การมีสุขภาพที่ดีนั้นมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง คนที่รักสุขภาพส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพประจำปีกันอย่างมาก จุดประสงค์ก็เพื่อตรวจหาความเสี่ยงที่จะเกิดโรคใดๆ ในอนาคต จะได้หาทางป้องกันได้ทันท่วงที ไม่ต้องรอให้เกิดโรคนั้นก่อนแล้วค่อยรักษาทีหลัง ซึ่งจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง ยิ่งโดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย การตรวจสุขภาพพื้นฐานโดยทั่วไปอาจไม่พอ เพราะยังมีโอกาสสุ่มเสี่ยงจะเกิดโรคต่างๆ ที่ซับซ้อนมากกว่าผู้ชาย เช่น โรคมะเร็งเต้านม

ก่อนหน้านี้เคยมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม จากข้อมูลสถิติโรคมะเร็งของประเทศไทย (ปี 2558) พบว่า ผู้หญิงไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมขึ้นแท่นอันดับ 1 คิดเป็น 28.6 คน ต่อประชากร 1 แสนคน โดยตรวจพบว่าอายุเพียง 20 ปี ก็เสี่ยงจะเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้แล้ว แต่ช่วงอายุ 35-50 ปี จะเป็นช่วงอายุที่มีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากที่สุด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและรู้เท่าทันโรคมะเร็งเต้านม ผู้หญิงทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพเต้านม โดยเฉพาะคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป

อยากตรวจสุขภาพเต้านมบ้าง เริ่มต้นอย่างไร

สิ่งแรกที่ต้องทำคือการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจหามะเร็งเต้านม ข้อมูลพื้นฐานที่ผู้หญิงทุกคนควรจะรู้ คือทุกคนสามารถตรวจเต้านมด้วยตัวเองได้ในเบื้องต้น ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หลังจากประจำเดือนมาวันแรก 3-10 วัน (Breast Self Examinations) ทำได้โดยการคลำเพื่อค้นหาความผิดปกติของเต้านมด้วยตัวเอง แล้วคอยหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเต้านม ถ้าเราไม่เคยตรวจเต้านมด้วยตนเองเลย หากมีก้อนเนื้อที่ค่อยๆ เติบโต หรือเปลี่ยนรูปทรง เปลี่ยนขนาดไปจากเดิม ก็จะไม่มีทางสังเกตเห็นหรือรู้ทันความเปลี่ยนแปลงของเต้านม ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของเนื้อร้ายก็เป็นได้ ส่วนวิธีที่สามารถยกระดับความมั่นใจมากกว่าการคลำด้วยตัวเอง คือเข้ารับการตรวจด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Clinical Examinations) ไปจนถึงการเอกซเรย์เต้านมด้วยทำแมมโมแกรม (Mammography) ร่วมกับการทำอัลตราซาวด์ ซึ่งจะมีบริการอยู่ตามโรงพยาบาลที่รับตรวจหาโรคมะเร็งเต้านมในแผนกสตรีและมะเร็ง

จะเลือกโรงพยาบาลตรวจสุขภาพเต้านมอย่างไรให้มั่นใจมากที่สุด

จะเข้ารับการตรวจสุขภาพเต้านมทั้งที หลายคนก็คงอยากมั่นใจแบบชัวร์ๆ ว่าได้รับการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย และให้ผลลัพธ์ของการตรวจที่แม่นยำเชื่อถือได้ นอกเหนือจากทางเลือกที่เราแนะนำให้ไปลองตรวจได้ตามโรงพยาบาลทั่วไปที่มีแผนกสตรีและมะเร็ง คุณสาวๆ ที่ต้องการความมั่นใจมากขึ้น ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่มั่นใจได้ นั่นคือการเลือกตรวจกับโรงพยาบาลเฉพาะทางที่สามารถตรวจหาโรคมะเร็งเต้านม และทำการรักษาได้อย่างครบวงจร ซึ่งข่าวดีคือในประเทศไทยมีโรงพยาบาลเฉพาะทางแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือ ‘โรงพยาบาลนมะรักษ์’ ที่สามารถดูแลสุขภาพเต้านมได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การตรวจคัดกรองไปจนถึงการรักษาโรคมะเร็งเต้านม

‘โรงพยาบาลนมะรักษ์’ มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทางเต้านม  

โรงพยาบาลนมะรักษ์ ถือกำเนิดขึ้นจากความเชื่อและความฝันของ รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน, นพ.วลัญช์ วิไลหงษ์ และเภสัชกรอรอนงค์ สวัสดิ์พาณิชย์ ที่มุ่งมั่นจะสร้างโรงพยาบาลที่มีการดูแลด้านเต้านม ด้วยแพทย์และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ สิ่งที่แตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วไป คือที่นี่ให้การดูแลแบบเฉพาะบุคคล เหมือนกับเป็นคนในครอบครัว เหตุผลที่เปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งนี้ขึ้น เพราะเล็งเห็นว่าแนวโน้มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีมากขึ้นทุกปี มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่หนึ่งในสตรี การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวน์ เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ตามลักษณะสังคมที่เป็นสังคมเมืองมากขึ้น ผู้หญิงทุกคนเป็นผู้รับบริการ ตลาดแม่ที่ให้นมบุตรและมีปัญหาเต้านมอักเสบ ก็เป็นตลาดที่ขาดศัลยแพทย์ที่สนใจจริงๆ จังๆ นอกจากนี้ยังมีตลาดเสริมสวยเต้านมเกิดขึ้นมากมาย แพทย์ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลนมะรักษ์ ทั้ง 3 คนจึงปักธงว่าจะทำโรงพยาบาลเฉพาะทางเต้านม เพื่อให้บริการดูแลเรื่องเต้านมอย่างครบวงจร ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้ผู้เข้ารับบริการเข้าถึงได้ ด้วยราคาที่เหมาะสม และมีส่วนที่ทำตอบแทนคืนสังคมด้วย

บริการของโรงพยาบาลนมะรักษ์

ที่นี่มีบริการที่ครบวงจร พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำทีมโดย รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน อุปนายกสมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย และอดีตหัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ส่วนบริการนั้นครบครันตั้งแต่การตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีสุดทันสมัย ด้วยการตรวจอัลตราซาวด์อัตโนมัติแบบนอนคว่ำเป็นที่แรก นอกจากนี้ยังมีบริการผ่าตัดก้อนหรือโรคเต้านม ผ่าตัดมะเร็งเต้านม ผ่าตัดมะเร็งเต้านมแบบ Oncoplastic ไปจนถึงการรักษามะเร็งด้วยการให้ยาเคมีบำบัด และบริการวางแผนการรักษามะเร็งเต้านม รวมถึงให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพเต้านมกับผู้หญิง

การป้องกันและลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

• ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
• การเลือกอาหารที่กิน ควรมีปริมาณไขมันต่ำ เช่น การเลือกเนื้อสัตว์ที่เลือกกินปลา ลดการกินเนื้อหมู เนื้อวัวในปริมาณมากๆ
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะเมื่อย่างเข้าวัยหมดประจำเดือน
• หลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมนเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นชนิดกิน ทา แผ่นปะ หรือชนิดสอด นานกว่า 9 ปี
• ทำการตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง
• ตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เป็นประจำปีละครั้ง เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป

ภาพประกอบ: Karin Foxx

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์