ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief 

หุ้นเทค-เฮลท์แคร์ ดันดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นเกือบ 1%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันศุกร์ และปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในภาพรวม แต่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เกือบ 1% ตลาดปิดทำการซื้อขายเร็วกว่าปกติ เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุด Thanksgiving Day

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ 

1. Walt Disney มีแผนที่จะเพิ่มการเลิกจ้างเป็น 32,000 ตำแหน่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 จากเดิมที่ระดับ 28,000 ตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าการแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อธุรกิจสวนสนุกมากกว่าที่คาดไว้
   2. Adobe Analytics Data เผยว่า ยอดขายออนไลน์ในวันหยุด Thanksgiving Day สำหรับปี 2020 เติบโตขึ้นถึง 21.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมียอดขายที่สูงถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ซึ่งสูงเป็นสถิติใหม่ นอกจากนี้ทางบริษัทยังเผยอีกว่า ยอดขายเกือบ 50% มาจากสมาร์ทโฟน

ภาคอุตสาหกรรม ‘จีน’ ช่วง 10 เดือนแรก ปี 2020 กลับมามีกำไร

ตลาดหุ้นจีน CSI 300 เพิ่มขึ้น 61.17 จุด หรือ 1.24% ดัชนีรวมหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี หลังจากที่ปรับตัวในกรอบแคบๆ ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่เปิดตลาด แต่ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นอะไรมาก ดัชนีมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในช่วงการซื้อขายชั่วโมงสุดท้าย และมาปิดที่ระดับเกือบสูงที่สุดของวัน 

ปัจจัยบวกหลักๆ ที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจาก 

1. ตัวเลขกำไรของภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวต่อเนื่อง จนทำให้ตัวเลข 10 เดือนแรกของปี 2020 กลับมาขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 
2. ความคาดหวังต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังมีอยู่ต่อเนื่อง 
3. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมาอีก 376 ล้านดอลลาร์ หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี สถาบันการเงิน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี หุ้นในกลุ่มแร่หายากปรับตัวลดลงหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนสถาบันญี่ปุ่น มั่นใจดัชนี Nikkei ยังเพิ่มขึ้นได้อีก 14%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei เพิ่มขึ้น 107.40 จุด หรือ 0.40% ดัชนีของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ยังคงเป็นปัจจัยเดิมๆ เช่น ข่าวบวกจากวัคซีน ทำให้ตลาดเกิดความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวที่ดีในปี 2021 แต่ตลาดก็เจอกับปัจจัยกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่ามาที่ระดับ 104 เยนเช่นกัน 

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ 

1. Nikko Asset Management บริษัทหลักทรัพย์จัดการชื่อดังของญี่ปุ่นเผยว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 14% จากปัจจุบัน โดยให้เหตุผลว่า เมื่อปัจจัยต่างๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ ปัจจุบันดัชนี Nikkei ให้ผลตอบแทนในปี 2020 ราว 12% 
2. ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (เงินเฟ้อ) ในกรุงโตเกียวหรือ Tokyo Core Consumer Price Index (CPI) ประจำเดือนพฤศจิกายน หดตัว -0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)  

‘เกาหลีใต้’ พบยอดถือครองที่ดินจากต่างชาติพุ่ง 6.4% จากปี 2016

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ KOSPI เพิ่มขึ้น 7.54 จุด หรือ 0.29 % ดัชนีของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ดัชนีเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น โดยปรับตัวอยู่ในแดนบวกและแดนลบสลับกันไป 

ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ มาจาก 

1. ความคาดหวังในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป 
2. ตัวเลขการส่งออกในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะเป็นเดือนที่มีการเติบโตดีที่สุด 

ด้านกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคม เผยว่า ต่างชาติมีการถือครองที่ดิน (รวมถึงคอนโด) ในเกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากตัวเลขในตอนสิ้นปี 2019 ชาวต่างชาติถือครองที่ดินราว 248.6 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับปี 2016 พบว่าเพิ่มขึ้นราว 6.4% 

สำหรับชาวต่างชาติที่ถือครองที่ดินมากที่สุดคือชาวอเมริกัน 52.2% ตามด้วยจีน 7.7% และญี่ปุ่น 7.4% เมื่อมองลงไปในรายละเอียดพบว่า ชาวจีนนิยมซื้อคอนโดในย่านที่มีราคาสูงอย่างกังนัมและซอโช รวมถึงในเกาะเชจูด้วย การถือครองที่ดินและที่พักอาศัยที่เพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติเป็นประเด็นที่ชาวเกาหลีใต้ไม่ค่อยพอใจนัก เนื่องจากปัญหาที่อยู่อาศัยในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในโซล ก็มีปัญหาราคาปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด ทางประชาชนจึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการควบคุมการซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติที่มากกว่านี้

ทองคำ ร่วงหลุด 1,800 ดอลลาร์ ครั้งแรกรอบ 5 เดือน

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,800 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 เดือน มาปิดที่ 1,787 ดอลลาร์ ลดลง 1.19% จากความเสี่ยงของตลาดการเงินที่ลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจัยจากวัคซีน

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล