Nike Inc. ปรับลดประมาณการยอดขายลง เนื่องจากความล่าช้าในการผลิตและการขนส่งที่ได้เข้ามาขัดขวางความพยายามในการตอบสนองความต้องการรองเท้าและชุดกีฬาที่แข็งแกร่ง ซึ่ง Nike นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการกลับมาเล่นกีฬาอย่างจริงจังโดยมีแฟนๆ อัดแน่นสนามกีฬา และเด็กๆ กลับมาที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนอีกครั้ง
บริษัทเครื่องแต่งกายกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ออกมาระบุว่า ยอดขายในไตรมาสนี้อาจลดลง เนื่องจากการปิดโรงงานในเวียดนามทำให้ Nike ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ นั่นหมายความว่าการเติบโตทั้งปีจะอยู่ที่หลัก 1 ดิจิระดับกลาง แทนที่จะเป็น 2 ดิจิต้นๆ ซึ่ง Nike ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้
แมทธิว เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nike กล่าวว่า โรงงาน Nike ส่วนใหญ่ในเวียดนามยังคงปิดตัวลงตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่ง Nike สูญเสียการผลิตไปประมาณ 10 สัปดาห์ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และ Nike ไม่คาดหวังว่าโรงงานจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งจนถึงเดือนตุลาคม โดยจะใช้เวลาหลายเดือนในการเพิ่มการผลิต
ไม่ใช่แค่ Nike เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานชั่วคราวในเวียดนามที่ส่งผลถึงการผลิต Adidas ซึ่งผลิตสินค้าประมาณ 1 ใน 3 ที่เวียดนาม ระบุว่า ได้จัดสรรการผลิตใหม่ให้กับประเทศอื่นเป็นการชั่วคราว ขณะที่ Puma นั้นได้กล่าวในเดือนกรกฎาคม ว่ากำลังพยายามหาแหล่งผลิตอื่นๆ เพิ่มเติมจากประเทศจีนเพื่อชดเชยการลดลงในเวียดนาม แต่ล่าสุดโฆษกหญิงของ Puma กล่าวว่า โรงงานบางแห่งทางตอนใต้ของเวียดนามได้เริ่มกลับมาผลิตแล้ว และบริษัทหวังว่าโรงงานอื่นๆ จะค่อยๆ เปิดดำเนินการจนถึงเดือนตุลาคม
ผลกระทบจากการผลิตที่เวียดนามได้ส่งผลไปถึงราคาหุ้นเช่นกัน รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า หุ้น Nike ร่วงลง 4.6% ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของ Adidas ลดลงมากถึง 4% และ Puma มากถึง 2.9% ในการซื้อขายที่ตลาดแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อที่ 24 กันยายน
ขณะเดียวกันบรรดาแบรนด์กีฬายังต้องเผชิญความท้าทายจากการขนส่งอีก โดยระยะเวลาขนส่งจากเอเชียไปยังอเมริกาเหนือแย่ลงในไตรมาสนี้ โดยเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 80 วัน เนื่องจากความแออัดของท่าเรือและทางรถไฟ และการขาดแคลนแรงงาน นั่นทำให้สินค้าคงคลังจำนวนมากค้างอยู่ในการขนส่ง นอกจากนี้แบรนด์ทั้งหลายต่างรับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมการขนส่งทางทะเลที่สูงขึ้นด้วย
อ้างอิง:
