“เราไม่ได้อยากออกตัวว่า nita.bakeandbrew เป็นคาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะแค่เพียงเพราะว่าเราขายขนมหวานที่ล้วนทำมาจากมัทฉะเท่านั้น แต่เราอยากให้ทุกๆ คนมองว่าเราเป็นแค่มัทฉะเลิฟเวอร์คนหนึ่งที่นำเอาคาแร็กเตอร์ของผงมัทฉะแต่ละตัวที่เคยได้ชิมและดื่มในชีวิตประจำวัน มาปรับใช้ให้เข้ากับขนมในแต่ละเมนูเสียมากกว่า” นิ-ชนิดา กิตติบรรพชา หนึ่งในเจ้าของร้านขนมหวานมัทฉะออนไลน์ nita.bakeandbrew เริ่มต้นเล่าให้เราฟังถึงที่มาที่ไปของการตัดสินใจเปิดหน้าร้านแห่งนี้
เมื่อพูดถึงชื่อร้านอย่าง ‘nita.bakeandbrew’ ‘nita.’ หรือ ‘นิตา’ เราเชื่อว่าหลายๆ คนต้องคิดว่า นิตา มาจากชื่อของ นิ เจ้าของร้านเป็นแน่ แต่แท้จริงแล้วคำว่า ‘ta.’ นั้นมีที่มามาจากชื่อของหุ้นส่วนคนสำคัญอีกคนอย่าง แตง-พรรณรายณ์ ทองสมค่า (Tang) ลูกพี่ลูกน้องผู้ซึ่งคอยซุ่มสนับสนุนทั้งตัวร้าน ตัวของนิเอง รวมไปถึงยังเป็นผู้ช่วยทำขนมอยู่เบื้องหลังอีกด้วย
นอกเหนือจากการเป็นมัทฉะเลิฟเวอร์และแพสชันในการทำเบเกอรีของทั้งนิกับแตงแล้ว ด้วยสถานการณ์โควิดผนวกกับการทำงานประจำที่เริ่มจะไม่ค่อยมั่นคงนั้น ถือเป็นสาเหตุหลักๆ ของการริเริ่มเปิดแอ็กเคานต์อินสตาแกรมขายขนมเบเกอรีและเครื่องดื่มมัทฉะชงสดอย่าง ‘nita.bakeandbrew’ ด้วยเช่นกัน
“ช่วงแรกๆ ที่เราเริ่มขายผ่านอินสตาแกรม เราก็ขายได้บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับว่าขายดีอะไรมาก จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราเริ่มทำเมนูขนมเพิ่มเติมขึ้นมาจากเดิม เราก็มีโอกาสได้ทำบานอฟฟี่ไปให้ พี่มิ้นท์-เจ้าของร้าน ‘Unknownbake’ คาเฟ่ประจำที่เราชอบแวะเวียนไปกินขนมได้ชิม ซึ่งพอพี่เขาชิมแล้วก็ชอบมาก แล้วนำไปโปรโมตต่อให้ในเพจ ก่อนที่หลายๆ คนจะตามมาสั่งขนมจากร้านเรามากขึ้น” นิเล่าให้เราฟังต่อ
ล่วงเลยมาจนถึงปี 2564 แอ็กเคานต์ nita.bakeandbrew ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย ตลอดจนมีลูกค้าประจำมากหน้าหลายตาที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนรักมัทฉะหรือสายขนมหวานก็ดี โดยตัวนิก็ยังคงมีความตั้งใจที่อยากจะเปิดขายโปรดักต์ต่างๆ ในรูปแบบออนไลน์ต่อไป แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ด้วยแรงสนับสนุนจากทางบ้านที่ก็อยากจะให้นิและแตงนั้นได้มีพื้นที่หน้าร้านฉบับใกล้บ้านเป็นของตัวเอง ‘nita.bakeandbrew’ คาเฟ่ขนมหวานและเครื่องดื่มมัทฉะจึงได้ถูกเปิดใหม่ในย่านปุณณวิถีแห่งนี้
เมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน เราจะเจอกับส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์สำหรับออร์เดอร์ ตู้ขนม รวมไปถึงพื้นที่ชงชาที่มีส่วนโค้งเว้า (Arch) ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-เบจ ท็อปด้วยไม้ตัดกับผนังสีแดงด้านในเป็นอันดับแรก ก่อนที่โซนโต๊ะและที่นั่งของตัวคาเฟ่เองจะถูกเติมเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนไม้อบอุ่นตรงตามโจทย์ในสไตล์โมเดิร์นโบฮีเมียน-สแกนดิเนเวียน (Modern Bohemian-Scandinavian) ที่นิได้ตั้งไว้
กลับมาที่เมนูขนมและเครื่องดื่มมัทฉะ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ nita. มีลิสต์เมนูมากมายในระหว่างเปิดขายออนไลน์อยู่แล้ว การเปิดหน้าร้านในครั้งนี้ก็จะยังคงมีเมนูซิกเนเจอร์ยอดฮิตเช่นเดิม เพิ่มเติมคือความน่าตื่นเต้นของเมนูขนมที่ก็อาจจะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ชวนให้เราได้คอยลุ้นเมื่อได้แวะเวียนไปด้วยตัวเอง
เราเริ่มกันที่เมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ตัวตั้งต้นของร้าน nita. อย่าง ‘Shizuoka Matcha Banoffee’ (ราคา 150 บาท) ซึ่งจะถูกตัดเสิร์ฟมาในทรงสามเหลี่ยมชิ้นหนาๆ โชว์ทุกเลเยอร์ของตัวขนมบานอฟฟี่ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวฐานของขนม หรือครัสต์ที่ทำมาจากโอรีโอ้คลุกกับเนยแล้วนำไปอบ ก่อนจะไล่ขึ้นมาเป็นชั้นกานาชมัทฉะจากจังหวัดชิซึโอกะ (Shizuoka) ที่นิตั้งใจเลือกเอาคาแร็กเตอร์ความเขียวและขมชาเล็กๆ มาตัดกับความหวานของกล้วยที่สุกกำลังดี และความหวานมันๆ จากชั้นวิปครีมบนสุด จบท้ายด้วยผงมัทฉะจากชิซึโอกะที่โรยหน้าอีกตัวให้ทานกันเพลินๆ ได้อย่างเต็มคำ
ต่อกันด้วยเมนูขนมหวานที่มีเนื้อสัมผัสหอมนุ่มแทบละลายในปากกับเมนู ‘Fukuoka Chiffon Coconut Crumble’ (ราคา 160 บาท) เมนูมัทฉะชิฟฟอนที่ทางร้านได้เลือกใช้มัทฉะเกรดพิธีชงชาจากจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ด้วยการดึงคาแร็กเตอร์ของตัวชาหรือโน้ตโทนสโมกกี้ (Smoky) มาเป็นส่วนประกอบหลัก อย่างการทำเค้กที่มีความหอมชา นุ่มชิฟฟอน รวมไปถึงการทำตัวครีมสดมัทฉะที่จะให้รสหวานเนียน ผนวกกับความเข้มข้นของชาที่มาแบบไส้ทะลัก โดยพระเอกชูโรงของเมนูนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั้น เห็นจะเป็นครัมเบิลมะพร้าวที่มาพร้อมกับเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบและกลิ่นหอมมะพร้าว ช่วยเสริมรสชาติชาโทนนี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากลิ้มรสเมนูนี้ เราแนะนำว่าให้ลองโทรไปถามทางร้านกันดูก่อน เพราะเมนูขนมในหมวดหมู่มัทฉะชิฟฟอนนั้น ตัวนิกับแตงเองจะมีการทำสลับหมุนเวียนเมนูขนมกันอยู่เรื่อยๆ โดยนอกจากเมนู Fukuoka Chiffon Coconut Crumble แล้ว ก็จะยังมีเมนู Uji Matcha Strawberry Chiffon (ราคา 170 บาท) และ Uji Matcha Raspberry Chiffon (ราคา 140 บาท) ที่มีการเลือกใช้มัทฉะจากฝั่งเมืองอูจิคู่ไปกับผลไม้ตระกูลเบอร์รีอีกด้วย
หากพูดถึงเมนูขนมดั้งเดิมของ nita. เมื่อครั้งที่ยังคงเปิดร้านขายแบบออนไลน์อยู่ เมนูมัทฉะบราวนี หรือ ‘Brownie Matcha Creamcheese’ ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูตั้งต้นที่มาพร้อมๆ กันกับมัทฉะบานอฟฟี่เลยก็ว่าได้ และถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นชื่อเมนูนี้อยู่ที่หน้าร้าน nita.bakeandbrew แล้วนั้น ทางร้านก็ได้ส่งเมนู ‘Shizuoka Gâteau’ (ราคา 90 บาท) ที่มีความแตกต่างจากบราวนีเล็กน้อยอย่างการตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูออกมาให้เราได้ลองกันดู
สำหรับเมนู ‘Shizuoka Gâteau’ เมนูนี้มาในรูปทรงคลับคล้ายกับคัพเค้กที่มีเนื้อเค้กเป็นบราวนีที่ให้เท็กซ์เจอร์หนึบหนับสู้ฟัน มาพร้อมกับความฝาดของมัทฉะจากจังหวัดชิซึโอกะที่ยังไม่ทันจะได้รับรสความขม ก็มีรสชาติความหวานละมุนของตัวครีมสดที่ท็อปอยู่ชั้นบนมาเสริมเอาไว้อย่างทันท่วงที
ปิดท้ายเมนูขนมหวานประจำวันนี้กันไปด้วย ‘Twotone Basque Burnt Cheesecake’ (ราคา 150 บาท) ชีสเค้กหน้าไหม้ 2 เลเยอร์ที่เปิดโอกาสให้สายขนมหวานได้ตัดชิมทั้งตัวชีสเค้กหน้าไหม้เนื้อเนียนๆ หวานอมเปรี้ยวชีสเดี่ยวๆ หรือจะตัดคู่ไปกับชั้นชีสเค้กมัทฉะที่ใช้มัทฉะเบลนด์ระหว่างฝั่งอูจิมาช่วยเสริมกลิ่นหอม และชิซึโอกะที่ถูกเลือกมาให้ชูรสชาติชาสู้ไปกับวัตถุดิบหลักอย่างชีสกับไข่ก็ย่อมได้
นอกจากเมนูขนมหวานมัทฉะที่มีให้ได้เลือกสรรมากมายในทุกๆ วัน ด้านเมนูเครื่องดื่มมัทฉะของทาง nita.bakeandbrew เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะก็มีให้เลือกสั่งทั้งเมนูมัทฉะในหมวดหมู่ Cold-Whisk Latte หรือเมนูมัทฉะลาเต้ที่นำผงมัทฉะไปตีด้วยนมเย็นกว่า 3 เมนู 3 สไตล์ จาก 3 แหล่งปลูก (ชิซึโอกะ อูจิ และฟุกุโอกะ) รวมไปถึงหมวดหมู่เมนู Clear Matcha ที่ก็มีมัทฉะเกรดพิธีชงชาจากอูจิและฟุกุโอกะให้เลือกนำมาชงใส ตลอดจนเมนูมัทฉะน้ำผลไม้อย่าง Fukuoka Coconut (ราคา 160 บาท) และ Uji Yuzu Soda (140 บาท) ก็มีมาให้เลือกครบจบที่เดียวอีกด้วย
หากใครที่ต้องการหาขนมหวานสักจาน หรือเครื่องดื่มนอกเหนือจากมัทฉะสักแก้วดื่ม ทางร้านก็ยังมีเมนูขนมอย่างครัวซองต์ เลมอนเค้ก ยูซุเค้ก บราวนี รวมไปถึงครอฟเฟิล ที่จะเสิร์ฟสลับกันไปในแต่ละวัน
ในส่วนของเครื่องดื่มเอง nita.bakeandbrew ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มชาประเภทอื่นๆ อย่าง โฮจิฉะลาเต้ เซนฉะร้อน / เย็น และเมนูเครื่องดื่มไม่มีชาอย่าง Yuzu Soda (ราคา 110 บาท) กับ Valrhona Cocoa (ราคา 110 บาท) ให้เลือกดื่มเพลินๆ พร้อมชมบรรยากาศทั้งโซนด้านในและด้านนอกร้านได้เช่นกัน
nita.bakeandbrew
Open: เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. หยุดวันจันทร์-วันพุธ
Address: 11 ซอยปุณณวิถี 11 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
Budget: 90-160 บาท
Instagram: https://www.instagram.com/nita.bakeandbrew/
Map: