×

The Army of Beauties เมื่อกองทัพสาวเกาหลีเหนือขอบุกทุกพื้นที่หัวใจในพย็องชัง 2018

09.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • หนึ่งในสีสันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชังคือเหล่าหญิงสาววัยแรกแย้มที่มีใบหน้าและรอยยิ้มสดใสดุจดวงตะวัน ซึ่งพวกเธอมาในนาม ‘ผู้นำเชียร์ของกองทัพเกาหลีเหนือ’
  • โลกขนานนามพวกเธอว่าเป็น The Army of Beauties หรือกองทัพสาวงาม ที่พร้อมครองโลกโดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
  • “ผมไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่ขอบอกเลยกองเชียร์เกาหลีเหนือนั้นสวยจริงๆ จะเขวี้ยงหินใส่หน้าผมก็ได้ แต่ความจริงก็คือความจริง” เสียงหนึ่งจากหนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่โพสต์ลงบนทวิตเตอร์

 

 

เพียงก้าวแรกที่พวกเธอย่างกรายผ่านหน้าประตู ทุกเรื่องราวของความวุ่นวาย สับสน และความขัดแย้งต่างๆ ก็ถูกลืมจนหมดสิ้น ความสนใจถูกหยุดอยู่ที่เหล่าหญิงสาวที่เดินอย่างสง่าผ่าเผยและเป็นระเบียบ

 

เสื้อโค้ตผ้าวูลสีแดงตัดด้วยเฟอร์สีดำที่คอและข้อมือ เข้ากับหมวกสีดำทรงย้อนยุคได้เป็นอย่างดี และรองเท้าส้นสูงนั้นทำให้พวกเธอดูสง่ายิ่งกว่าเดิม

 

และใต้อาภรณ์เหล่านั้นคือหญิงสาววัยแรกแย้มที่มีใบหน้าและรอยยิ้มที่สดใสดุจดวงตะวัน

 

พวกเธอคือเหล่าผู้นำเชียร์ของทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือที่เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจแก่นักกีฬาชาวโสมแดงที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้

 

 

ในขณะที่โลกขนานนามพวกเธอว่าเป็น The Army of Beauties หรือกองทัพสาวงาม ที่พร้อมครองโลกโดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น

 

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ากองเชียร์สาวเหล่านี้ทำให้ภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือต่อนานาอารยประเทศนั้นซอฟต์ลงทันทีโดยไม่จำเป็นต้องใช้สีพาสเทล เพราะเป็นภาพที่แตกต่างจากเกาหลีเหนือที่อยู่ในความทรงจำของทุกคนอย่างมาก

 

อาจจะพูดได้ว่าเหมือนนางฟ้ากับซาตานอย่างไรอย่างนั้น

 

สำหรับกองเชียร์เกาหลีเหนือที่เดินทางมาเมืองพย็องชัง และจะอยู่ร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งเริ่มในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้มีจำนวนประมาณ 230 คน และได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งสื่อและแฟนกีฬาทั่วโลก ทำให้เรื่องราวน่าปวดหัวต่างๆ ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้ถูกลืมไปชั่วขณะ

 

เพราะก่อนหน้านี้พย็องชัง 2018 นั้นเต็มไปด้วยปัญหามากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) สั่งแบนทัพนักกีฬารัสเซียจากการแข่งขัน สืบเนื่องจากเรื่องของการใช้สารต้องห้ามที่มีการกระทำผิดจำนวนมาก

 

แต่ไอโอซีกลับเปิดช่องให้นักกีฬารัสเซียที่ไม่ได้ถูกตัดสินว่ากระทำผิดเข้าร่วมการแข่งขันได้ โดยให้แข่งขันในนามนักกีฬาโอลิมปิกจากรัสเซีย (Olympic Athlete from Russia หรือ OAR) และนั่นกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากถึงความเหมาะสม เพราะสุดท้ายยังมีนักกีฬารัสเซียเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 168 คน เกือบจะมากที่สุดในบรรดาชาติที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วม

 

ว่ากันว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ประเด็นดราม่าได้ หากมีนักกีฬาจากรัสเซียเกิดได้เหรียญทองจากโอลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมี ‘หลักสิบ’ เหรียญ

 

นอกจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่ในด้านการเมืองนั้น ‘ตึง’ จนใกล้จะขาดผึง

 

หลายฝ่ายจึงคาดหวังครับว่าโอลิมปิกที่พย็องชังอาจจะเป็นโอกาสที่ทั้งสองชาตินี้ได้หันหน้ากลับมาพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงของ ‘คนบ้านเดียวกัน’ บ้าง

 

เพราะนี่คือเกมกีฬาที่ไม่ควรมีเรื่องใดเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

 

แต่กว่าที่เกาหลีเหนือจะตกปากรับคำว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยก็ดึงเช็งจนเกือบถึงนาทีสุดท้าย โดยมีการหารือกันในหมู่ผู้นำระดับสูงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และบรรลุข้อตกลงกันเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมานี้เองครับ หรือ 1 เดือนก่อนการแข่งขัน

 

และถึงแม้ว่าจะมีการตกลงว่านักกีฬาทั้งสองชาติคือเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเดินลงสนามด้วยกันในพิธีเปิดภายใต้ ‘ธงรวมชาติ’ รวมถึงการที่ คิมยอจอง น้องสาวของ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ และจะมีทีมฮอกกี้น้ำแข็งที่ใช้นักกีฬาของทั้งสองชาติเล่นร่วมกัน ซึ่งฟังดูแล้วมันควรจะเป็นเรื่องที่สวยงาม

 

ทว่าในอีกด้านหนึ่งมันก็นำไปสู่ปัญหาที่น่าเห็นใจ โดยเฉพาะกับทีมฮอกกี้น้ำแข็งเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีนักกีฬาจำนวนหนึ่งที่ต้องเสียสละเปิดทางให้นักกีฬาเกาหลีเหนือได้เข้าร่วมในทีมด้วยโดยไม่มีสิทธิ์ปริปากใดๆ ทั้งๆ ที่อุตส่าห์สู้ฝึกซ้อมมาแทบตาย

 

เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ทำให้บรรยากาศของมหกรรมกีฬาที่ควรจะเต็มไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน หดหู่ลงไปพอสมควรครับ


จนกระทั่งกองเชียร์จากเกาหลีเหนือเดินทางมาถึงกรุงพย็องชังนี่แหละครับ ที่ทำให้บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปทันทีอย่างน่าอัศจรรย์

 

จากจอขาว-ดำเป็นจอสีเลยทีเดียว!

 

“ผมไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่ขอบอกเลยกองเชียร์เกาหลีเหนือนั้นสวยจริงๆ จะเขวี้ยงหินใส่หน้าผมก็ได้ แต่ความจริงก็คือความจริง”

 

ข้างต้นคือเสียงหนึ่งจากหนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ และยังมีอีกหลายเสียงมากมายที่พร่ำเพ้อไปเรียบร้อย

 

 

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกครับที่เราได้เห็นเหล่ากองเชียร์สาวจากกรุงเปียงยางปรากฏกายต่อหน้าชาวโลก

 

สาวจากแดนโสมแดงนั้นเคยปรากฏกายมาก่อนแล้วในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2002 ที่กรุงปูซาน เกาหลีใต้ จากนั้นก็เป็นกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เมืองแทกู เมื่อปี 2003 และการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียที่เมืองอินชอน ปี 2005 และหลังจากนั้นได้มีโอกาสไปเชียร์ทีมฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือในการแข่งฟุตบอลโลกหญิงที่จีนในปี 2007

 

ทุกครั้งที่พวกเธอปรากฏตัวจะนำมาซึ่งสีสันที่สวยงามในการแข่งขัน กับภาพของกองเชียร์ที่แต่งกายอย่างพร้อมเพรียงในชุดต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ (มีตั้งแต่ชุดแคดดี้, เสื้อยืดไนกี้ ไปจนถึงชุดฮันบกแบบประยุกต์) และการเชียร์ที่เต็มไปด้วยพลังงานที่สดใส

 

สำหรับสาวที่อยากจะอยู่ในทัพกองเชียร์เกาหลีเหนือนั้น ไม่ใช่ใครก็เป็นได้นะครับ

 

 

ทุกคนจะต้องถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ต้องสะสวย สง่างาม นอกจากนี้ยังต้องมีการสืบประวัติความเป็นมาอย่างละเอียด โดยเฉพาะการตรวจสอบว่าไม่ได้เป็น ‘ไส้ศึก’ ที่ถูกส่งเข้ามาแทรกซึมกิจการภายใน หรือนิยมศัตรูอย่างเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น

 

และที่สำคัญ ต้องมีทัศนคติที่ดีต่อเกาหลีเหนือและผู้นำสูงสุด

 

ดังนั้นโดยส่วนมากแล้วหญิงสาวที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าของ ‘ซินเดอเรลล่าแห่งเกาหลีเหนือ’ ว่า รีซอลจู ภรรยาของคิมจองอึน ก็เคยเป็นหนึ่งในสาวกองเชียร์ของเกาหลีเหนือด้วย

 

เพียงแต่จริงๆ แล้วเธอเป็นบุตรสาวของเจ้าหน้าที่ในระดับสูงและถูกส่งมาเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองเชียร์เพื่อเป็น ‘กระบวนการเตรียมความพร้อม’​ ก่อนที่จะเป็นภรรยาของผู้นำสูงสุด

 

เรียกว่าสถานะของพวกเธอไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ

 

ในความรู้สึกของชาวโลก พวกเธอไม่ต่างอะไรจากดอกไม้งามในดินแดนที่ลึกลับ และไม่น่าแปลกใจที่บางคนจะมีแฟนคลับเป็นของตัวเองด้วย (ส่วนมากเป็น ‘กัปตัน’ เช่น รียูคยอง อดีตกัปตันในปี 2002)

 

ความยากในการได้มาซึ่งรูปถ่ายและเรื่องราวของพวกเธอยิ่งทำให้ ‘คุณค่า’ เพิ่มขึ้นนับเท่าพันทวี

 

เช่นกันกับครั้งนี้ที่เชื่อว่าภาพและเรื่องราวของพวกเธอจะยิ่งเป็นที่ถูกจับตามองมากขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย

 

ดีไม่ดี ผลการแข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในสายตาเท่ากับการ ‘พักชมสิ่งที่น่าสนใจ’ อย่างกองเชียร์สาวชาวเกาหลีเหนือเหล่านี้

 

กองเชียร์ที่มีศักยภาพไม่ต่างอะไรจากกองทัพที่ไร้เทียมทาน

 

ความแตกต่างมีเพียงขณะที่กองทัพนำมาซึ่งการสูญเสีย บาดแผล และคราบน้ำตา

 

The Army of Beauties นำมาเพียงรอยยิ้ม ความสุข และสีสันที่สวยงาม

 

ถ้าท่านผู้นำคิมจะพิจารณาเปลี่ยนแนวทางมาใช้กองทัพชุดนี้บุกทั้งโลกแทนที่จะใช้นิวเคลียร์ มันอาจจะเข้าท่ากว่านะครับ ว่าไหม?

 

อ้างอิง:

FYI
  • นอกจากกองเชียร์สาวราว 230 คนที่เดินทางมาพย็องชังแล้ว ยังมีวงดุริยางค์อีก 130 คน และนักกีฬาเทควันโดอีก 30 คน ที่จะมาร่วมแสดงในพิธีเปิดโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย
  • ส่วนนักกีฬาเกาหลีเหนือที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกที่พย็องชังมีเพียงแค่ 22 คนเท่านั้น โดย 12 คนในนั้นเป็นนักกีฬาทีมฮอกกี้น้ำแข็งที่จะร่วมทีมเกาหลีใต้
  • ความจริงไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกใจกับกองเชียร์สาวเหล่านี้ เพราะมีชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งประท้วงการมาเยือนของพวกเธอ แต่ก็ไม่ได้นำพามาซึ่งความวุ่นวายหรือความรุนแรงอะไรมากมายนัก
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising