ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พบว่าหลักทรัพย์ บมจ.มอร์ รีเทิร์น หรือ MORE มีการซื้อขายที่ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า และได้ติดตามให้ MORE ชี้แจงข้อมูล รวมทั้งได้แจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565 รวมถึงขอให้บริษัทสมาชิกเพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายในหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้น
ต่อมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือร่วมกับบริษัทสมาชิก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE ที่อาจเข้าข่ายเป็นรายการที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทสมาชิกบางรายในระดับที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทสมาชิกและปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านบริษัทสมาชิกรายนั้น โดยปัจจุบันบริษัทสมาชิกทุกรายยังสามารถให้บริการกับผู้ลงทุนได้ตามปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- 9 หุ้น จ่ายเงินปันผลสูงมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี แถมราคาตั้งแต่ต้นปียังบวก
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเรียนว่า แม้จะมีเหตุการณ์ผิดปกติดังกล่าว แต่การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ทุกหลักทรัพย์ระหว่างบริษัทสมาชิกและสำนักหักบัญชียังคงดำเนินการไปตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE เป็นจำนวนมาก และมีความคลาดเคลื่อนจนอาจทำให้เกิดความสับสน ดังนั้นเพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในวันนี้ (14 พฤศจิกายน 2565)
โบรกเกอร์ยัน ไร้ผลกระทบ
ทั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ปรากฏออกมา และสร้างความกังวลให้นักลงทุนในวงกว้าง บรรดาบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ได้ยืนยันฐานะการเงินที่แข็งแกร่งผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดีย Official Account
โดย บล.กรุงศรี ระบุว่า บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี NCR (Net Capital Rule หรือเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ) สูงกว่าที่ทางการกำหนดมาก สำหรับการชำระราคาซื้อขายและการทำธุรกรรมอื่นๆ ยังคงดำเนินการตามปกติ
ส่วน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ แจ้งว่า ธุรกรรมดังกล่าวไม่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ และไม่มีผลกระทบใดๆ กับการให้บริการของบริษัท อีกทั้งบริษัทยังคงมีการดำรงเงินกองทุนอย่างเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม แนวทางในการซื้อขายหุ้นดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยองค์กรที่เกี่ยวข้อง และจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทมีการประกอบธุรกิจเป็นไปตามกฎหมาย สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ที่มีการตกลงร่วมกันของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และมีการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงตามนโยบายการกำกับดูแล
ขณะที่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบกรณีหุ้น MORE และบริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิสูงเพียงพอในการประกอบธุรกิจ
และให้รายละเอียดว่า ตามที่ในช่วงวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 สื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวเรื่องมีนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อผิดปกติของหุ้น MORE จากหลายโบรกเกอร์ และในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จะครบกำหนดการชำระเงินค่าหุ้น ซึ่งหากนักลงทุนไม่ชำระค่าหุ้น ภาระการจ่ายทั้งหมดจะตกอยู่กับโบรกเกอร์ที่ต้องเป็นผู้จ่ายเงินแทนให้นั้น
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) พบว่า การส่งคำสั่งซื้อหุ้นตัวเดียวจากหลายโบรกเกอร์ในมูลค่าที่สูงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติ และไม่เคยเกิดขึ้นในการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทยมาก่อน ดังนั้นจึงเป็นธุรกรรมที่ต้องสงสัย และทางบริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบและหารือหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ วันนี้ (14 พฤศจิกายน) ทางบริษัทได้ทำการชำระค่าหุ้นกับสำนักหักบัญชี (TCH) เรียบร้อยตามขั้นตอนปกติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบกับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด โดย บล.ดาโอ ขอยืนยันว่าบริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง และมี NCR หรืออัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิมากเพียงพอในการประกอบธุรกิจ