×

บช.น. ยอมรับ ส.ต.อ. มือยิงหนองบัวลำภูเคยเป็นตำรวจในสังกัด พบชอบเล่นปืน เก็บตัวไม่ยุ่งกับใคร ก่อนขอย้ายกลับบ้าน

โดย THE STANDARD TEAM
07.10.2022
  • LOADING...

วันนี้ (7 ตุลาคม) พล.ต.ต. นิธิธร จินตกานนท์ รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยกรณีสิบตำรวจเอก อดีตตำรวจที่ลงมือกราดยิง และมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 รายที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่าอดีตตำรวจคนดังกล่าวเคยอยู่สังกัดที่ บช.น. จริง ทาง บช.น. มีความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติของผู้เสียชีวิต ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ขณะเป็นข้าราชการตำรวจสังกัด บช.น. เป็นการตรวจตามขั้นตอนปกติว่าเป็นบุคคลผิดหลักเกณฑ์ต้องห้ามหรือไม่ โดยส่งฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมภาค 3 ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ทำงานในตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ยานนาวา ก่อนจะย้ายมาที่ สน.ลุมพินี ในฝ่ายสืบสวน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 จนต่อมาย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับ (ผบ.) หมู่งานป้องกันปราบราม สถานีตำรวจภูธร (สภ.) นาวัง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ระหว่างอยู่ที่ บช.น. นั้น ได้ขั้นเพียง 0.5 หรือ 1 และไม่มีความพร้อมในการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สุดท้ายจึงขอย้ายกลับจังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างทำงานไม่สามารถทำงานกับเพื่อนร่วมงานได้ตามปกติ และน่าจะมีปัญหาส่วนหนึ่ง 

 

“จากการตรวจสอบระหว่างที่ทำงานอยู่ ตั้งแต่เป็นสิบตำรวจตรีถึงสิบตำรวจโท พบว่าไม่ค่อยคุยกับเพื่อนร่วมงาน และมีความชื่นชอบในการเล่นอาวุธปืนพก สวมใส่เครื่องแบบ ส่วนที่ได้ยินว่ามีการเสพยาเสพติดตั้งแต่สมัยมัธยมที่ปรากฏตามสื่อนั้นไม่ทราบ ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ไม่เคยถูกจับกุม และมาสอบเข้ารับราชการ ช่วงที่อาจจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องช่วงที่เป็น ผบ. หมู่งานสืบสวน สน.ลุมพินี โดย พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน ได้สั่งการให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยให้ทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับงานสืบสวน ตรวจสอบตำรวจฝ่ายสืบสวนที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขณะที่ พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้กำชับให้ทางกองบังคับการต้องดำเนินการตรวจสอบ หากมีการหลบเลี่ยงก็จะดำเนินการตรวจสอบข้าราชการตำรวจคนนั้นทันที” พล.ต.ต. นิธิธรกล่าว 

 

พล.ต.ต. นิธิธรกล่าวอีกว่า กรณีการกราดยิงดังกล่าวทาง บช.น. ได้ฝึกเตรียมความพร้อมหลังได้รับแจ้งเหตุกราดยิง โดยบูรณาการกำลังเข้าเผชิญเหตุ บริหารการจัดการเหตุกราดยิง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ดูแลงานป้องกันปราบปราม ได้สั่งการให้พัฒนาการดำเนินการฝึกอบรมกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีผู้เสพยาเสพติดนั้น พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. ดำเนินการตรวจสอบตามชุมชนให้นำตัวส่งบำบัด โดยส่งไปทั้งสิ้น 1,036 ราย จากนั้นต้องติดตามเป็นบุคคลเฝ้าระวัง อาจกลับไปเสพยาเสพติดต่อ หรือมีอาการคลุ้มคลั่งได้ ผู้กำกับในพื้นที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ ส่วนการปราบปรามอาวุธปืนนั้น มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมเป็นช่วงๆ การดำเนินการปี 2563 จับกุมได้ 687 ราย และปี 2565 จับกุมได้ 930 ราย ซึ่งมีการจับกุมอาวุธเพิ่มมากขึ้น

 

ส่วนผู้ต้องหารายนี้ที่ได้พ้นจากความเป็นตำรวจไปแล้วนั้น พล.ต.ต. นิธิธรกล่าวว่า ร้อยละ 90 ของตำรวจจะทำเรื่องขอมีอาวุธปืน ต้องขอการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการต้องคดีหรือพ้นสภาพแล้ว จะต้องยื่นรายชื่อดังกล่าวระงับการใช้ 

 

“ทั้งนี้ ภายใน บช.น. มีบุคคลเป็นตำรวจต้องคดีลักษณะดังกล่าวออกจากระบบแล้ว 7 ราย ต่อไปจะต้องดำเนินการตรวจสอบประวัติเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะยาเสพติด จะไม่สามารถขออาวุธส่วนตัวได้” พล.ต.ต. นิธิธรกล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising