วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าว กรณี ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงศึกษาธิการ สังกัดพรรคภูมิใจไทย, สุนทร วิลาวัลย์ บิดาของกนกนวรรณ ปัจจุบันเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี
นิวัติไชยกล่าวว่า คดีนี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลกนกวรรณ กรณีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 41158, 41159 และ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวร โดยมิชอบ โดยมีผู้ถูกกล่าวหาดังต่อไปนี้
- จีรศักดิ์ ผลสุข เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี-นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว
- สุรางค์ คัณฑารมย์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ
- สมศักดิ์ หีบเงิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด
- พรรณเพ็ญ ภาคาญาติ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ
- ประทาน บานชื่น เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เดินสำรวจรังวัด
- ทวี หมื่นศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ตำบลเนินหอม
- กนกวรรณ วิลาวัลย์ (ศรีจันทร์งาม) ผู้นำเดินสำรวจ (ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ)
- สุนทร วิลาวัลย์ ผู้นำเดินสำรวจเมื่อครั้งเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี (ปัจจุบัน นายก อบจ. ปราจีนบุรี)
- น้อย ตุ้มพันธ์ ผู้นำเดินสำรวจ
- คณิต เพชรประดับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 6 กรมป่าไม้
จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า โฉนดที่ดินทั้ง 3 แปลง เป็นโฉนดที่ดินที่ออกโดยวิธีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 และ 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่ กนกวรรณ ศรีจันทร์งาม (นามสกุลขณะนั้น) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็น ‘วิลาวัลย์’, โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่ สุนทร วิลาวัลย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2545 เนื้อที่ประมาณ 27-2-54.5 ไร่ และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่ น้อย ตุ้มพันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2545 เนื้อที่ประมาณ 27-1-71.4 ไร่ มีพฤติการณ์ในการออกโฉนดโดยมีการอ้างว่าซื้อต่อมาจากผู้เคยทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีการซื้อขายจริง ประกอบกับผลการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศในช่วงปี 2546 ซี่งเป็นปีที่ใกล้เคียงกับปีที่ทำการเดินสำรวจ สภาพพื้นที่มีสภาพเป็นป่ามาโดยตลอด ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า แนวเขตป่าไม้ถาวร ‘ป่าเขาใหญ่’ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้จำแนกป่าเขาใหญ่ไว้เป็นป่าไม้ตามแนวเขตที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2513 และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแนวเขตป่าไม้ถาวรเป็นแนวเขตเดียวกันกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การที่โฉนดที่ดินเลขที่ 41158 และ 41160 ออกโดยมีแนวเขตด้านทิศเหนือติดต่อกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งที่ตามระเบียบกรมที่ดินฯ กำหนดห้ามมิให้เดินสำรวจในแปลงที่คาบเกี่ยวหรือติดต่อกับเขตป่าไม้ถาวร จึงเป็นการออกโดยฝ่าฝืนข้อ 9 ของระเบียบกรมที่ดินฯ
นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จีรศักดิ์ ผลสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, สมศักดิ์ หีบเงิน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และประทาน บานชื่น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ได้ร่วมกันมีหนังสือขอให้จังหวัดปราจีนบุรีส่งระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ 5237 II 6072 ที่มีการขีดเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไปให้กรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบยืนยันแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยไม่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมที่ดิน และผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 ผู้ขีดและรับรองแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ไม่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมป่าไม้ การขีดและรับรองแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2536 และครั้งที่ 3 เมื่อปี 2545 โดยคณิต เพชรประดับ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 จึงเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
- การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1- 5 และที่ 10 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
- การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้กรมที่ดินทราบ เพื่อให้กรมที่ดินพิจารณาดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 41158, โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
- การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 (กนกวรรณ) เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งมีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 8, หมวด 2 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 11 ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และข้อ 17 ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง ประกอบข้อ 27
ปัจจุบันอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 และให้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 รายไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป
นิวัติไชยกล่าวด้วยว่า จนถึงขณะนี้ (เวลาประมาณ 15.00 น.) มีผู้ถูกกล่าวหา 6 รายยังไม่ไปรายงานตัวกับอัยการ ได้แก่ สุรางค์, สมศักดิ์, กนกวรรณ, สุนทร, น้อย และคณิต โดยหากไม่ไปภายในวันนี้ จะต้องมีการออกหมายจับเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหมายจับอยู่
อย่างไรก็ดีการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด