เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทั้งสร้างความฮือฮา ตื่นเต้น ดีใจ ให้กำลังใจ ไปจนถึงแอบ ‘หวั่นใจ’ สำหรับแฟนๆ One Piece เมื่อแอ็กเคานต์ Twitter ONE PIECE (ワンピース) Netflix โพสต์ภาพ ‘บทซีรีส์’ ตอนที่ 1 ต่อเนื่องด้วยการปล่อยโลโก้อย่างเป็นทางการของ One Piece Live-Action เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 กันยายน) พร้อมแคปชันที่ว่า
“ต่อให้เป็นไปไม่ได้ หรือยากเย็นแค่ไหน ก็อย่าละทิ้งความฝันของตัวเอง”
ข้อมูลที่เปิดเผยเพิ่มเติมขึ้นมาตอนนี้ คือ หัวกะโหลกไขว้คาบเชือกที่ดูเคร่งขรึมและสมจริง ที่จะมาเป็นโลโก้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง พร้อมกับชื่อ EP.1 Romance Dawn หรือรุ่งสางของการผจญภัย ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับเรื่องสั้นก่อนที่จะมาเป็น One Piece และเป็นชื่อตอนที่ 1 ของเวอร์ชันมังงะ ที่เริ่มต้นด้วยประโยคคลาสสิกของเจ้าแห่งโจรสลัด โกล ดี. โรเจอร์ ที่ประกาศเริ่มต้นยุคสมัยของโจรสลัด
พร้อมกับเด็กหนุ่ม มังกี้ ดี. ลูฟี่ ที่เอามีดจิ้มหน้าตัวเอง กินผลยาง โดนโจรภูเขาจับ ตกทะเล จนแชงคูสผมแดงต้องเอา ‘แขน’ ไปให้ ‘ปลา’ กิน เพื่อเดิมพันกับยุคสมัยใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของ ‘หมวกฟางลูฟี่’ ต่อเนื่องมาถึง 1,023 ตอน และกำลังฉลองวาระพิเศษครบรอบเล่มที่ 100 หลังจากออกเดินทางมาแล้ว 24 ปี
ซีรีส์ One Piece Live-Action เป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทชูเอย์ฉะ เข้าของลิขสิทธิ์เรื่อง One Piece, Netflix และ Tomorrow Studio ที่เพิ่งมีผลงานซีรีส์อย่าง Snowpiercer (2020-2021) และ Cowboy Bebop (กำหนดฉาย 19 พฤศจิกายน 2021)
มีโชว์รันเนอร์ คือ Steven Maeda ที่เคยฝากผลงานโปรดิวซ์และเขียนบทในซีรีส์ CSI: Miami (2002-2005), Lost (2005-2006) และ Helix (2014-2015) ฯลฯ มาเขียนบทร่วมกับ Matt Owens ทีมเขียนบทซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D. (2016-2018) และ Luke Cage (2016-2018) โดยมีผู้เขียนอย่าง เออิจิโระ โอดะ เป็น Executive Producer คอยดูแลการผลิต
นอกจากข้อมูลว่าในซีซัน 1 จะมีทั้งหมด 10 EP. เรื่องอื่นๆ ยังไม่เปิดเผยออกมามากนัก อยู่ในช่วงค้นหานักแสดง และยังไม่มีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการ แต่ต้องบอกว่าทุกๆ การเคลื่อนไหวของโปรเจกต์นี้สร้างความ ‘ตื่นเต้น’ ให้กับแฟนๆ ได้ทุกครั้ง
ตั้งแต่ ฮิโรยูกิ นากาโนะ บรรณาธิการของนิตยสาร Shonen Jump ออกมาประกาศในวาระฉลองครบรอบ 20 ปี One Piece ว่ามีแผนสร้างซีรีส์ Live-Action ร่วมกับ Tomorrow Studio เมื่อปี 2017 จนมาถึงปี 2020 ที่โอดะเป็นคนประกาศเรื่องร่วมมือกับ Netflix ที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญช่วยผลักดันให้โปรเจกต์นี้เดินหน้าได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งอย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนต้นว่า ความ ‘ตื่นเต้น’ ที่ว่ามีทั้งความดีใจ และ ‘หวั่นใจ’ เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน เพราะ One Piece มังงะแห่งยุคสมัย ที่ครองใจผู้คนได้ทั่วโลก (แน่นอนว่าผู้เขียนคือหนึ่งในนั้น!) และถ้ามองจากผลงาน Live-Action จากฝั่งญี่ปุ่น ที่ถูกดัดแปลงโดยสตูดิจากฝั่งอเมริกานั้นค่อนข้างน่าผิดหวัง
โดยเฉพาะ Dragon Ball Evolution (2009) ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านมามากกว่า 10 ปี แต่ ‘แผล’ ครั้งนั้นก็ยังฝังใจ จนหลายคนอดเป็นห่วงกลัวว่า One Piece จะซ้ำรอยนั้นไม่ได้
ซึ่งตอนนี้ Tomorrow Studio และ Netflix มีผลงานอย่าง Cowboy Bebop Live-Action ที่ดัดแปลงมาจากแอนิเมชันของญี่ปุ่นเหมือนกัน เป็นตัวอย่างผลงานที่จะพิสูจน์คุณภาพให้แฟนๆ สบายใจ (หรืออาจจะหวั่นใจยิ่งกว่าเก่า) ขึ้นมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021
ส่วนตอนนี้เราทำได้แค่ ‘ให้กำลังใจ’ ทีมงานทุกคนรวมทั้งโอดะ ว่า One Piece Live-Action จะเป็นอีกหนึ่งผลงานจักรวาลโจรสลัดที่พวกเรา ‘รัก’ และอย่าให้จินตนาการและความฝันที่สวยงามถูกทำลายลงไปเลย
และระหว่างรอชมซีรีส์ที่ยังไม่มีกำหนดฉาย สามารถเข้าไปรับฟัง พูดคุย ถอดรหัส เชื่อมโยงการผจญภัยเข้ากับสถานการณ์ในโลกความเป็นจริงแบบเนิร์ดๆ ตามประสาคนรัก One Piece ได้ที่รายการ โลกคือการ์ตูน ของ THE STANDARD POP ได้ตามลิงก์นี้เลย
EP.2 ความเป็นผู้นำของลูฟี่ ถ้าการเมืองดีเราจะมีความฝัน
EP.4 โซโล พวกพ้อง วิถีดาบ จิตวิญญาณ และความเป็นที่หนึ่ง
EP.5 ซันจิ เจ้ากุ๊กจอมหื่น ยืนเฉยๆ เขาก็ไม่รัก
EP.7 นิโค โรบิน ยัยตัวร้ายกับประวัติศาสตร์ที่หายไป
อ้างอิง: