×

โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสชายเดี่ยวที่ดีที่สุดที่เคยมีมา?

12.06.2023
  • LOADING...
โนวัค ยอโควิช

“Victory belongs to the most tenacious.” เป็นหนึ่งในภาพที่ผู้ชมในศึกเฟรนช์โอเพน ที่โรลังด์ การ์รอส น่าจะได้เห็นบ่อยที่สุดในการแข่งขัน เพราะมันถูกติดไว้บนสนามฟิลิป ชาตริเยร์ ซึ่งเป็นสนามหลักที่ใช้ในการแข่งขันศึกเฟรนช์โอเพน ที่โรลังด์ การ์รอส

 

ประโยคดังกล่าวดัดแปลงจากวลีอมตะของ นโปเลียน โบนาปาร์ต ที่กล่าวไว้ว่า “Victory belongs to the most persevering.” หรือชัยชนะจะตกเป็นของผู้ที่มีความอดทนอย่างถึงที่สุด จนกลายมาเป็น “Victory belongs to the most tenacious.” ที่แปลความหมายได้ว่า ชัยชนะจะตกเป็นของผู้ที่กัดไม่ปล่อยมากที่สุด

 

ภาพ: Roland Garros 

 

คำพูดดังกล่าวถูกพิสูจน์อีกครั้งว่าเป็นความจริง แมตช์การเล่นระหว่าง โนวัค ยอโควิช กับ คาสเปอร์ รุด เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่จอมเก๋าจากเซอร์เบียอาจจะเล่นเกมในเซ็ตแรกได้อย่างไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง และต้องเสียเกมเสิร์ฟไปก่อน ตั้งแต่เกมเสิร์ฟแรกของเขาในแมตช์นี้

 

แต่หลังจากนั้น โนเลยังแสดงความหมายของประโยคที่ถูกติดอยู่บนสนามฟิลิป ชาตริเยร์ เหนือศีรษะของเขา ออกมาให้เราเห็นหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในเซ็ตแรก หลังไล่ตามเบรกเกมเสิร์ฟของรุดคืนได้ในเกมที่ 7 ของเซ็ตแรก ซึ่งเป็นเกมเสิร์ฟที่ 4 ของรุด

 

นอกจากนั้น ยอโควิชยังแสดงให้เห็นความตายยากที่ใครหลายคนให้นิยามว่า ‘เซอร์ไววัลโหมด’ ในเกมที่ 10 ของเซ็ตแรก ซึ่งนักหวดวัย 36 ปีตามหลังอยู่ 4-5 เกม และยังตามหลังในเกมนี้อยู่ 0-30 แต่ทว่า โนเลกลับเก็บ 4 แต้มรวดอย่างสุดเด็ดขาด พลิกสถานการณ์จากจะเสียเซ็ตเป็นการยื้อเกมมาได้ถึงไทเบรกได้สำเร็จ

 

ในช่วงไทเบรกนี้เอง ที่ยอโควิชแสดงออกถึงคุณสมบัติอีกอย่างที่ผู้ชนะควรจะมีคือ ความเด็ดขาด และความอำมหิตในการทำคะแนนแต่ละแต้มอย่างพิถีพิถัน ในช่วงเวลาที่ต้องตัดสินเกม

 

ว่าที่แชมป์แกรนด์สแลม 23 สมัยในตอนนั้น เก็บได้ 11 จาก 13 คะแนน หลังจากตามหลังรุดในเกมที่ 11 ของเซ็ตแรกด้วยสกอร์ 5-6 เกม นั่นหมายความว่า หลังจากนั้นในเกมเสิร์ฟของเขาเอง เขาเสียไปแค่ 1 คะแนน และในช่วงไทเบรกที่โนเลเอาชนะไปได้ 7-1 เขาก็เสียเพียงแต้มเดียวเท่านั้น

 

ฟอร์มการเล่นของโนเลค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่เขาเริ่มเล่นเกมของตัวเองได้ในช่วงท้ายเซ็ตที่ 1 เมื่อเป็นเช่นนั้น นักหวดดาวรุ่งจากนอร์เวย์ที่ทำได้ดีมาตลอดก่อนหน้านั้น ก็ต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวของ ‘ราชัน’ ที่เคยเล่นงาน การ์รอส อัลการาซ มาก่อนหน้านี้

 

โนวัค ยอโควิช

 

อัลการาซกล่าวหลังจบเกมรอบรองชนะเลิศที่โรลังด์ การ์รอสว่า “มันไม่ง่ายเลยที่จะเล่นกับโนวัค เขาคือตำนานของกีฬานี้ มันเป็นเกมที่ยากมาก ผมไม่เคยเจอแรงกดดันขนาดนั้นมาก่อนเลย ถ้าใครบอกว่าแข่งกับโนวัคแล้วไม่ตื่นเต้น คนนั้นโกหก แรงกดดันนั้นทำให้ผมเป็นตะคริว ผมเริ่มเกมโดยรู้สึกกังวลมาก”

 

โนวัค ยอโควิช

 

ในช่วงแรกของแมตช์ รุดวางเกมมาได้ดี และทำได้อย่างที่เขาต้องการ ทำให้เขาไม่ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลที่อัลการาซต้องเจอ หลังจากที่ตีบอลอย่างหมดจดและยังทำให้ยอโควิชต้องเล่นยาก ด้วยการบังคับให้เขาต้องเล่นลูกในระดับที่สูงกว่าปกติ จากการทำลูกให้กระดอนแบบที่เขาต้องการได้

 

แต่ท้ายที่สุด โนเลก็สามารถเรียกความมั่นใจแบบที่เขาเคยทำได้เวลาเผชิญหน้ากับบรรดานักเทนนิสอายุน้อยออกมาอีกครั้ง พร้อมๆ กันกับที่ความมั่นใจของรุดค่อยๆ ลดลง และไม่สามารถทำให้ยอโควิชหายใจไม่ทัน ล้มลุกคลุกคลาน และบันดาลโทสะได้เหมือนช่วงต้นเกมอีกต่อไป

 

รุดต้องเผชิญหน้ากับความกดดันแบบที่อัลการาซเคยเจอในเกมเมื่อ 2 วันก่อน ในที่สุดในช่วงไทเบรก และเห็นได้ชัดว่าเขาพ่ายแพ้ต่อมันอย่างราบคาบ เมื่อปล่อยให้นักหวดรุ่นพี่ขโมยแต้มจากเกมเสิร์ฟของเขาเองครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่เซ็ตแรกจะจบลงด้วยชัยชนะของยอโควิช

 

เมื่อเซ็ตแรกเป็นของยอโควิช เซ็ตที่เหลือก็เหมือนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แม้จะมีหลายลูกที่ไม่ใช่คะแนนที่ง่ายสำหรับเขา แต่โดยรวมแล้วนี่คือเทนนิสสไตล์ โนวัค ยอโควิช อย่างแท้จริง

 

เทนนิสของโนเลไม่ใช่อะไรที่หวือหวาหรือตื่นเต้น อันที่จริงนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเทนนิสของเขา ‘น่าเบื่อ’ ด้วยซ้ำไป แต่นี่คือสไตล์การเล่นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อคนใช้งานมันคือนักหวดชาวเซอร์เบียคนนี้

 

ตลอด 2 เซ็ตที่เหลือไม่เสียเกมเสิร์ฟอีกเลย และสิ่งที่เขาทำก็คือ เล่นให้ ‘ไม่เสียไว้ก่อน’ ในเกมเสิร์ฟของตัวเอง หลังจากออนเสิร์ฟในเกมเสิร์ฟของตัวเองได้แล้ว เขาแค่รอจังหวะที่คู่แข่งแผ่วลง และเบรกเสิร์ฟให้ได้แค่สักเซ็ตละเกม ฟังดูเหมือนง่าย แต่ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้อย่างแน่นอน

 

รุดกลายเป็นเหยื่ออีกคนของการเล่นเทนนิสสไตล์ยอโควิชแบบนี้ และเขาก็ต้องพ่ายแพ้ไปอย่างช้าๆ ส่งผลให้โนเลก้าวขึ้นมาชูโทรฟี ‘กูป เดส์ มาสกีแตร์’ หรือ ‘เดอะ มัสเคเทียร์ส’ สมัยที่ 3 ในอาชีพ

 

ยอโควิชยังกลายเป็นชายคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมชายเดี่ยวได้อย่างน้อยรายการละ 3 สมัย นอกจากนี้ ยอโควิชยังคว้าแกรนด์สแลมรวมทั้งอาชีพ 23 รายการ ซึ่งมากที่สุดในบรรดานักเทนนิสชายทั้งหมด

 

เขาทำสถิตินี้ได้ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกึกก้องจากบรรดากองเชียร์ ซึ่งบางคนในนั้นเป็นนักกีฬาชื่อดังอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ รวมไปถึงอดีตผู้เล่นระดับตำนานอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ ทอม เบรดี สุดยอดจอมทัพจากศึกอเมริกันฟุตบอล NFL ด้วย

 

เขาสวมเสื้อแข่งสีแดงประดับด้วยหมายเลข 23 เขากล่าวสุนทรพจน์แห่งชัยชนะเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยสำเนียงที่ไร้ที่ติ เขาขอบคุณทุกคน และต้องการส่งมอบความฝันไปยังเด็กๆ รุ่นต่อไป

 

โนวัค ยอโควิช

 

โนเลกล่าวว่า “ครอบครัวของผมทุกคน คุณทุกคนรู้ว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง และผมเองเป็นคนที่ทำตัวให้รับมือได้ยาก ผมจึงต้องขอบคุณทุกคนที่อดทนกับผมมาก ผมต้องขอบคุณที่เป็นเหมือนฐานที่มั่นคงให้กับผม และขอบคุณที่เชื่อในตัวผมตลอดมา เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากที่ผมชนะแกรนด์สแลมได้ 23 รายการ ผมพยายามจะส่งต่อหลายอย่างให้กับลูกๆ ของผม อยากให้พวกเขาได้แรงบันดาลใจ

 

“ผมอยากจะส่งข้อความถึงเยาวชนทุกคน ไม่ว่าคุณกำลังไล่ล่าความฝันอะไร ผมก็เคยเป็นเด็ก 7 ขวบที่ฝันว่าจะเป็นแชมป์วิมเบิลดันและเป็นมือหนึ่งของโลก ผมรู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ผมรู้สึกว่าผมมีพลังที่จะกำหนดโชคชะตาของตัวเอง ผมอยากจะบอกกับเยาวชนทุกคนว่า อยู่กับปัจจุบัน อย่าไปติดอยู่กับอดีต ถ้าอยากได้อนาคตที่ดีเราต้องสร้างด้วยตัวเอง”

 

เป็นเวลาหลายปีที่โรลังด์ การ์รอส เป็นบ้านของ ราฟาเอล นาดาล และในทางจิตวิญญาณบางทีมันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ แต่แชมป์แกรนด์สแลม 22 สมัย ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในสถิติแชมป์แกรนด์สแลมชายตลอดกาลของเขาที่ถูกพรากไปจากเขา แต่เขาเองก็ฝากความยินดีมายังยอโควิชผ่านทางโลกออนไลน์ว่า “ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้ 23 เป็นตัวเลขที่ไม่มีทางคิดถึงได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน และคุณก็ทำได้”

 

สิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้คือ ตัวเลขของ มาร์กาเร็ต คอร์ต แชมป์แกรนด์สแลมที่ครองสถิติการได้แชมป์เมเจอร์มากที่สุดตลอดกาลที่ 24 สมัย

 

หลายคนตั้งคำถามถึงโอกาสที่ยอโควิชจะล้มสถิตินี้ของเธอ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องอย่าลืมว่า โอกาสของโนเลในปีนี้เปิดกว้างมากที่สุดในรอบหลายปี และอาจจะเป็นปีที่เราได้เห็นของหาดูยากอย่าง ‘คาเลนดาร์สแลม’ หรือการคว้าแกรนด์สแลม 4 รายการในปีปฏิทินเดียวกัน

 

โดยก่อนหน้านี้มีนักเทนนิสเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นที่ทำสถิตินี้ได้ ได้แก่ ดอน บัดจ์ ในปี 1937, เมารีน คอนนอลลี บริงเกอร์ ปี 1953, ร็อด เลเวอร์ ปี 1962 และ 1969, มาร์กาเร็ต คอร์ต ปี 1970 และคนล่าสุดคือ สเตฟฟี กราฟ ปี 1988

 

โดยความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เกร็ก ลูเซ็ดสกี อดีตนักเทนนิสหมายเลข 1 ของอังกฤษ ที่ให้สัมภาษณ์กับ BBC Radio 5 ว่า “เขาเพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ของปี และผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาจะมุ่งมั่นกับการคว้าคาเลนดาร์สแลมในปีนี้ และวิมเบิลดันก็มักจะเป็นหนึ่งในรายการที่ง่ายเสมอสำหรับเขาที่จะคว้าชัย”

 

“สุขภาพของเขายังดีอยู่ ทัศนคติและการเล่นของเขาก็ยังยอดเยี่ยมเช่นกัน มันน่าเหลือเชื่อกับสิ่งที่เขาได้ทำสำเร็จไปแล้ว”

 

“ไม่มีอะไรและไม่มีใครแล้วที่เหนือกว่าเขา และน่าจะหยุดเขาได้ในตอนนี้”

 

ดังนั้น ปีนี้เราอาจจะได้เห็นสิ่งที่หาดูได้ยาก อย่างการได้ทั้งคาเลนดาร์สแลม และการขึ้นไปคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุด 25 รายการ ทำลายสถิติทุกคนบนโลกนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising