×

ทนายวิญญัติแจ้งความแกนนำ คปส. 4 ข้อหา หลังเรียกร้องรัฐประหาร เผยรอดูมาตรฐานการทำงานของตำรวจ

โดย THE STANDARD TEAM
11.11.2020
  • LOADING...
ทนายวิญญัติแจ้งความแกนนำ คปส. 4 ข้อหา หลังเรียกร้องรัฐประหาร เผยรอดูมาตรฐานการทำงานของตำรวจ

วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อเวลา 10.11 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ พร้อมคณะทำงานภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เข้าแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ให้ดำเนินคดีอาญากับ กฤตย์ เยี่ยมเมธากร จากกรณีที่แสดงออกต่อสาธารณะหลายครั้งเกี่ยวเนื่องกับการยุยงส่งเสริมให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบกทำรัฐประหารและใช้วิธีการที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากใครทราบการกระทำลักษณะนี้ก็สามารถกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่มีความคิดทางการเมืองเช่นนี้ ซึ่งการแสดงออกล้วนแต่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

 

วิญญัติกล่าวว่าตนเห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่สุจริต เพราะมีถ้อยคำและข้อความที่เป็นการก่อให้ทหารหรือผู้มีอำนาจล้มล้าง เปลี่ยนแปลงกฎหมาย และยึดอำนาจปกครองในประเทศ ตนได้ตรวจสอบพฤติการณ์ก่อนกฤตย์จะมาให้สัมภาษณ์ ก็พบว่ากฤตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยใช้บัญชี กฤตย์ เยี่ยมเมธากร ให้ทำการยึดอำนาจหรือทำรัฐประหารมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 49 โดยฐานความผิดที่มากล่าวโทษวันนี้คือ

 

1. ความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใดให้ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ หรือยึดอำนาจในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร เป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ประกอบมาตรา 84

 

2. ความผิดฐานยุยงทหารหรือตำรวจให้หนีราชการ ให้ละเลย ไม่กระทำการตามหน้าที่ หรือให้ก่อการกำเริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 115 วรรคแรก

 

3. ความผิดฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (1)

 

4. ความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560

 

“แม้ในวันที่ 9 พฤศจิกายนจะมีการเปลี่ยนคำพูดไปใช้คำว่าชัตดาวน์ประเทศ เรียกร้องให้ใช้กฎหมายพิเศษ แต่ผมก็คิดว่าพฤติการณ์ความผิดสำเร็จไปแล้ว ผมรับไม่ได้ เพราะเป็นวิธีการที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญทั้งนั้น ผมจึงเห็นว่าการกระทำของกฤตย์ต่อเนื่องหลายครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ที่ศรัทธาระบอบประชาธิปไตยรับไม่ได้ ถ้าปล่อยความคิดนี้ไป ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะกลับไปถอยหลัง การใช้วิธีการยึดอำนาจหรือเผด็จการมาปกครองประเทศเป็นแนวคิดที่คนในปัจจุบันรับไม่ได้และไม่ยอมให้เกิดขึ้น การมาแจ้งความวันนี้เพื่อดูว่ามาตรฐานการดำเนินคดีและการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามมาตรฐานที่ดำเนินคดีเหมือนกับผู้ชุมนุมหรือไม่ เพราะผู้ชุมนุมทำอะไรก็ผิด ส่วนอีกด้านยังไม่เห็น ก็ต้องมาดูกัน” วิญญัติกล่าว 

 

วิญญัติยังกล่าวอีกว่า สำหรับกฤตย์นั้นดำเนินการอย่างไม่ได้มีนัย เรามาทำให้เห็นว่าระบบการปกครองบ้านเมืองที่ถูกต้อง เราปฏิเสธอำนาจเผด็จการและอำนาจอันไม่ชอบธรรมในการปกครองบ้านเมือง

 

สำหรับกฤตย์ เขาคือเลขาธิการเครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (คปส.) ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ผ่าน สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

 

โดยสาระสำคัญของจดหมายคือการเสนอรัฐบาลใช้กฎหมายพิเศษแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น แต่เขาปฏิเสธเรื่องการเรียกร้องให้มีการรัฐประหารตามที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ 

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ในวันที่ 8 พฤศจิกายน กฤตย์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มราษฎร และปรากฏคลิปต่อสาธารณะที่เรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ ออกมาทำรัฐประหารตัวเอง 

 

ทนายวิญญัติให้ข้อมูลว่ากฤตย์เคยเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวคนหนึ่งหลังโพสต์ความเห็นหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยบนเฟซบุ๊กด้วย ต่อมาเธอถูกศาลพิพากษาจำคุก 28 ปี แม้เธอมีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันฯ นี้ เนื่องจากในเวลาที่มีการโพสต์ข้อความดังกล่าว เธอยังคงทำงานอยู่ที่โรงแรม และไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในขณะนั้น

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising