ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์ในสหรัฐอเมริกาได้หันมาใช้การผลิตเบียร์ของตัวเองเพื่อริเริ่มโครงการเพื่อสังคมหลายๆ อย่าง เช่น Sierra Nevada ที่สร้างโปรเจกต์เบียร์ IPA เพื่อระดมทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบกรณีไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย โครงการ ‘All Together IPA’ จากแบรนด์ Other Half Brewing ที่ทางผู้ผลิตแชร์สูตรเบียร์ให้กับผู้ผลิตที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ไปจนถึงโครงการของ Weathered Souls Brewing Co. ที่รณรงค์ให้บริเวอรีหลายๆ เจ้าออกมาผลิตเบียร์สเตาท์หรือเบียร์ดำในชื่อ ‘Black is Beautiful’ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักของความไม่เท่าเทียมกันทางสีผิวและเชื้อชาติ
และเช่นเดียวกันกับ ‘Native Land’ โครงการที่กำลังเริ่มดำเนินการอยู่โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเชิดชูกลุ่มชนเผ่า สนับสนุนกลุ่มคนพื้นเมืองชาวอเมริกันที่ถูกมองข้ามในสังคม รวมไปถึงเป็นการสนับสนุนธุรกิจโรงเบียร์ของคนในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน
โปรเจกต์ ‘Native Land’ นั้นถูกคิดค้นโดยโรงต้มเบียร์ Bow and Arrow Brewing Co. ที่ตั้งอยู่ในเมืองอัลบูเคอร์คี (Albuquerque) รัฐนิวเม็กซิโกของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการอยากสนับสนุนกลุ่มคนที่มักจะถูกมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกาอย่างชาวทิวา (Tiwa People)
ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่คิดโครงการนี้ตรงกับวัน Indigenous Peoples’ Day หรือวันสากลว่าด้วยชนพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก ในวันที่ 9 สิงหาคม 2021 พอดี ทำให้ Shyla Sheppard ผู้ก่อตั้ง Bow and Arrow Brewing Co. จึงได้ตัดสินใจเปิดตัวเบียร์ Native Land ออกมาสู่สาธารณชนครั้งแรกเสียเลย พร้อมทั้งยังมีการแชร์สูตรการผลิตเบียร์ตัวนี้ให้กับเจ้าของโรงเบียร์ในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้เข้าร่วมโปรเจกต์นี้ด้วยเช่นกัน
โดยผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมโปรเจกต์ Native Land สามารถเข้าร่วมได้ถึงเดือนมีนาคม 2022 และมีข้อแม้ในการผลิตเบียร์คือจะต้องมีฉลากหรือสัญลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องหรือแสดงให้เห็นถึงเมืองที่ตั้งหรือตัวกลุ่มชนเผ่าและชนพื้นเมืองนั่นเอง สำหรับรายได้ทั้งหมดจากยอดขายเบียร์ในแคมเปญนี้จะถูกมอบให้กับองค์กรพื้นเมืองที่ผลิตเบียร์หรือทำโรงต้มเบียร์ และอีกส่วนหนึ่งของรายได้จะถูกส่งมอบให้กับสถาบันพัฒนาชาติ (First Nations Development Institute) เพื่อนำไปสานต่อโครงการดูแลกลุ่มคนพื้นเมือง (Stewarding Native Lands Initiatives) อีกด้วย
ในขณะนี้ โปรเจกต์ Native Land มีผู้เข้าร่วมกว่า 30 โรงต้มเบียร์จาก 7 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา โดยเป้าหมายที่ Sheppard ตั้งไว้นั้นคืออยากให้มีโรงต้มเบียร์อย่างน้อย 1 โรงจากทุกรัฐทั่วประเทศมาช่วยขับเคลื่อน และเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ด้วยกัน ถือเป็นแคมเปญดีๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเบียร์ที่พวกเขารักก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนทางสังคมได้เช่นกัน
อ้างอิง: