วันนี้ (11 กรกฎาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจความคืบหน้าภายหลังเกิดเหตุสะพานยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมาบริเวณถนนหลวงแพ่ง เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการจัดการซากปรักหักพัง โดยเฉพาะคานปูนและคานเหล็กที่ถล่มลงมา
โดย ณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ร่วมลงพื้นที่เพื่อประเมินวางแผนการเคลื่อนย้ายโครงสร้างที่ถล่มลงมากับเจ้าหน้าที่วิศวกร
ณรงค์ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์วานนี้ (10 กรกฎาคม) ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้เข้ามาดูในพื้นที่ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งรัดในตอนนี้คือการรื้อโครงสร้างที่เกิดความเสียหาย เพื่อไม่ให้ไปกระทบกับการจราจรและเกิดความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่
โดยขณะนี้ได้มีการวางแผนการรื้อย้ายโครงสร้างระหว่างสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งอันดับแรกจะเร่งเคลียร์พื้นที่ในส่วนที่กีดขวางการจราจร เพื่อให้เปิดใช้งานได้เร็วที่สุด ส่วนที่เหลืออื่นๆ เป็นแผนการดำเนินการต่อจากนี้ว่าจะมีการซ่อมแซมแก้ไขต่อไปอย่างไร
ณรงค์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้มีการเตรียมเครื่องจักรเป็นรถเครนขนาด 200 ตัน และ 50 ตัน เพื่อจะมาช่วยในการยกพยุงตัวโครงสร้าง และตัดชิ้นส่วนที่เสียสภาพเพื่อทำการเคลื่อนย้ายออกไป
โดยที่ต้องตัดเพราะโครงสร้างที่เสียหายมีขนาดใหญ่ประกอบกันขึ้นมา มีความยาวและน้ำหนักมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย ซึ่งในการแบ่งออกเป็นชิ้นนั้นจะใช้วิธีการถอดนอตตามโครงสร้างที่ประกอบไว้ แต่หากส่วนไหนถอดไม่ได้หรือถอดยาก ก็จะใช้แก๊สเป่าให้ขาด ซึ่งระหว่างการดำเนินการถอดแบ่งชิ้นส่วนต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยกถ่วง และใช้เครนตัวเล็กพยุงไว้ให้ทำงานได้ปลอดภัย
ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญคือเรื่องสภาพพื้นที่ที่มีจำกัด ทำให้การทำงานอาจไม่คล่องตัวเท่าที่ควร และต้องระมัดระวังในจุดที่อยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน โดยต้องมีการวัดแก๊สตลอดเวลา ซึ่งจากการประเมินคร่าวๆ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจะสามารถเคลียร์พื้นที่ส่วนที่กีดขวางการจราจรได้ทั้งหมด
ณรงค์กล่าวว่า สาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังต้องรอการวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน โดยวันนี้จะนำโดรนขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงเพิ่มเติม เพื่อนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของโครงสร้างร่วมกับภาพที่ได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะสามารถหาแนวทางการแก้ไขได้อย่างปลอดภัยถูกต้องตามหลักวิศวกรรม
ขณะที่ชัชชญากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนชิ้นส่วนแรกบริเวณปลายออกไปแล้ว และไล่ตัดจากทางปลายเข้ามาทางโคน ฝั่งที่พาดมาทางปั๊มน้ำมัน โดยมีสำนักการโยธา และบริษัทก่อสร้างในการควบคุม
แผนหลังการเคลื่อนย้ายออกแล้วก่อนจะให้ประชาชนสัญจรได้จะต้องประเมินความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างต่อไป ขณะที่การเยียวยา สำนักงานเขตลาดกระบังจะรวบรวมข้อมูลและติดตามผู้ที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นหากประชาชนท่านใดได้รับผลกระทบขอให้มาแจ้งไว้ และทางเขตก็จะประสานประกันภัยเข้ามาให้การช่วยเหลือ
ด้าน พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ได้สอบปากคำพยานบางส่วนไปแล้ว 6 ปาก ทั้งญาติผู้เสียชีวิต ผู้เห็นเหตุการณ์ วันนี้จะเร่งสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม รวมถึงบริษัท ผู้ควบคุมงาน หัวหน้าคนงาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใคร
ส่วนบริษัทผู้รับเหมาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน และยืนยันว่าหากเกี่ยวข้องกับผู้ใดที่จะต้องรับผิดชอบต้องดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าวต่อว่า การจราจรขณะนี้ปิด 100% ในส่วนถนนหลวงแพ่งฝั่งขาเข้า ส่วนฝั่งขาออกใช้ได้ตามปกติ แต่อนุญาตเฉพาะรถจักรยานยนต์ โดยหลังจากนี้ฝ่ายโยธาจะได้หารือเพื่อเคลียร์พื้นผิวการจราจรให้แล้วเสร็จ ขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านศูนย์สั่งการจราจร หากเปิดการจราจรก็จะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ