CNBC รายงานการตัดสินใจของ Meta, OpenAI และ Microsoft ที่ประกาศว่าจะใช้ชิปประมวลผล AI ตัวล่าสุด Instinct MI300X จาก Advanced Micro Devices (AMD) แทนชิปของ NVIDIA เมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธันวาคม)
การประกาศครั้งนี้ของเหล่าบิ๊กเทค ถือเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าตลาดต้องการหาตัวเลือกที่ถูกกว่าชิปราคาแพงของ NVIDIA ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างและใช้งานนวัตกรรม AI อย่างเช่น ChatGPT
ถ้าหากชิปรุ่นดังกล่าวของค่าย AMD สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความคาดหวังของบริษัทเทคกับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างๆ ในการสร้างและประมวลผล AI จริง ในต้นปีหน้าเมื่อสินค้าเปิดตัว สิ่งนี้จะทำให้การพัฒนาโมเดล AI มีต้นทุนที่ต่ำลง และมีแนวโน้มที่จะสร้างความกดดันต่อยอดขายของชิป NVIDIA
AMD เคลมว่า MI300X ถูกออกแบบมาใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น โดยฟีเจอร์ที่แตกต่างคือประเภทของหน่วยความจำที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ HBM3 ซึ่งมีความสามารถในการส่งต่อข้อมูลที่รวดเร็ว และยังทำงานร่วมกันได้ดีกับโมเดล AI ขนาดใหญ่
“เราเชื่อว่าประสิทธิภาพของสินค้าเราจะสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า เวลาเรายิงคำถามไปที่โมเดล เราก็อยากจะให้คำตอบนั้นออกมาเร็วด้วย โดยเฉพาะเมื่อสิ่งต่างๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น” Lisa Su ซีอีโอของ AMD กล่าว
สำหรับประเด็นเรื่องของราคา แม้ AMD จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ทว่าราคาชิปคู่แข่งอย่าง NVIDIA อยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งชิ้น ซึ่ง Lisa ก็กล่าวกับนักข่าวว่า ชิปของ AMD จะต้องมีราคาที่ต่ำกว่าเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อกับบริษัท
ล่าสุด AMD ได้ทำข้อตกลงการซื้อขายกับลูกค้าอย่าง Meta และ Microsoft ซึ่งเดิมเป็นผู้ซื้อ GPUs รายใหญ่ของ NVIDIA รุ่น NVIDIA H100 ปี 2023 ตามรายงานการวิจัยจาก Omidia
Meta กล่าวว่า จะใช้งานชิป MI300X สำหรับบริหารจัดการงานด้านกราฟิก และช่วยงานในฐานะ Virtual Assistant
ในส่วน Microsoft พวกเขาจะเปิดการเข้าถึงชิป MI300X ผ่าน Azure Web Services ตามปากคำของ Kevin Scott ซีทีโอของบริษัท
OpenAI ก็ประกาศว่าจะนำชิปประมวลผลจาก AMD มาใช้กับหนึ่งในซอฟต์แวร์ของตนที่ชื่อว่า Triton
อย่างไรก็ตาม AMD ยังประเมินยอดขายชิปดังกล่าวไว้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับ NVIDIA ที่มียอดขาย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในไตรมาสที่แล้วไตรมาสเดียว แม้ว่ายอดนั้นจะรวมชิปที่นอกเหนือจาก GPUs แล้วก็ตาม
ถึงแม้ยอดขายที่คาดในปีหน้าอาจจะยังเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากนัก แต่ Lisa มองว่าตลาดชิปประมวลผลสำหรับ AI มีศักยภาพที่จะเติบโตไปได้ถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 4 ปี ซึ่ง Lisa คิดว่า AMD ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่เหนือ NVIDIA “เราเชื่อว่า NVIDIA จะเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว แต่ตลาดที่มีมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์ ฉันเห็นว่าเราก็น่าจะได้ส่วนแบ่งจากตรงนี้ไม่น้อยเหมือนกัน”
อ้างอิง: