วันนี้ (27 ธันวาคม) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 57 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นบุตรชาย อายุ 27 ปี ที่เดินทางไปร่วมงานบิ๊กไบค์ที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แล้วกลับมาเยี่ยมและเข้าพักที่บ้านที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 13 ธันวาคม 2563 แล้วไปตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสุไหงโก-ลก ขณะนี้ได้พักรักษาตัวที่ห้องความดันลบที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เบื้องต้นไม่มีอาการไข้
ทั้งนี้ แนวทางในการปฏิบัติในระดับพื้นที่ทันทีที่ทราบผลการตรวจ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนโรค และนำกลุ่มเสี่ยงทั้งที่สัมผัสเสี่ยงสูงกับสัมผัสเสี่ยงต่ำในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกที่ใกล้ชิดและสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ทั้งเคสของบุตรชายและมารดา ในระหว่างวันที่ 13-24 ธันวาคม 2563 จำนวน 15 คนไป SWAB หาเชื้อโควิด-19
โดยเบื้องต้น 14 รายมีผลเป็นลบ แพทย์ให้กลับบ้านได้ ส่วนอีก 1 รายผลเป็นลบ แต่มีอาการไข้ ซึ่งล่าสุดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเนื่องจากไม่มีอาการที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อโควิด-19 แต่ขอให้กักกันตัวที่บ้าน (Home Quarantine) อีกระยะหนึ่ง ส่วนอีก 1 รายที่เข้ารายงานตัวว่าเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ทำการ SWAB เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยจะทราบผลเบื้องต้นภายในวันนี้
ด้าน มะยุรี เจะโซะ สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่าการติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้เป็นการติดเชื้อจากบุคคลที่มาจากพื้นที่อื่น ไม่ได้เกิดขึ้นจากในพื้นที่โดยตรง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการ SWAB บุคคลที่สัมผัสและใกล้ชิดผู้ติดเชื้อตามข้อมูลการสอบสวนโรคจากไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดแล้ว โดยมีผลเป็นลบ ส่วนในรายใดที่ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ทั้งการสัมผัส พูดคุย หรือเข้าไปในสถานที่ใดๆ ในห้วงระหว่างวันที่ 13-24 ธันวาคม 2563 ขอให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลกเพื่อรับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ทันที
ส่วนประชาชนในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ขอให้ยึดมาตรการป้องกันโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่แออัด และเช็กอินด้วยแอปพลิเคชันไทยชนะ อีกทั้งขอให้ร้านค้าเตรียมสมุดจดบันทึกการเข้าร้านของลูกค้าสำหรับในรายที่ไม่มีสมาร์ทโฟนไว้เช็กอินด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพกรณีมีการสอบสวนโรคในพื้นที่ ซึ่งยืนยันว่าหากปฏิบัติตนตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัดจะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์