×

Netflix จะออกแพ็กเกจใหม่ที่มีราคาเพียง ‘ครึ่งหนึ่ง’ แต่ลูกค้าจะต้องยอมดู ‘โฆษณา’ คั่นประมาณ 4 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง คาดเห็นสิ้นปีนี้ใน 6 ตลาดนำร่อง

29.08.2022
  • LOADING...
Netflix

การสูญเสียสมาชิกเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ทำให้ Netflix จำต้องหาหนทางใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการออกแพ็กเกจใหม่ที่มี ‘โฆษณา’ อันเป็นคุณสมบัติที่ยักษ์สตรีมมิงหลีกเลี่ยงที่จะต้องเดินหนทางนี้มาตลอด

 

รายงานของ Bloomberg อ้างอิงคำพูดของแหล่งข่าวที่ระบุว่า แพ็กเกจที่มีโฆษณานั้นจะมีราคาอยู่ประมาณ 5-7 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นราคาครึ่งหนึ่งของแผนปัจจุบันที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่มีค่าใช้จ่าย 15.49 ดอลลาร์ต่อเดือนโดยไม่มีโฆษณา

 

ในขณะที่ผู้บุกเบิกสตรีมมิงเตรียมเปิดตัวโฆษณาเป็นครั้งแรก อีกทางหนึ่งก็พยายามสร้างสมดุลอย่างระมัดระวังระหว่างการเข้าถึงผู้บริโภคที่คำนึงถึงต้นทุนมากขึ้น พร้อมกับมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ โดยโฆษณาจะมีความยาวราว 4 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าบริษัทอื่นๆ มาก และจะขึ้นก่อนและระหว่างที่ดูคอนเทนต์

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

Netflix วางแผนที่จะเปิดตัวตัวเลือกใหม่ที่ถูกกว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีในตลาดตัวอย่าง 6 แห่ง ส่วนการเปิดตัวเต็มรูปแบบอาจต้องรอจนถึงต้นปีหน้า แต่รูปแบบที่แน่นอนอาจจะต้องรอจนถึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

รีด แฮสติงส์ ซีอีโอร่วมของ Netflix กล่าวเมื่อเดือนเมษายนว่า กำลังสำรวจความเป็นไปได้ของแผนที่จะรองรับโฆษณา หลังขายตัวเองมาอย่างยาวนานในฐานะทางเลือกที่เป็นมิตรกับลูกค้าเคเบิลทีวีที่อยากรับชมรายการทีวีและภาพยนตร์แบบออนดีมานด์ได้โดยไม่ต้องโฆษณา ซึ่งปกติแล้วเคเบิลทีวีมักจะมีโฆษณา 10-20 นาที ใน 1 ชั่วโมง

 

“บรรดาผู้ที่ติดตาม Netflix รู้ว่าเราต่อต้านความซับซ้อนของการโฆษณาและเป็นแฟนตัวยงของความเรียบง่ายของการสมัครสมาชิก” เขากล่าว พร้อมเสริมคำพูดที่มองว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลสำหรับลูกค้าที่อยากได้ราคาที่ต่ำกว่าและอดทนต่อการโฆษณาเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ

 

ที่ปรึกษาด้านสื่อ Ampere Analytics ประเมินว่า แพ็กเกจที่มีโฆษณาสร้างรายได้ 8.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปีทั่วโลกสำหรับ Netflix ภายในปี 2027 ซึ่งรายได้นี้รวมถึงค่าธรรมเนียมการสมัครและการขายโฆษณาด้วย

 

Netflix กำลังเข้าสู่การโฆษณาในช่วงเวลาเดียวกับ Disney+ ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดที่กำลังขึ้นราคาในแพ็กเกจหลักและคงราคาปัจจุบันสำหรับเวอร์ชันที่รองรับโฆษณา

 

การขยับตัวของ Netflix ในครั้งนี้ทำให้แบรนด์ที่ลงโฆษณาต่างมองเป็นโอกาส เพราะการเติบโตของบริการแบบไม่มีโฆษณา เช่น Netflix, Amazon Prime Video และ Disney+ ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักการตลาดว่า ทีวีซึ่งครั้งหนึ่งเคยครองเม็ดเงินโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังถูกยึดครองโดยบริการที่ไม่ได้ลงโฆษณา

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising