วันนี้ (27 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองพลน้อยที่ 6 กับทหารรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ทหารรัฐบาลเมียนมาได้ใช้อาวุธปืน ค.120 ยิงใส่ฝ่ายกะเหรี่ยง 3 จุด ที่บ้านแม่วาคี, บ้านแม่ตอตะเล และบ้านเลอเตก่อ ตรงข้ามบ้านดอนไชย ตำบลแม่ตาว และบ้านโซซิเมียน ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด
โดยทหารเมียนมาเริ่มยิงตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังมีเสียงปืนใหญ่เป็นระยะๆ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังยิงกันด้วยอาวุธประจำกายในระยะใกล้ชิดเสียงดังชัดถึงเขตไทย
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ผลจากการสู้รบยังไม่มีรายงานการสูญเสียในฝั่งเมียนมา เนื่องจากพื้นที่การสู้รบจะมีเฉพาะทหารเท่านั้น ส่วนประชาชนได้ลี้ภัยเข้ามาเขตไทยทั้งหมดแล้ว การสู้รบดังกล่าวมีกระสุนปืน ค.120 ล้ำเข้ามาตกในเขตไทยหลายนัดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเมย ส่วนทหารไทยยิงกระสุนควันแจ้งเตือนไปหลายนัด
ด้าน พ.ต.อ. ชินเดช ดีแท้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก พร้อมด้วยกำลังไปตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยสงครามกว่า 1,000 คน ที่สนามกีฬาบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด
ขณะที่ สมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลแม่ตาว ตำบลแม่กุ และตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จำนวนกว่า 5,000 คน ส่วนมากนำไปรวบไว้ที่บ้านห้วยมหาวงศ์ ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด ทางจังหวัดได้ดูแลผู้ลี้ภัยอย่างดี แต่เมื่อเหตุการณ์สงบ จะต้องส่งกลับไปภูมิลำเนาในฝั่งเมียนมา ผู้ลี้ภัยที่เข้ามาบางกลุ่มขอกลับไปฝั่งเมียนมาด้วยความสมัครใจ เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินและบ้านที่อยู่ในฝั่งเมียนมา
