×

เนลสัน แมนเดลา เปลี่ยนความขัดแย้งระหว่างคนผิวสีและคนขาวในชาติด้วย ‘รักบี้’ ได้อย่างไร?

18.07.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 mins read
  • วันที่ 18 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกา
  • การคว้าแชมป์รักบี้ชิงแชมป์โลกของแอฟริกาใต้ในปี 1995 ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความปรองดองให้กับคนผิวขาวและผิวสีทั่วประเทศ จากการวางแผนของเนลสัน แมนเดลา
  • “ชาวแอฟริกาไม่ได้มีแค่ 65,000 คนในสนาม แต่เรามีกัน 43 ล้านคน” ฟรังซัวร์ พินาร์ กัปตันทีมชาติแอฟริกาใต้กล่าวกับโฆษกการแข่งขันหลังคว้าแชมป์รักบี้โลกในปี 1995 แสดงถึงสัญลักษณ์ความปรองดองในชาติ

18 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ ผู้เปลี่ยนความขัดแย้งระหว่างคนผิวสีและคนขาวในชาติด้วยกีฬาที่ชื่อ ‘รักบี้’

 

เนลสัน แมนเดลา ทำได้อย่างไร?

 

ต่อไปนี้คือเรื่องราวที่ทำให้เขายิ่งใหญ่และเป็นที่จดจำ

 

แฟนกีฬาจำนวน 65,000 คน เดินทางเข้าชมการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกที่แอฟริกาใต้ปี 1995 ในปีนั้นแอฟริกาใต้ภายใต้การนำของฟรังซัวร์ พินาร์ กัปตันทีม คว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรก หลังเอาชนะนิวซีแลนด์ ออลแบล็กไป 15-12 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

 

แต่ชัยชนะครั้งนี้มีความสำคัญกว่าแชมป์โลกรายการใด เพราะเกมนี้มีผลกระทบมากกว่าแฟนกีฬาที่เข้าชมในสนาม หลังจากที่ฟรังซัวร์ พินาร์ กัปตันทีมผิวขาวผมทอง เดินขึ้นไปรับถ้วยรางวัลจากเนลสัน แมนเดลา ชายที่เขาเคยเชื่อว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและไม่ควรได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ

 

เนลสัน แมนเดลลา อดีตผู้นำกองกำลังติดอาวุธของขบวนการผิวสีที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศแอฟริกาใต้ จับมือกับกัปตันทีมคนนั้น

 

นี่คือสัญลักษณ์ของความปรองดองที่มีกีฬาเป็นสื่อกลาง

 

“กีฬาพูดภาษาที่ทุกคนเข้าใจได้ทั่วโลก”

 

แมนเดลา กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังเขาตัดสินใจเลือกใช้กีฬาสร้างของความปรองดองระหว่างคนผิวสีและคนผิวขาวในแอฟริกาใต้

 

Photo: JEAN-PIERRE MULLER/AFP

 

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

ปี 1994 หลังจาก 4 ปีที่เขาถูกปล่อยตัวจากเรือนจำวิกเตอร์ เวอร์สเตอร์ แมนเดลาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศ

 

ท่ามกลางความหวังในการสร้างประเทศใหม่ แมนเดลาต้องประสบกับปัญหาการเหยียดสีผิวในประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นจากนโยบายแยกคนต่างผิวในแอฟริกาใต้ที่เริ่มขึ้นในปี 1991

 

ความรุนแรงในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างคนผิวสีและคนขาว หลังมีกลุ่มหัวรุนแรงนำมวลชนเข้าปะทะกับกองกำลังตำรวจและทหาร จนทำให้มีคนเสียชีวิต 750 คน

 

หลายคนเชื่อว่านี่คือสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงที่สุดระหว่างคนขาวและคนผิวสีในแอฟริกาใต้

 

ท่ามกลางความรุนแรงในประเทศ ปี 1995 แมนเดลาหันหน้าหาแรงสนับสนุนในการจัดรักบี้ชิงแชมป์โลกครั้งแรก ด้วยความหวังว่าการแข่งขันกีฬาจะช่วยรวมใจคนทั้งชาติ แต่ปัญหาที่เขาเจอคือ กีฬารักบี้และทีมชาติรักบี้ที่มีกวาง ‘สปริงก์บ็อกซ์’ เป็นสัญลักษณ์ของความกดขี่ เนื่องจากที่ผ่านมา รักบี้เป็นกีฬาสำหรับคนขาวเท่านั้น ขณะที่คนผิวสีเกลียดทั้งกีฬา ทั้งคนเล่น และทีมชาติสปริงก์บ็อกซ์

 

เห็นได้ชัดจาการแข่งขัน British & Irish Lions Tour ซึ่ง 4 ชาติจากยุโรป อังกฤษ ไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และเวลส์ รวมทีมมาทัวร์แข่งขันรักบี้ที่แอฟริกาใต้ เมื่อปี 1974 ซึ่งในระหว่างเกม คนผิวสีจะเชียร์ให้ทีม Lions ชนะทีมชาติแอฟริกาใต้ของพวกเขา เนื่องจากความเกลียดชังที่มีต่อกีฬาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่

 

แต่แมนเดลาตัดสินใจที่จะให้อภัยกับชนชั้นที่เคยกดขี่เขามาก่อนด้วยการสนับสนุนรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ และมีเป้าหมายที่จะพาคนผิวสีด้วยกันมาร่วมเชียร์สปริงก์บ็อกซ์ในรักบี้ชิงแชมป์โลกครั้งนี้

 

แมนเดลาใส่ชุดสีเขียวและหมวกที่มีสัญลักษณ์ของทีม และเชิญชวนให้คนผิวสีหันมาร่วมเชียร์ทีมชาติของพวกเขาเอง

 

เพราะพวกเขาคือเกียรติยศของชาติ ภายใต้แนวคิด ‘One Team One Country’

 

จุดประกายแรงบันดาลใจทีมชาติ

หลังจากทีมชาติแอฟริกาใต้ยอมรับแรงสนับสนุนจากแมนเดลา พวกเขาได้เดินทางไปเยี่ยมชมเรือนจำโรบิน ไอร์แลนด์ ซึ่งแมนเดลาถูกจำคุกอยู่เกือบ 30 ปี

 

ฟรังซัวร์ พินาร์ กัปตันทีมและนักรักบี้ชุดนั้น เผยความรู้สึกการเยี่ยมชมเรือนจำครั้งนั้นว่า พวกเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำสำคัญขนาดไหนสำหรับประเทศแอฟริกาใต้ แต่หลังจากเขาได้เห็นความลำบากที่แมนเดลาเคยพบ และยังสามารถให้อภัยคนที่เคยกดขี่เขาได้ แถมยังให้การสนับสนุนกีฬาที่เป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ นักรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ก็เข้าใจแล้วว่า ชัยชนะของพวกเขาในสนามสำคัญแค่ไหน

 

สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการใช้กีฬาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ ในระหว่างที่แมนเดลาเป็นนักโทษการเมือง เขาได้ช่วยจัดการแข่งขันกีฬาแบบจำกัดในพื้นที่ของนักโทษที่ถูกขังเดี่ยว จนเขากลายเป็นแฟนกีฬาฟุตบอลนักโทษตัวยง แต่สุดท้ายผู้คุมก็กลั่นแกล้งด้วยการสร้างกำแพงกั้นระหว่างนักโทษขังเดี่ยวกับนักโทษทั่วไป เพื่อไม่ให้พวกเขาได้มีความสุขจากการรับชมกีฬา

 

แมนเดลาได้ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์การเชียร์ฟุตบอลในเรือนจำว่า “กีฬาเป็นมากกว่าเกมการแข่งขัน แต่กีฬาช่วยสร้างความหวังในพื้นที่อันสิ้นหวัง กีฬาช่วยให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง”

 

เชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นให้แมนเดลาผลักดันให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพรักบี้โลกปี 1995 และฟุตบอลโลกปี 2010

 

Photo: VINCENT AMALVY/AFP

 

รักบี้ชิงแชมป์โลกปี 1995

เกมแรกแอฟริกาใต้เอาชนะออสเตรเลียแชมป์เก่าไป 27-18 จุด ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนจะเอาชนะฝรั่งเศสได้ในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์ 19-15 จุด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และพบกับนิวซีแลนด์ ออลแบล็ก ที่มี โจนาห์ โลมู ปีกจอมพลังเบอร์ 11 ที่น่ากลัวที่สุดในทัวร์นาเมนต์

 

แต่ระหว่างเส้นทางสู่รอบชิง พวกเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งชาติ จนเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงคือ คนผิวสีเริ่มเข้าสนามเพื่อร่วมเชียร์ทีมชาติแอฟริกาใต้

 

ลินกา มูนซามี (Linga Moonsamy) อดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผิวสีของแมนเดลายอมรับว่า ประชาชนผิวสีเริ่มรู้สึกว่านี่คือประเทศของเขา พี่น้องของเขา และเราจำเป็นต้องสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่

 

นัดชิงชนะเลิศปี 1995

เช้าวันที่ 24 มิถุนายน 1995 แฟนกีฬาชาวแอฟริกาใต้ตื่นขึ้นพร้อมกับความหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่จะเห็นชัยชนะของทีมชาติพวกเขาเหนือทีมนิวซีแลนด์ ออลแบล็ก โดยนัดชิงในประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะมีขึ้นที่เอลลิส พาร์ก สเตเดียม สนามเก่าแก่เต็มไปด้วยมนตร์ขลัง ตั้งอยู่ในโจฮันเนสเบิร์ก

 

ระหว่างการเดินทางไปสนาม แมนเดลามีโอกาสได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ผู้คนทั่วทั้งเมืองแต่งชุดสีเขียว โบกธงชาติและตื่นเต้นกับการแข่งขันรักบี้ในวันนั้น ทุกคนพร้อมแล้วสำหรับรอบชิงชนะเลิศ

 

แต่ในระหว่างที่ทีมสปริงก์บ็อกซ์กำลังทำสมาธิในห้องแต่งตัว สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อประตูของห้องแต่งตัวเปิดออก และชายวัย 77 ปีกับรอยยิ้มที่พวกเขาคุ้นเคยเดินเข้ามาพร้อมกับชุดสีเขียว และหมวกแก๊ปที่มีสัญลักษณ์สปริงก์บ็อกซ์ พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า ‘โชคดีนะทุกคน’ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง ซึ่งฟรังซัวร์ พินาร์ กัปตันทีมในขณะนั้นไม่อยากจะเชื่อว่าแมนเดลาจะใส่ชุดทีมชาติรักบี้แอฟริกาใต้เบอร์ 6 ซึ่งเป็นเบอร์ที่เขาใส่ลงสนามอีกด้วย

 

Photo: GARY BERNARD/AFP

 

นิวซีแลนด์ ออลแบล็ก ทำพิธีฮากา หรือการเต้นข่มขู่คู่แข่งตามวัฒนธรรมของพวกเขาก่อนเริ่มเกม แต่จบการแข่งขัน 80 นาที ทั้ง 2 ทีมเสมอกัน 12-12 จุด ทำให้ต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ

 

แต่ในช่วงต่อเวลา แฟนกีฬาทั้งสนามก็ลุกขึ้นตะโกนอย่างสุดเสียง เมื่อ โจล สแตรนสกี (Joel Stransky) ผู้เล่นหมายเลข 10 เตะดรอปโกลเข้าระหว่างเสา พาเจ้าบ้านขึ้นนำ 15-12 จุด ก่อนกรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลา ทำให้แอฟริกาใต้คว้าแชมป์โลกรักบี้ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 

แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ผลกระทบจากชัยชนะเกมนี้ โจนาห์ โลมู ปีกจอมพลังของนิวซีแลนด์ยอมรับว่า พวกเขารู้สึกเหมือนมีกันเพียง 15 คนในสนามที่กำลังแข่งขันกับคนแอฟริกาใต้ทั้งประเทศ เนื่องจากเสียงเชียร์ในสนามดังกระหึ่มตลอดการแข่งขัน

 

นักรักบี้ที่เข้าร่วมแข่งขันนัดชิงชนะเลิศรักบี้ชิงแชมป์โลก 1995 ต่างเล่าถึงประสบการณ์ในวันที่ 24 มิถุนายน 1995

 

หลังจบการแข่งขัน เสียงเชียร์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

 

‘เนลสัน เนลสัน เนลสัน’

 

กระหึ่มดังเป็นเสียงเดียวกันทั้งสนามระหว่างที่ประธานาธิบดีของพวกเขาเดินลงสนามมาแสดงความยินดีกับทีมแอฟริกาใต้

 

ระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขัน โฆษกในสนามได้เดินไปสัมภาษณ์กัปตันทีมฟรังซัวร์ พินาร์ ซึ่งเขาได้กล่าวประโยคที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในวลีเด็ดที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬา

 

โฆษก: วันนี้เรามีแฟนชาวแอฟริกามาร่วมเชียร์ทั้งหมด 65,000 คนในสนามเป็นสิ่งที่วิเศษมาก

 

ฟรังซัวร์: เดวิด (โฆษก) ชาวแอฟริกาไม่ได้มีแค่ 65,000 คนในสนาม แต่เรามีกัน 43 ล้านคน

 

มิตรภาพไม่มีวันตาย

“กีฬามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลก มีพลังที่จะสร้างแรงบันดาลใจ มีพลังที่จะรวมใจคนเข้าด้วยกัน กีฬามีพลังที่อย่างอื่นไม่มี” เนลสัน แมนเดลาให้สัมภาษณ์ หลังการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกปี 1995 ผ่านไป 5 ปี

 

แมนเดลาและฟรังซัวร์กลายเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่นั้น โดยแมนเดลายังได้รับลูกชายทั้ง 2 คนของฟรังซัวร์เป็นลูกบุญธรรม

 

ก่อนที่อีกหลายปีให้หลังแมนเดลาจะเสียชีวิตลงในปี 2013

 

ฟรังซัวร์ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเสียเพื่อน พ่อบุญธรรมของลูก และ ประธานาธิบดีที่ช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศว่า

 

“ผมหวังว่าวันนี้เราเห็นน้ำตาของความสุขที่แอฟริกาใต้ โชคดีขนาดไหนที่ได้เนลสันมาสร้างถนนสู่ความสามัคคี

 

“และหวังว่าผู้นำคนต่อๆ ไป จะไม่ใช้ชื่อของเนลสันเพื่อช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เนลสันยืนหยัดต่อสู้ และพัฒนาประเทศไปข้างหน้า”

 

อ้างอิง:

FYI

 

  • เหตุการณ์ในปี 1995 ถูกนำไปทำเป็นภาพยนต์เรื่อง Invictus กำกับการแสดงโดยคลินต์ อีสต์วูด นำแสดงโดยแมตต์ เดมอน รับบทเป็นฟรังซัวร์ พินาร์ และมอร์แกน ฟรีแมน รับบทเป็นเนลสัน แมนเดลา
  • แอฟริกาใต้ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกปี 1995 ต่อด้วย คริกเก็ตชิงแชมป์โลกในปี 2003 ก่อนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในทวีปแอฟริกาปี 2010  

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising