×

คอนเต กับการหลีกเลี่ยงประวัติศาสตร์ซ้ำรอยของเชลซี

08.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • เชลซีเสริมทัพนักเตะถึง 4 คน เพื่อเตรียมรับมือกับแมตช์การแข่งขันที่อาจสูงถึง 63 เกมถ้าพวกเขาทำผลงานได้ดีในเวทียุโรป
  • คอนเตยอมรับว่าต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์เดียวกับโชเซ มูรินโญ ที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและถูกปลดในฤดูกาลต่อมา เนื่องจากผลงานไม่ดี
  • สำนักข่าวต่างประเทศเชื่อว่าเชลซีจะมุ่งเน้นทำผลงานในยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ลีกมากกว่าการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก เนื่องจากคอนเตยังไม่เคยพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ

     ตอนที่ 2 ต่อจากอาร์เซนอล วันนี้เราจะมาพูดถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซี (Chelsea) ซึ่งถึงแม้ว่าจะทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม แต่ทีมงานก็ยังคงต้องระวังประวัติศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกครั้ง

     “ผมรู้ดีว่าฤดูกาลหน้าจะเป็นงานที่ยากลำบาก ผมอยากเลี่ยงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับสโมสรเชลซีที่จบอันดับที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อ 2 ปีก่อน เรากำลังทำผลงานได้ดี และหวังว่าจะได้พบทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต”

     อันโตนิโอ คอนเต ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการทัวร์พรีซีซันถึงเป้าหมายที่แท้จริงของเชลซีในฤดูกาลนี้ โดยปีที่ผ่านมาเชลซีสร้างสถิติเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด 30 เกม จากทั้งหมด 38 เกมในพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 พร้อมทำคะแนนทิ้งห่างอันดับที่ 2 อย่าง ท็อตแนม ฮอต สเปอร์ ถึง 7 คะแนน

 

Photo: Anthony Devin/AFP

 

     แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของเชลซีมักจะตามมาด้วยผลงานที่ล้มเหลว โดย โชเซ มูรินโญ อดีตผู้จัดการทีมที่พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัยติดต่อกันในปี 2004-2005 และ 2005-2006 ยังหนีไม่พ้นอาถรรพ์ผู้จัดการทีมเชลซี โดยในปี 2015 มูรินโญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ก่อนที่ปี 2016 มูรินโญจะมีปัญหาภายในทีม ส่งผลให้พวกเขาจบอันดับที่ 10 และมูรินโญ กุนซือคู่บุญของเชลซีก็ถูกปลดในฤดูกาลนั้น

 

 

คอนเต กุนซือจอมแท็กติก กับความท้าทายใหม่ในเวทีเดิม

     คอนเต ถือว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่สามารถปรับเปลี่ยนแท็กติกได้ตามสถานการณ์ เพื่อนำรูปแบบการเล่นใหม่มาปรับให้เข้ากับทีมตามสไตล์กุนซืออิตาเลียน ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า คอนเตเริ่มใช้แผน 3-4-3 หลังจากที่เชลซีพ่ายแพ้ 2 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูลในบ้าน และเกมเยือนที่อาร์เซนอล ส่งผลให้พวกเขาเก็บชัยชนะได้ 13 นัดติดต่อกัน และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองด้วยแท็กติกนี้ ทำให้เชื่อได้ว่าคอนเตจะสามารถปรับแท็กติกใหม่ให้รับกับสถานการณ์ความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้น โดยไม่ยึดติดกับการทำงานแบบเดิมๆ ซึ่งอาจเป็นกับดักความสำเร็จของผู้จัดการทีมคนก่อนๆ

 

 

     จุดนี้ วันชนะ ศรีจำปา แฟนพันธุ์แท้นักเตะระดับโลกและแฟนเชลซีมองว่า คอนเตอาจจะใช้กองหลังสามคนเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับรายละเอียดในส่วนอื่นๆ มากขึ้น

     “คอนเตเท่าที่ตามดู เขาโตมาจากระบบ 4-2-4 ก่อนจะปรากฏว่าไม่สำเร็จ จึงเริ่มใช้กองหลังสามคน เลยเชื่อว่าเขาน่าจะใช้ระบบกองหลังสามคนเหมือนเดิม แต่อาจจะปรับตำแหน่งอื่นๆ หรือปรับรายละเอียดในแท็กติก”

 

 

โมราตา คุณค่าที่เชลซีคู่ควร?

     ฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซีได้ ดิเอโก คอสตา เป็นกำลังสำคัญที่ยิงไปทั้งหมด 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก และมี เอเดน อาซาร์ เป็นผู้สร้างสรรค์ในเกมรุก รวมถึงยังได้ เอ็นโกโล ก็องเต ซึ่งถือว่าเป็นกองกลางตัวรับที่สกัดบอลได้เด็ดขาด จนเป็นหัวใจของเกมรับเชลซี ยังไม่รวมถึงกองหลังอย่าง ดาวิด ลุยซ์ และ เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา ที่ประสานงานเกมรับกันได้อย่างลงตัว

 

Photo: ROSLAN RAHMAN/AFP

 

     ฤดูกาลที่ผ่านมาเชลซีมีเกมรับที่แข็งแกร่งและเกมรุกที่ดุดัน แต่คอนเตก็ได้เรียนรู้จากบทเรียนของกุนซือคนก่อนๆ ที่ไม่เดินหน้าเสริมทัพให้แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยปีนี้คอนเตได้เซ็นสัญญากับนักเตะถึง 4 คน เพื่อช่วยผลงานในลีกและในเวทียุโรป

     โดยนักเตะที่ทุกคนให้ความสำคัญคือ อัลบาโร โมราตา ศูนย์หน้าชาวสเปน วัย 24 ปี ที่เพิ่งประสบความสำเร็จกับเรอัล มาดริด แชมป์ยุโรปสมัยล่าสุดมาร่วมทีม ถึงแม้โมราตาจะไม่ใช่เป้าหมายแรก แต่ด้วยความสามารถและราคา 58 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับเป้าหมายหลักอย่าง โรเมลู ลูกากู (75 ล้านปอนด์) ถือว่ามีความคุ้มค่า เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ระดับสูงในเวทียุโรปกับทั้งเรอัล มาดริดและยูเวนตุส

     แต่ทางวันชนะยอมรับว่า ยังมีความกังวลกับการเสริมตัวนักเตะ เนื่องจากเชลซีฤดูกาลที่ผ่านมามีคอสตาเป็นตัวจบสกอร์ แต่ขณะที่โมราตายังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เท่าที่ควร

     “เรื่องซื้อตัวผมยังไม่ค่อยพอใจเท่าไร จริงๆ ผมเสียดายเป้าหมายหลักคือ โรเมลู ลูกากู เนื่องจากเป็นศูนย์หน้าสไตล์ที่เหมาะสมกับเชลซี เนื่องจากมีความคล้ายกับดิดิเยร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้าที่สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม และเสียดายที่เชลซีขายเนมันยา มาติช ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากกองกลางของเชลซีอาจต้องมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งตัวจริงมากขึ้น หลังจากที่ได้สิทธิลงแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง”

     “โมราตาผมมองว่ายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองขนาดนั้น ตั้งแต่เล่นอาชีพมายังไม่สามารถเป็นตัวหลักในการถล่มประตูให้กับสโมสรไหนเลย ตั้งแต่ยูเวนตุสที่แม้ลงเป็นตัวจริงแต่ก็ไม่สามารถยิงประตูได้เยอะ หรือเรอัล มาดริดที่ไม่สามารถเบียดลงตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ครั้งนี้เขาอาจจะต้องพิสูจน์ตัวเองเยอะเหมือนกัน นอกจากนี้อาจต้องเสริมนักเตะในแดนกลางอีกหนึ่งคนหลังจากเสียมาติชไป”

 

Photo: Glyn KIRK/AFP

 

จุดอ่อน-จุดแข็งของเชลซีจากฤดูกาลที่แล้ว

     เชลซีเป็นทีมที่สามารถสร้างสถิติเก็บชัยชนะได้ถึง 30 นัด จาก 38 นัดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ​ โดยความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความเด็ดขาดของนักเตะเชลซีที่สามารถเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้

     “เชลซีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาโดยเฉพาะเกมใหญ่ ทางสโมสรใช้โอกาสไม่เยอะ ชัดที่สุดคือเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนั้นโดนบุกทั้งเกม แต่สวนมาแล้วได้ประตู นี่คือจุดแข็ง รวมถึงเกมรับด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ค่อยมีนักเตะได้รับบาดเจ็บ”

     แต่ปัญหาที่มีคือ คุณภาพของนักเตะในม้านั่งสำรอง โดยวันชนะมองว่า อาจจะเป็นปัญหาเมื่อเชลซีต้องลงแข่งขันฟุตบอลถึง 4 รายการในฤดูกาลนี้

     “ตัวสำรองฤดูกาลที่ผ่านมา ลงมาแล้วไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้ มันยังมีช่องโหว่ มีความแตกต่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เชลซีไม่ต้องเจอ เพราะไม่ต้องลงแข่งขันในฟุตบอลยุโรป ทำให้ปีนี้จุดอ่อนอาจจะเด่นชัดขึ้น แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับว่านักเตะที่ซื้อมาเพิ่มสามารถปรับตัวกับทีมได้ดีแค่ไหน”

 

Photo: Anthony Devin/AFP

 

คอนเต กับการหลีกเลี่ยงประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

     เชลซีที่ผ่านมาอาจจะประสบปัญหาการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมโดยเฉลี่ยแทบจะ 2 ปีต่อ 1 ครั้ง แม้กระทั่งกุนซือสมองเพชรอย่างโชเซ มูรินโญ ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยก็ยังเคยถูกปลดจากตำแหน่งมาแล้ว เนื่องจากผลงานในฤดูกาล 2015-2016 ถือว่าล้มเหลวในอันดับที่ 10 ของพรีเมียร์ลีก แต่ทางวันชนะ มองว่า สถานการณ์ของทีมได้เปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากทางโรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี เริ่มไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจในทีม

     โดยในปีนี้เชื่อว่า ด้วยความสามารถของคอนเตน่าจะทำผลงานได้ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 3 และน่าจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ ทำให้เก้าอี้ผู้จัดการทีมของคอนเตน่าจะมีความมั่นคงพอสมควร

     ส่วนการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก วันชนะมองว่า การป้องกันแชมป์ยากพอสมควร เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาเชลซีไม่จำเป็นต้องเล่นฟุตบอลยุโรป ทำให้มีเวลาทุ่มกับบอลลีกได้อย่างเต็มที่ แต่ปีนี้มีฟุตบอลยุโรปเข้ามา ทำให้การบริหารจัดการน่าจะยากขึ้น ขณะที่คู่แข่งที่น่ากลัวคงเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เสริมตัวได้น่ากลัว และระบบของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปนเริ่มเข้าที่

     “โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าแชมปเปี้ยนส์ลีก เชลซีน่าจะเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ต่อจากนั้นต้องรอดูว่าจะเข้าไปพบกับใคร

     “ส่วนพรีเมียร์ลีก ผมว่าหนึ่งในสามน่าจะติด ส่วนจะทำได้ดีขนาดไหนอาจจะต้องดูผลงานในแชมปเปี้ยนส์ลีกด้วย เพราะถ้าตกรอบเร็วก็อาจจะทำผลงานในลีกได้ดี ยกตัวอย่างเหมือนท็อตแนม ฮอต สเปอร์ ที่ตกรอบยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ลีกเร็วมาก ทำให้เขามาทุ่มในลีกมากขึ้น จนก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์กับเชลซีได้ ทีมอังกฤษ ช่วงหลังๆ ทีมที่ทำผลงานได้ดีคือทีมที่โปรแกรมเตะไม่เยอะ มักจะโชว์ฟอร์มได้ดี แต่ยังมองว่าเชลซีมีมาตรฐานพอที่จะติดหนึ่งในสามได้”

     ความท้าทายของเชลซีในฤดูกาลนี้คือการทำผลงานให้ดีกว่าเก่า เพราะที่ผ่านมาเชลซีมักจะประสบความล้มเหลวในฤดูกาลหลังแชมป์พรีเมียร์ลีก ถึงแม้ว่าหลายครั้งที่ผ่านมาจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดความแตกแยกภายในทีม และความแตกแยกระหว่างนักเตะกับผู้จัดการทีม

     แต่สิ่งหนึ่งที่สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ตรงกันหมดคือ นักเตะหมดความกระหายที่จะอยากได้ชัยชนะ ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลอย่างชัดเจนเมื่อเชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014-2015 แต่ในฤดูกาล 2015-2016 พวกเขากลับหมดความท้าทายจนตกไปอยู่อันดับที่ 10 ของพรีเมียร์ลีก แต่แล้วด้วยความมุ่งมั่นของคอนเต และความล้มเหลวในปีนั้น ก็กลายเป็นแรงผลักดันให้พวกเขากลับมาคว้าแชมป์ด้วยสถิติที่สวยหรูในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้นักเตะเชลซีและคอนเต ซึ่งมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเวทียุโรปต้องเรียนรู้จากบทเรียนความสำเร็จว่า

     เมื่อไรก็ตามที่คุณหยุดพัฒนา วันนั้นคือวันที่คุณเริ่มก้าวถอยหลังแล้ว

 

Cover Photo: Anthony Devin/AFP

ภาพประกอบ: Thiencharas.w

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising