THE FACEBOOK SCANDAL
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เดินทางเข้าตอบข้อซักถามต่อคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา หลังเกิดกรณีบริษัท Cambridge Analytica เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่าสิบล้านราย เพื่อนำไปใช้วางแผนการรณรงค์หาเสียงให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้กล่าวขอโทษและขอรับผิดแต่ผู้เดียว
“พวกเราไม่ได้มีมุมมองที่กว้างพอต่อการรับผิดชอบของเรา นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ และถือเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมต้องขออภัยต่อ สิ่งที่เกิดขึ้น มันอาจจะกินเวลาสักระยะ เพื่อดำเนินงานตามการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ควรจะต้องเปลี่ยน แต่ผมมุ่งมั่นที่จะทำให้มันถูกต้อง” มาร์กกล่าว
THE THIRD BABY
ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงมีพระประสูติกาลพระโอรส ในเวลา 11.01 น. ของวันที่ 23 เมษายน 2018 ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี กรุงลอนดอน ทรงมีน้ำหนักพระวรกาย 3.82 กิโลกรัม เจ้าชายน้อยทรงเป็นทายาทพระองค์ที่ 3 ในเจ้าชายวิลเลียม และดัชเชสแห่ง เคมบริดจ์ และทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 5 แห่ง ราชบัลลังก์อังกฤษ
สำนักพระราชวังเคนซิงตันประกาศพระนาม เจ้าชายพระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 โดยทรงมีพระนามเต็มว่า ‘เจ้าชายลูอี อาร์เธอร์ ชาร์ลส์ ทรงพระยศอย่างเป็นทางการว่า ‘เจ้าฟ้าหลุยส์แห่งเคมบริดจ์ หรือเจ้าชายลูอี’ โดยคาดว่า พระนามเต็ม ลูอี อาร์เธอร์ ชาร์ลส์ มีที่มาจากพระนามเต็มของเจ้าชายวิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลลิป ลูอี อีกทั้ง ‘อาร์เธอร์’ ยังเป็นพระนามกลางของพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ส่วน ‘ชาร์ลส์’ มาจากพระนามของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งเป็นพระอัยกาของเจ้าชายพระองค์ใหม่
ก่อนหน้านี้ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงมีพระโอรสและพระธิดาด้วยกัน 2 พระองค์ คือ เจ้าชายจอร์จ พระชันษา 4 ปี และเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระชันษา 2 ปี ซึ่งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 และ 4 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ
THE WINNING SHOTS
รางวัลพูลิตเซอร์ (Pulitzer Prizes) ถือเป็นรางวัลเกียรติยศแก่คนทำงานในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพถ่าย วรรณกรรม และบทประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรางวัลหนึ่งของโลก บริหารจัดการโดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมอบรางวัลครั้งแรกในปี 1917 และจัดพิธีมอบรางวัลขึ้นเป็นประจำทุกปี รางวัลภาพข่าวเล่าเรื่องและ ภาพข่าวด่วนยอดเยี่ยมเป็น 2 รางวัล จากทั้งหมด 21 รางวัล ที่มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก โดยปีนี้ รางวัลพูลิตเซอร์ สาขาภาพข่าวเล่าเรื่องยอดเยี่ยม (Feature Photography) ตกเป็นของทีมช่างภาพของสำนักข่าว Reuters จากภาพถ่ายวิกฤตผู้อพยพชาวโรฮีนจา อันเกิดจากเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงที่สุดในรอบปีที่ผ่านมาในเมียนมา ขณะที่รางวัล พูลิตเซอร์ สาขาภาพข่าวด่วนยอดเยี่ยม (Breaking News Photography) ได้แก่ ภาพรถยนต์กำลังพุ่งชนกลุ่มผู้เห็นต่างในเหตุการณ์นรกบนดินที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ ในรัฐเวอร์จิเนีย เหตุการณ์ความรุนแรงที่สะท้อนถึงปัญหาการเหยียดและต่อต้าน ‘ความเป็นอื่น’ ที่ฝังรากลึกในสังคมอเมริกัน ผลงานของ ไรอัน เคลลี จากสำนักข่าว The Daily Progress
BROMANCE OF THE LEADERS
THE STANDARD รวบรวมวินาทีน่ารักน่าจดจำของเหล่าบุรุษผู้ทรงอิทธิพลในโลก เริ่มด้วยเจ้าชายแฮร์รีจากราชวงศ์อังกฤษ ทรงรับสั่งทักทายนายกรัฐมนตรีแคนาดา นายจัสติน ทรูโด ระหว่างงานเลี้ยงเครื่องดื่มในห้อง Blue Drawing Room ก่อนจะเข้าสู่งานเลี้ยงอาหารค่ำที่ Picture Gallery ซึ่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้นพระราชทานแด่เหล่าผู้นำรัฐบาลของประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ ในการประชุมผู้นำ ณ พระราชวังบักกิงแฮม กรุงลอนดอน ต่อด้วยความใกล้ชิดสนิทแนบระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่สวมกอดประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง อย่างแนบแน่น ระหว่างพิธีต้อนรับผู้นำฝรั่งเศสและภริยา นางบริจิตต์ มาครง ในภารกิจเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้นช่วงกลางเดือนเมษายน ผู้นำฝรั่งเศสยังได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีแคนาดาที่ Elysee Palace กรุงปารีส โดยทั้งสองสวมกอดกันอย่างอบอุ่น และได้หารือเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยทั้งคู่ตกลงเห็นชอบที่จะแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาจะตัดสินใจไม่เข้าร่วมก็ตาม
UNITED WE STAND
วันที่ 27 เมษายน 2018 ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ ที่โลกต้องจดจำ เมื่อสองผู้นำเกาหลีพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี โดยการเผชิญหน้าครั้งประวัติศาสตร์นี้ เกิดขึ้นที่หมู่บ้านพักรบปันมุนจอม ระหว่างเขตปลอดทหารของทั้งสองฝั่งเกาหลี เพื่อเจรจาทางการทูตเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งหารือเพื่อยุติสงครามและความขัดแย้งทั้งหมด
คิมจองอึน กลายเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่ก้าวข้ามเส้นพรมแดนที่แบ่งแยกคาบสมุทรเกาหลีทั้งสองออกจากกัน นับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงในปี 1953 บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างกลางของเขตปลอดทหารบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อีกทั้งยังมีวินาทีไม่คาดฝัน เมื่อประธานาธิบดีมุนแจอิน แห่งเกาหลีใต้ ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตเข้าสู่แผ่นดินเกาหลีเหนือเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนสองผู้นำจะจับมือกันเดินกลับมาที่ฝั่งเกาหลีใต้ และเริ่มการสนทนาอย่างเป็นกันเองขณะจับมือ ตลอดการเดินบนพรมแดงจนถึงสถานที่รับรอง โดย คิมจองอึนบอกกับมุนแจอินว่า “ตอนนี้เราควรพบปะกันให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” อีกทั้งนายคิมจองอึนยังได้ลงนามในสมุดเยี่ยมที่อาคารสันติภาพ โดยมีใจความว่า “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่เริ่มขึ้นแล้ว – จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์และยุคของสันติภาพเริ่มต้นที่นี่”
การประชุมสุดยอดระหว่างสองผู้นำเกิดขึ้นในอาคารสันติภาพ ภายในหมู่บ้านปันมุนจอม โดยกำหนดการในช่วงบ่าย สองผู้นำได้ร่วมกันปลูกต้นสน ซึ่งเป็นต้นไม้แห่งสันติภาพ โดยใช้ดินและน้ำจากทั้งสองประเทศ ดินจากภูเขาแพกตู ฝั่งเกาหลีเหนือ และภูเขาฮัลลา ฝั่งเกาหลีใต้ ส่วนน้ำที่รินรดนำมาจากแม่น้ำสำคัญสองสายของสองประเทศคือ แม่น้ำแทดงที่ไหลผ่านกรุงเปียงยาง และแม่น้ำฮันจากเกาหลีใต้ โดยจุดที่ปลูกต้นไม้อยู่บริเวณกึ่งกลางพรมแดนสองชาติ สื่อถึงสันติภาพและความมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศ
ภายหลังที่สองผู้นำลงนามใน ‘ปฏิญญาปันมุนจอม เพื่อสันติภาพ ความรุ่งเรือง และการรวมชาติบนคาบสมุทรเกาหลี’ โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามเกาหลีอย่าง เป็นทางการ หลังยืดเยื้อมานานกว่า 6 ทศวรรษแล้ว ทั้งสองได้แถลงการณ์ร่วมกันต่อหน้าชาวเกาหลี 80 ล้านคน รวมถึงประชาคมโลกว่า “ต่อไปนี้จะไม่มีสงครามเกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี และยุคใหม่แห่งสันติภาพ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” และสองผู้นำมีมติร่วมกันที่จะลงนามในสนธิสัญญายุติสงครามที่ดำเนินมานานกว่า 65 ปี โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์
THE PIPE-SMOKING SYRIAN MAN
ชายชรานั่งสูบไปป์และกำลังฟังเพลงจากแผ่นเสียงในห้องนอน ที่ปัจจุบันกลายเป็นซากปรักหักพังจากสงครามซีเรีย เขาคือ มูฮัมหมัด โมฮิดีน เอนิส หรืออาบูร์ โอมาร์ วัย 70 ปี เดิมทีเขาเคยเป็นชายหนุ่มผู้มั่งคั่งที่อาศัยในเมืองอเลปโป พูดได้ 5 ภาษา ชอบสะสมรถเก่าอเมริกัน และมักสูบไปป์ก่อนจะฟังเพลงจากแผ่นเสียงเสมอ โจเซฟ อิด ช่างภาพมืออาชีพได้ถ่ายภาพนี้เมื่อปี 2016 ซึ่งภรรยา 2 คน และลูกๆ 8 คนของอาบู โอมาร์ ได้อพยพออกจากเมืองไปแล้ว ยกเว้นเขาที่สมัครใจอยู่ในบ้านที่ไร้ประตู หน้าต่าง และหลังคา โดยพร้อมจะถล่มได้ทุกเมื่อ โจเซฟใช้จังหวะที่อาบูร์กำลังสูบไปป์และนั่งฟังเพลงในห้องของเขาเองกดชัตเตอร์ ทำให้ได้ภาพสงครามที่แตกต่างไปจากภาพรุนแรงจากสงครามภาพอื่นๆ แต่มันเป็นภาพที่บอกเล่าถึงความเป็นมนุษย์ที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสงคราม
JACK MA’S SECOND VISIT
วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา แจ็ค หม่า ประธานบริหารบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเยือนไทยเป็นครั้งที่ 2 ของแจ็ค หม่า โดยครั้งนี้ได้มีการประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ หรืออีอีซี รวมถึงโครงการ ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมการลงนามเอ็มโอยูกับอาลีบาบา กรุ๊ป 4 ฉบับ คือ หนึ่ง โครงการลงทุนสร้างศูนย์สมาร์ท ดิจิทัล ฮับ ในอีอีซี มูลค่า 11,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ของไทย ด้วยการใช้เทคโนโลยีของอาลีบาบาในด้านการประมูลข้อมูลโลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้าไทยไปตลาดทั่วโลก ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างในปีนี้ และคาดว่า เปิดดำเนินการได้ในปี 2562 สอง โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซ เพื่อพัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) สาม โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และสี่ อาลีบาบาจะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform เพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ
“ไทยและจีนต้องการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก ช่วยเหลือคนหนุ่มสาว ช่วยเหลือเกษตรกร ผมหวังว่า พวกเขาจะประสบความสำเร็จ เพราะการที่ธุรกิจขนาดเล็ก คนหนุ่มสาว หรือเกษตรกรประสบความสำเร็จ ย่อมหมายถึงความสำเร็จของสังคม” แจ็ค หม่า กล่าวระหว่างการร่วมลงนามเอ็มโอยูระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป และรัฐบาลไทย
ผลจากการที่ไทยมีข้อตกลงกับอาลีบาบา กรุ๊ป อีคอมเมิร์ซระดับโลก ทำให้ในช่วงวันที่ 17-19 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เผยยอดสั่งซื้อทุเรียนล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ของจีน Tmall.com โดยมียอดถึง 1.3 แสนลูก ซึ่งกว่า 61% หรือ 80,000 ลูก เป็นทุเรียนหมอนทองพันธุ์ยอดนิยมที่ชาวจีนนิยมบริโภค ภายในเวลาเพียงหนึ่งนาทีแรกของการเปิดจอง ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะทำงานร่วมกับไชเหนี่ยว บริษัทโลจิสติกส์ของอาลีบาบา เพื่อส่งทุเรียนจากประเทศไทย ไปที่จีนภายใน 120 ชั่วโมง และจัดส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศจีนภายในเวลา 24 ชั่วโมง “ทุเรียนไทยถือเป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก และความร่วมมือนี้จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มมูลค่าของทุเรียนและสินค้าการเกษตรอื่นๆ จากประเทศไทยบนเวทีโลก ซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับเกษตรกรและธุรกิจไทย” นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
‘TRUE’ MISTAKES
เมื่อประเทศฝั่งตะวันตกต้องเจอกับปัญหาข้อมูลส่วนตัวที่บันทึกไว้ในเฟซบุ๊กรั่วไหล ถูกนำไปใช้เพื่อการหาเสียงและการโฆษณา ฟากประเทศไทยเองก็ต้องเจอกับสถานการณ์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการทรูรั่วไหลกว่า 46,000 ราย นานกว่าหนึ่งเดือน สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานว่า นักวิจัยด้านความมั่นคง ไนอัลล์ เมอร์ริแกน ได้รายงานว่า ข้อมูลผู้ใช้บริการ TrueMove H ได้อยู่ใน Amazon S3 Bucket ซึ่งเป็นบริการฝากข้อมูลระบบคลาวด์ โดยไม่มีการเข้ารหัส มีทั้งไฟล์สแกนสำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่ และพาสปอร์ต ทั้งภาพ JPG และไฟล์ PDF ประมาณ 46,000 ไฟล์ รวม 32 GB ตั้งแต่ปี 2558-2561 ส่งผลให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดข้อมูลได้
ไนอัลล์ได้ติดต่อทวิตเตอร์ TrueMove H ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม จนสองวันถัดมาถึงได้อีเมลของฝ่ายซัพพอร์ตมา แต่เมื่อส่งข้อมูลทั้งหมดให้ กลับได้คำตอบว่า ฝ่ายซัพพอร์ตไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้ ขอให้ไปติดต่ออีเมลของสำนักงานใหญ่เฉพาะวันทำการ กว่าที่ปัญหาจะได้รับการแก้ไขก็จนถึง วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ที่ทาง True ได้ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงคลังข้อมูล Amazon S3 Bucket ในวันที่ 14 เมษายน
ที่ผ่านมา True ได้ชี้แจงเบื้องต้นผ่าน iTrueMart โดยมีข้อความส่วนหนึ่งว่า ข้อมูลของผู้ใช้บริการที่รั่วไหลเป็นของผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือพร้อมแพ็กเกจบริการ TrueMove H โดยมีการลงทะเบียนซิมผ่านช่องทาง iTrueMart ถูกแฮกเข้าระบบ ทำให้ข้อมูลของลูกค้าหลุดออกไป และได้เข้าชี้แจงกับทาง กสทช. ตามที่ถูกเรียกพบในประเด็นดังกล่าวว่า เกิดจากการถูกเจาะข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ 3 ชั้น กระทบลูกค้า 11,400 รายเท่านั้น โดยการแก้ปัญหาทาง True ได้ส่ง SMS แจ้งเตือนลูกค้า 11,400 หมายเลข ให้รับทราบและได้แก้ไขแล้ว โดยจะมีการไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพื่อป้องกันสิทธิและป้องกันหากมีการนำข้อมูลลูกค้าไปใช้ผิดประเภทหรือผิดกฎหมาย วันที่ 18 เมษายน กสทช. ส่งหนังสือแจ้งให้ True รับผิดชอบจัดมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จัดช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ โดยให้รายงานผลการดำเนินการมายัง กสทช. ภายใน 7 วัน และรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการทุก 15 วัน
GARBAGE COLLECTION
เจ้าหน้าที่กำลังจัดการขยะบริเวณแพไม้ไผ่ดักขยะ คลองลาดพร้าว ใต้ทางด่วนท้ายวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นหน้าด่านสกัดขยะก่อนไหลไปถึงสถานีอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 และถือเป็นจุดที่ดักขยะได้มากที่สุดของกรุงเทพฯ เฉลี่ยขั้นต่ำวันละ 1 ตัน และในวันที่ฝนตกอาจมีขยะไหลมารวมกันถึง 10 ตัน ส่วนใหญ่พบว่า 90% เป็นขยะครัวเรือน โดยเฉพาะซากเฟอร์นิเจอร์ ฟูก และที่นอน ขณะที่สถิติการจัดเก็บขยะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เฉพาะหน้าสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำ พบขยะชิ้นใหญ่จำนวนมาก เช่น โซฟา ยางรถยนต์ กรุงเทพมหานครสามารถจัดเก็บขยะบริเวณหน้าสถานีสูบน้ำได้ประมาณ 20 ตันต่อวัน ซึ่งขยะเหล่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพมหานคร
ELECTION NOT CONFIRMED
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสัมภาษณ์ของกลุ่มสื่อมวลชนว่า สถานการณ์การเมืองในอนาคตจะมีโอกาสในการลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ โดยนายกฯ ตอบว่า “ขออย่าถามว่า อยากหรือไม่อยาก ซึ่งหากถามก็ต้องบอกว่า ไม่อยากอยู่แล้ว แต่จะมีความจำเป็นหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต โดยประชาชนเป็นผู้กำหนด ไม่ใช่นักการเมืองจะคิดกันเอาเอง และไม่เคยมองว่า ตัวเองสำคัญหรือเก่งกว่าใคร” ส่วนสถานการณ์วันนี้คิดว่า ยังมีความจำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ ตนเองยังไม่รู้และยังตอบไม่ได้ ต้องรอความชัดเจนหลังเดือนมิถุนายนนี้ หลังการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายกฯ จะร่วมกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเองมีภารกิจ และขอให้สื่อกินข้าวอย่างมีความสุข พร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้สื่อมวลชน ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า