้คนทั่วไป หรือ ‘ครีเอเตอร์’ ได้สร้างสรรค์คอนเทนต์แนว 18+ โดยเฉพาะเรื่องเพศ (Sexual Content) ให้แฟนๆ ได้ชมและติดตามอย่างใกล้ชิด 
  • ทิม สโตกลีย์ ก่อตั้งแพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติอังกฤษนี้ในปี 2016 โดยเขาผุดไอเดียสร้างเว็บไซต์ที่เปิดพื้นที่ให้ช่างภาพสายวาบหวิวมาปล่อยของเอาใจสาวก Fetish เป็นช่องทางให้นางแบบ นายแบบ และดาราหนังผู้ใหญ่ สร้างรายได้จากการเซอร์วิสแฟนๆ ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์แฟนคลับที่ต้องการเข้าถึงภาพและวิดีโอพิเศษจากคนที่ชื่นชอบ โดยครีเอเตอร์จะได้รายได้ 80% อีก 20% หักเป็นค่าธรรมเนียมของบริษัท 
  • แม้ว่าจะเป็นเว็บไซต์ติดเรต วาบหวิว แต่ OnlyFans สามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นโซเชียลมีเดียอันดับต้นๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อศิลปินดาราดังหันมาสนใจกันมากขึ้น และใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับแฟนๆ

ดูเหมือนศิลปินดังระดับโลกจะหันมาสนใจแพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง OnlyFans มากขึ้นเรื่อยๆ และใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารและเข้าถึงแฟนๆ อย่างใกล้ชิด ไปจนถึงสร้างรายได้เสริมและระดมทุนบริจาคเพื่อการกุศล ล่าสุด คาร์ดิ บี ได้ฉีกกรอบแผนการโปรโมตเพลงใหม่ไปจากคู่แข่ง นอกจากการลงปกนิตยสาร โพสต์ลง Instagram และปล่อยเพลงใน YouTube แล้ว เธอยังแชร์ฟุตเทจเบื้องหลังการถ่ายทำเอ็มวีเพลงใหม่ WAP ในบัญชี OnlyFans ของตนเอง และได้ทิปอีก 1,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 30,000 บาท

 

 

OnlyFans คืออะไร

ขณะที่ยักษ์ใหญ่แห่งวงการโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าสู่เฟสอิ่มตัวและไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter หรือคู่แข่งรายใหม่อย่าง TikTok จึงคว้าคะแนนนิยมจากผู้ใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก แต่แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มาแรงและแย่งซีนสุดๆ คงต้องยกให้กับ OnlyFans ที่ให้คนทั่วไป หรือ ‘ครีเอเตอร์’ ได้สร้างสรรค์คอนเทนต์แนว 18+ โดยเฉพาะเรื่องเพศ (Sexual Content) ให้แฟนๆ ได้ชมและติดตามอย่างใกล้ชิด เนื้อหามีความหลากหลายและเปิดกว้างทางเพศ ตั้งแต่ภาพเปลือยน้อย-เปลือยมาก วิดีโอวาบหวาม ไปจนถึง Live Streaming เพื่อเซอร์วิสผู้ติดตาม ที่สำคัญผู้ใช้งานต้องจ่ายค่าสมาชิกเท่านั้น ตั้งแต่ราคา 4.99-49.99 ดอลลาร์ต่อเดือน

 

 

ทิม สโตกลีย์ ก่อตั้งแพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติอังกฤษนี้ในปี 2016 และยังดำรงตำแหน่งซีอีโอในปัจจุบัน เขาเคยทำธุรกิจออนไลน์ด้านนี้มาหลายครั้ง แต่เป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เขารู้ดีว่าอุตสาหกรรมสีเทานี้ทำเงินมหาศาลมาอย่างยาวนาน เพราะถึงอย่างไรเรื่องเพศก็เป็นความธรรมดาสามัญของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่เว้นมนุษย์อย่างเราๆ 

 

สโตกลีย์ผุดไอเดียสร้างเว็บไซต์ที่เปิดพื้นที่ให้ช่างภาพสายวาบหวิวมาปล่อยของเอาใจสาวก Fetish เป็นช่องทางให้นางแบบ นายแบบ และดาราหนังผู้ใหญ่ สร้างรายได้จากการเซอร์วิสแฟนๆ ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์แฟนคลับที่ต้องการเข้าถึงภาพและวิดีโอพิเศษจากคนที่ชื่นชอบ โดยครีเอเตอร์จะได้รายได้ 80% อีก 20% หักเป็นค่าธรรมเนียมของบริษัท 

 

อันที่จริงสโตกลีย์มองว่าโมเดลธุรกิจนี้คล้ายกับ Twitter และ Instagram ที่กลายเป็นแหล่งทำเงินของบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ เพียงแต่ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าสมาชิกเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เข้าถึงคอนเทนต์ของครีเตอร์ได้

 

แพลตฟอร์มออนไลน์นี้ยังเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมเซ็กซ์และการค้าบริการทางเพศ ฝ่ายครีเอเตอร์สามารถปรนเปรอและเติมเต็มจินตนาการสุดแฟนตาซีให้กับลูกค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และยังเปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศ 

 

เว็บไซต์ Dazed Digital เคยนำเสนอเรื่องราวของ ไรอัน ยูล ชายแท้ (Straigth) ที่เปิดบัญชี OnlyFans ให้ลูกค้าชาว LGBTQ+ เข้าถึงภาพนู้ดและวิดีโอที่เขากำลังช่วยตัวเองในราคาเดือนละ 15 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ทำสิ่งที่แฟนๆ ต้องการ เขาพบว่านี่คืออีกช่องทางการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่แคร์ว่าจะถูกมองว่าเป็นเกย์หรือไม่ เพราะเขาทำงานในฐานะนักแสดง หรือ Performer ด้วยความเต็มใจ และเคารพแฟนๆ ทุกคน 

 

นอกจากนี้ยังมีครีเอเตอร์จำนวนมากที่ประสบปัญหาทางการเงิน เช่น ธุรกิจล่ม ต้องจ่ายหนี้การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ดีพวกเขาล้วนดิ้นรนเพื่อที่จะเลี้ยงชีพตัวเอง

 

แม้ว่าจะเป็นเว็บไซต์ติดเรต วาบหวิว แต่ OnlyFans สามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นโซเชียลมีเดียอันดับต้นๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อศิลปินดาราดังหันมาสนใจกันมากขึ้น และใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับแฟนๆ

 

ถามว่า OnlyFans มาแรงแค่ไหน ก็มากพอที่ บียอนเซ่ จะนำไปแรปในเพลง Savage Remix ของ Megan Thee Stallion นอกจากนี้ ไมเคิล บี. จอร์แดน นักแสดงชายสุดเซ็กซี่ ยังเคยกล่าวไว้ในรายการ Jimmy Kimmel Live! ว่าอยากสมัครบัญชี OnlyFans เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงล็อกดาวน์อีกด้วย

 

ด้านสโตกลีย์ยอมรับว่า อิทธิพลของศิลปินดังส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกประมาณ 85 ล้านราย และครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านราย จำนวนผู้ใช้รายวันเพิ่มขึ้นประมาณ 5 แสนคนต่อวัน ที่สำคัญผู้ใช้เหล่านี้ยอมจ่ายให้กับครีเอเตอร์ที่ติดตามชื่นชอบคิดเป็นเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซีอีโอยังคาดการณ์ว่าปีนี้จะทำเงินสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว!

 

 

ในอีกมุมหนึ่ง OnlyFans ต้องเผชิญกับข่าวอื้อฉาวและเสียงต่อต้าน ก่อนหน้านี้ดาราสาว เบลลา ธอร์น อดีตนักแสดงดิสนีย์ ได้ผันตัวเข้าสู่วงการ OnlyFans และทำเงินได้ 1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 31 ล้านบาท หลังจากเปิดบัญชีไป 24 ชั่วโมง โดยผู้รับชมจะต้องสมัครสมาชิกรายเดือน 20 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ก็นำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบทั้งจากสังคมและครีเอเตอร์ มีผู้ใช้งานร้องเรียนว่ารูปภาพของเธอนั้นออกไปทางกึ่งเปลือย ไม่ตรงกับที่บอกไว้ในตอนแรก ขณะที่ครีเอเตอร์หลายคนออกมาโจมตีว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่แฟร์สำหรับผู้ค้าบริการทางเพศ ออสซี ราเชล นางแบบสาวและครีเอเตอร์ใน OnlyFans ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Rolling Stone ว่าการได้เห็นดาราดังสร้างเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำจากภาพลับในชั่วข้ามคืน โดยไม่ได้ตระหนักถึงความยากลำบากของคนขายบริการทางเพศ ถือเป็นการตบหน้ากันอย่างแท้จริง จนดาราสาวต้องออกมาขอโทษ แต่เว็บไซต์ Vulture ชี้ว่า เบลลา ธอร์น ก็ทำงานในอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน เธอกำกับหนัง Her & Him ให้กับเว็บโป๊ชื่อดังอย่าง Pornhub ในปี 2019 ซึ่งได้รับรางวัลด้วย

 

แม้ว่าจะโด่งดังเป็นพลุแตกท่ามกลางกระแสต่อต้าน OnlyFans ยังมีแนวโน้มจะเติบโตไปอีกไกล สโตกลีย์รู้ดีว่าลูกค้าของเขาต้องการสิ่งที่ Instagram และ Twitter ไม่สามารถมอบให้ได้ นั่นคือระดับของการปฏิสัมพันธ์และความใกล้ชิดระหว่างครีเอเตอร์กับแฟนๆ นั่นเอง เพราะดาราส่วนใหญ่มักจะเปิดเผยภาพลักษณ์ที่ผ่านการคิดมาอย่างดีในแพลตฟอร์มของคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ OnlyFans ได้เปรียบ 

 

ไม่เพียงเท่านั้นสโตกลีย์ยังวางแผนจะขยายคอมมูนิตี้ครีเอเตอร์ให้หลากหลายมากขึ้น ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกเรื่องที่คนสนใจ ตั้งแต่ความงาม การออกกำลังกาย แฟชั่น ความงาม ศิลปะ งานเขียน ไปจนถึงเกม

 

น่าจับตาดูกันต่อไปว่า OnlyFans จะเดินเกมต่อไปอย่างไรในสนามของแพลตฟอร์ม Content Creator และ Influencer เพราะถึงอย่างไรข้อจำกัดสำคัญของ OnlyFans ก็คือต้องเข้าผ่านเว็บไซต์อย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีแอปพลิเคชันเหมือนคู่แข่ง หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหามากมาย โดยเฉพาะในแง่ User Experience ซึ่งควรจะเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่คิดมาเพื่อตอบสนองกามารมณ์

 

คงไม่มีใครอยากจ่ายเงิน แต่ดันพลาดจุดสุดยอด เพราะเว็บไม่เสถียรแน่ๆ

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising