นิวซีแลนด์เตรียมแบนปืนกึ่งอัตโนมัติ คาด บังคับใช้เดือนเมษายน หลังเหตุก่อการร้ายไครสต์เชิร์ช

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งนิวซีแลนด์ ประกาศว่า ทันทีที่กฎหมายควบคุมอาวุธปืนฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ปืนไรเฟิลและปืนแบบกึ่งอัตโนมัติทุกชนิดจะถูกแบนห้ามซื้อขายและใช้ในประเทศนิวซีแลนด์อีกต่อไป หลังเกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในไครสต์เชิร์ช โดยมือปืนชาวออสเตรเลีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้นำนิวซีแลนด์คาดว่า กฎหมายใหม่จะพร้อมประกาศใช้ในวันที่ 11 เมษายนนี้ ครอบคลุมถึงการแบนชิ้นส่วนที่สามารถนำไปดัดแปลงเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติสำหรับทหาร (MSSA) และที่ใส่กระสุนปืนจำนวนมากด้วย โดยผู้ครอบครองอาวุธเหล่านี้สามารถนำไปขายคืนได้

“เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ประวัติศาสตร์ของเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล กฎหมายของเราก็เช่นกัน เราประกาศดำเนินมาตรการในวันนี้ในนามของชาวนิวซีแลนด์ทั้งหมด เพื่อทำให้กฎหมายอาวุธปืนเข้มงวดขึ้น เพื่อให้ประเทศของเราเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น” อาร์เดิร์นแถลงที่กรุงเวลลิงตัน

“ปืนกึ่งอัตโนมัติแบบที่ใช้ก่อการร้ายเมื่อวันศุกร์ที่แล้วทุกกระบอกจะถูกแบนอย่างเด็ดขาด”

คำประกาศของอาร์เดิร์นมีขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายควบคุมอาวุธปืนภายหลังเกิดเหตุโจมตีไครสต์เชิร์ชได้เพียง 72 ชั่วโมง

อาร์เดิร์นได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากภาวะผู้นำของเธอ หลังจากที่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ ในโลกโซเชียลมีเดีย ผู้คนยกย่องอาร์เดิร์นว่า เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้นำทั่วโลกในการรับมือกับวิกฤต เริ่มต้นจากการที่เธอประณามผู้ก่อการร้ายภายในเวลาอันรวดเร็ว ตามมาด้วยการประกาศแก้กฎหมายควบคุมอาวุธปืน เพื่อป้องกันเหตุร้ายในอนาคต นอกจากนี้เธอยังประกาศจะไม่เอ่ยชื่อผู้ก่อเหตุ โดยให้ความสำคัญกับเหยื่อเคราะห์ร้ายเท่านั้น และเธอยังได้รับคำชื่นชมจากกรณีที่ลงพื้นที่ให้กำลังใจเหยื่อและครอบครัวเหยื่อ โดยที่สวมฮิญาบแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชาวมุสลิม และสร้างความปรองดองในประเทศโดยไม่ให้มีการแบ่งแยก

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: