ภายหลังการออกมาประกาศว่าจำนวนผู้ใช้งานของ Netflix บริษัทวิดีโอสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ สึนามิที่ตามมาคือหุ้นที่ร่วงลงกว่า 35% ‘กวาดล้าง’ มาร์เก็ตแคปหายไปทันที 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.8 ล้านล้านบาท
หุ้นของ Netflix ในนิวยอร์กปิดตลาดที่ 226.19 ดอลลาร์ ทำให้ตัวเลขหุ้นดิ่งลงเป็น 62% ในปีนี้ และกลายเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดใน S&P 500 และดัชนี Nasdaq 100 โดย Netflix คิดเป็น 0.8% ใน Nasdaq 100 และ 0.3% สำหรับ S&P 500 ซึ่งการลดลงของหุ้นดังกล่าวถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014
ยักษ์ใหญ่ด้านวิดีโอสตรีมมิงทำให้ตลาด Wall Street ตกใจด้วยการสูญเสียลูกค้า 200,000 ราย ในไตรมาสแรก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการลดของจำนวนสมาชิกนับตั้งแต่ปี 2021 นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าลูกค้าอีก 2 ล้านรายจะหดตัวลงในไตรมาสที่สอง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- เกิดอะไรขึ้นกับ ‘Netflix’ จำนวนสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ผลพวงจาก ‘สงครามและการแชร์แอ็กเคานต์’ คาดไตรมาส 2 จะหายไปอีก 2 ล้านราย
- Netflix มีแผนเปิดแพ็กเกจใหม่ที่จะมีราคาถูกลง แต่ต้องแลกกับการมีโฆษณาคั่นให้ดู
- ตลาดหุ้นผันผวนสูงกว่าตลาดคริปโตจริงหรือไม่ หลังจากที่หุ้น Netflix ร่วงลงกว่า 25%
“ปัญหาใหญ่ของ Netflix คือการที่ปล่อยให้ลูกค้ายกเลิกการใช้งานง่ายเกินไป” Russ Mould ผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ AJ Bell กล่าว พร้อมเสริมว่า ผู้บริโภคที่รู้สึกแย่จากภาวะเงินเฟ้อทำให้ต้องค้นหาวิธีประหยัดเงินในกระเป๋า และการหยุดใช้งานบริการสตรีมมิงเป็นวิธีที่รวดเร็วในการประหยัดเงิน
ลูกค้าที่ลดลงทำให้ Netflix ตัดสินใจฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่มีมายาวนานของตัวเองคือ เตรียมจะเปิดตัวทางเลือกที่ถูกกว่าและรองรับโฆษณาสำหรับสมาชิกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และจะเริ่มปราบปรามผู้ที่แชร์รหัสผ่าน หรือที่คนไทยคุ้นเคยในคำว่า ‘บ้าน Netflix’ ที่เราสามารถพบเห็นการหาสมาชิกได้ตามโซเชียลมีเดียต่างๆ
Netflix ประเมินว่า มากกว่า 30 ล้านครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีการแชร์รหัสผ่านระหว่างกันเพื่อเข้าถึงเนื้อหา และหากนับทั่วโลกตัวเลขจะเพิ่มเป็นกว่า 100 ล้านครัวเรือน โดยหากมองเข้าไปในแพ็กเกจพรีเมียมของประเทศไทยซึ่งคิดราคา 419 บาท สามารถรับชมได้พร้อมกับ 4 จอ เฉลี่ยแล้วตกจอละ 105 บาท แม้จะแพงกว่าแพ็กเกจมือถือราคา 99 บาท แต่ดูได้ 1 จอ และไม่สามารถดูเนื้อหาแบบ HD และ Ultra HD ได้
ในจดหมายผู้ถือหุ้นรายไตรมาส Netflix ยอมรับว่าการอนุญาตแชร์รหัสผ่านนอกบ้านมีเจตนาที่จะทำให้ลูกค้าชื่นชอบบริการของตัวเอง ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงมากขึ้นทุกวันจาก Disney, Warner Bros. Discovery, Paramount Global, NBCUniversal, Apple TV+ และสตรีมเมอร์รายอื่นๆ ที่กำลังเติบโตเช่นกัน
แต่ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง เมื่อเวลามีการเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่เคยเป็นจุดแข็งทำให้การเติบโตของธุรกิจหยุดลง ทัศนคติก็มักจะเปลี่ยนไป เมื่อต้นปีนี้ Netflix ได้เริ่มทดสอบวิธีต่างๆ ในการควบคุมการแชร์รหัสผ่านในชิลี คอสตาริกา และเปรู ผ่านการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบัญชีที่แชร์รหัสผ่านนอกบ้าน แม้ Netflix จะยังไม่ได้สรุปผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่คาดว่าการหยิบไพ่ใบดังกล่าวมาใช้อาจเกิดขึ้นเร็วสุดในปี 2023
ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา หุ้นของ Netflix นั้นเป็นที่รักของนักลงทุนใน Wall Street โดยเกือบ 3 ใน 4 ของนักวิเคราะห์ ได้แนะนำให้นักลงทุนซื้อเก็บไว้ในพอร์ตของตัวเอง
ทว่าในตอนนี้เหรียญกลับพลิกเป็นคนละด้าน เมื่อ Netflix พลาดแม้แต่การคาดการณ์ที่แย่ที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่เป็นสองครั้งติดต่อกัน นักวิเคราะห์ทั่ว Wall Street จึงลดราคาเป้าหมายลง ขณะที่โบรกเกอร์อย่างน้อย 9 รายได้ปรับลดราคาหุ้นลง
การปรับราคาหุ้นดังกล่าวทำให้บริษัทวิดีโอสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีเปอร์เซ็นต์การซื้อต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
ภาพ: Illustration by Brandon Bell / Getty Images
อ้างอิง: