เป็นกระแสที่ร้อนแรงไปทั่วโลกจริงๆ สำหรับการที่แบรนด์นาฬิกาแบรนด์หรูและสตรีทแบรนด์อย่าง OMEGA และ Swatch มาจับมือกันเป็นครั้งแรกด้วยการออกนาฬิกา Speedmaster รุ่น MoonSwatch
ภาพที่เกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเมลเบิร์น, ลอนดอน, ฮ่องกง สิงคโปร์, อัมสเตอร์ดัม ตลอดจนกรุงเทพฯ จึงทำนักช็อปตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันคนในบางพื้นที่เข้าคิวซื้อนาฬิการุ่นใหม่จนทำให้เกิดความชุลมุน และบางสาขาก็ยกเลิกขายหน้าร้านในที่สุด อย่างเช่นไทยที่ออกมาประกาศจะขายทางออนไลน์แทน
แม้แบรนด์ Swatch จะออกมาย้ำว่า “นาฬิกาในคอลเล็กชันนี้ไม่ใช่สินค้าลิมิเต็ด และจะมีการเติมสต๊อกสินค้าในอนาคต” แต่ด้วยความที่ออกมาในช่วงแรกมีจำนวนไม่เยอะมาก คือหลัก ‘ร้อยเรือน’ ต่อสาขา ก็ทำให้ความต้องการนั้นพุ่งแบบฉุดไม่อยู่
เหตุผลที่ทำให้นาฬิกา OMEGA x Swatch มีความต้องการที่สูง แม้จะทำจากเซรามิก 2 ใน 3 ส่วน และอีกหนึ่งส่วนคือสารที่ได้จากน้ำมันละหุ่ง ตลอดจนใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- OMEGA x Swatch กระแสห้างแตกเพราะ ‘ซื้อใส่เอง’ หรือ ‘นำไปขายต่อ’? คาดราคาพุ่งจาก 8,700 บาท ไปอยู่ที่ 30,000 บาท
- ไม่ใช่แค่ไทย! ราคารีเซลนาฬิกา OMEGA x Swatch ในฮ่องกงพุ่งขึ้นไปแพงสุดอยู่ที่ 86,000 บาท ส่วนสิงคโปร์ก็ไม่น้อยหน้า 67,000 บาท
- OMEGA ร่วมกับ Swatch ออกนาฬิกา Speedmaster รุ่น MoonSwatch หลากสีในราคาไม่ถึงหมื่น
หากด้วยการที่มีลักษณะคล้ายกับ Speedmaster Professional อันเป็นไอคอนิก หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Moonwatch’ เนื่องจากถูกสวมใส่โดยนักบินอวกาศของสหรัฐฯ ก็ทำให้หลายคนอยากได้มาครอบครอง
เพราะปกติแล้วนาฬิกา OMEGA Speedmaster Professional จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 6,300 ฟรังก์สวิส หรือราว 227,000 บาท ในขณะที่ OMEGA x Swatch มีราคาเริ่มเพียง 250 ฟรังก์สวิส หรือ 9,000 บาท (แพงกว่าราคาไทยเล็กน้อย ที่วางขาย 8,700 บาท)
ราคาที่เข้าถึงได้ก็ทำให้หลายคนก็รู้สึกสนใจโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของนาฬิกาแบรนด์ OMEGA ซึ่งเป็นแบรนด์หรูที่มีราคาสูง
ผลที่ตามมาคือการต่อคิวที่ยาวข้ามวัน ตลอดจนความวุ่นวายหน้าร้านที่บางประเทศมีคนถูกตำรวจจับ เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของนาฬิกาที่ถูกจำกัดการขายเพียง 1 คนต่อเรือน ซึ่งบางคนอาจจะซื้อเพราะอยากได้เอง แต่ในขณะที่บางคนก็ซื้อไปขายต่อ หรือที่เรียกว่า ‘รีเซล’
THE STANDARD WEALTH จึงยกตัวอย่างมาให้ดูว่า หากเทียบกับราคาที่วางจำหน่ายหน้าร้าน Swatch เมื่อผันเปลี่ยนเป็นสินค้ารีเซลแล้ว ราคาในแต่ละประเทศพุ่งขึ้นไปได้แพงแค่ไหน ซึ่งมีรายงานว่าบางแห่งแพงขึ้น 10 เท่าเลยทีเดียว!
อย่างไรก็ตาม Bloomberg ชี้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้แสดงถึงกลยุทธ์เฉพาะของ Swatch Group ที่พยายามกระตุ้นความสนใจใหม่ๆ ในนาฬิกาของตนด้วยการนำเสนอความหรูหราที่มาในราคาประหยัด
ด้วย Swatch Group หวังจะฟื้นรายได้ของตัวเอง หลังมองเห็นการส่งออกนาฬิกาสวิสที่มีราคาสูงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการดิ่งลงจากโรคระบาด ในขณะที่นาฬิการาคาต่ำกว่า 500 ฟรังก์สวิส หรือราว 18,000 บาท กำลังดิ้นรนเพื่อให้กลับมาเทียบเท่าก่อนเกิดโรคโควิด
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP