×

มหาเธร์ถูกวิจารณ์หนัก หลังโพสต์ข้อความระบุ “ชาวมุสลิมมีสิทธิ์สังหารชาวฝรั่งเศสนับล้าน”

โดย Master Peace
30.10.2020
  • LOADING...

มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 95 ปี ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังโพสต์ข้อความลงในบล็อกและทวิตเตอร์ส่วนตัว อ้างว่า ชาวมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะสังหารชาวฝรั่งเศสนับล้านคน เพื่อแก้แค้นให้กับเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวมุสลิมที่เกิดขึ้นในอดีต

 

“ชาวมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นและสังหารประชาชนชาวฝรั่งเศสนับล้านคน เพื่อแก้แค้นให้กับเหตุสังหารหมู่ในอดีต” มหาเธร์ระบุ

 

ข้อความดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งจากหลายข้อความที่มหาเธร์โพสต์ทางทวิตเตอร์ เพื่อเรียกร้องชาติมุสลิมให้บอยคอตสินค้าฝรั่งเศส ก่อนจะถูกทวิตเตอร์ลบไปในภายหลัง เนื่องจากละเมิดข้อกำหนด

 

แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันว่า โดยทั่วไปแล้วชาวมุสลิมไม่ได้ใช้กฎหมาย ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ซึ่งชาวมุสลิมไม่ทำ และชาวฝรั่งเศสก็ไม่ควรทำ

 

อดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์โพสต์ข้อความเหล่านี้ภายหลังเกิดเหตุมือมีดไล่แทงคนที่มหาวิหารน็อทร์-ดาม ในเมืองนีซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส วานนี้ (29 ตุลาคม) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดย 1 ราย เป็นหญิงที่ถูกตัดศีรษะ

 

ขณะที่ท่าทีของเขามีขึ้นท่ามกลางกระแสโกรธแค้นในชาติมุสลิมที่มีต่อประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส หลังจากที่เขาวิจารณ์ศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่กำลังตกอยู่ในวิกฤต และเปิดเผยแผนกวาดล้างชาวมุสลิมหัวรุนแรง ภายหลังเกิดเหตุการณ์ฆ่าตัดศีรษะครูชาวฝรั่งเศสเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีชนวนเหตุจากการนำภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดไปแสดงในชั้นเรียน

 

ซึ่งมหาเธร์ยังโจมตีฝรั่งเศสที่กล่าวหาศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมทุกคน เพียงเพราะสิ่งที่คนคนเดียวทำ จึงทำให้ชาวมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะลงโทษฝรั่งเศส แม้ว่าการบอยคอตจะไม่สามารถชดเชยความผิดที่ฝรั่งเศสทำตลอดหลายปีมานี้ได้ก็ตาม

 

“ฝรั่งเศสควรสอนประชาชนของพวกเขาให้เคารพความรู้สึกของคนอื่น” มหาเธร์ระบุ

 

ด้าน เซดริค โอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการดิจิทัลของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการของบริษัททวิตเตอร์ในฝรั่งเศส และได้เรียกร้องให้ทวิตเตอร์ระงับบัญชีของมหาเธร์ในทันที ซึ่งหากไม่ดำเนินการ เท่ากับทวิตเตอร์สมรู้ร่วมคิดในการเรียกร้องให้มีการฆาตกรรมอย่างเป็นทางการ

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising