×

ศาลไม่ให้ประกัน วนรัชต์ คดีโกงหุ้น STARK ชี้เสียหายต่อเศรษฐกิจ-สังคมมหาศาล เจ้าตัวปฏิเสธข้อหาพร้อมสู้คดี

โดย THE STANDARD TEAM
12.02.2024
  • LOADING...

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์) ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้อง วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ธุรกิจสี เป็นจำเลยในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

 

โดยศาลพิจารณาคำร้องอัยการโจทก์แล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.441/2567 สอบคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 มิถุนายน 2567 

 

ภายหลังจำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯระหว่างพิจารณาคดี

 

ทั้งนี้ วนรัชต์มีความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 89/7 จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว, ในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัทย่อยและผู้บริหารบริษัทย่อย, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้โดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ, กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลใดตาม พ.ร.บ.นี้ กระทำหรือยินยอมให้กระทำ

 

(1) ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชีเอกสาร หรือหลักประกันของนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลดังกล่าว (2) ลงข้อความเท็จหรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชีหรือเอกสารของนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวกับนิติบุคคลนั้น หรือ (3) ทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำเพื่อลวงให้นิติบุคคลดังกล่าวหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้หรือลวงบุคคลใดๆ, ร่วมกันโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 41 และ 343

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising