วันนี้ (7 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการเตรียมลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด Pfizer ฝาสีแดง จำนวน 3 ล้านโดส สำหรับฉีดเด็กอายุ 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปี ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ เด็บบราห์ ไซเฟิร์ท ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย
ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องหลังจากเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ที่เป็นวัคซีนโควิด ได้มีมติเห็นชอบการขยายขอบเขตข้อบ่งใช้ของวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty Vaccine) ของบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด สำหรับฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปี เพื่อป้องกันโควิด โดยมีเงื่อนไขใช้วัคซีนโดสละ 0.2 มิลลิลิตร (3 ไมโครกรัม) ฉีดจำนวน 3 เข็ม โดยเข็ม 2 ห่างจากเข็ม 1 เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และเข็ม 3 ห่างจากเข็ม 2 เป็นเวลา 8 สัปดาห์
อนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วัคซีน Pfizer สำหรับเด็กเล็กที่จัดหา 3 ล้านโดสนั้น บริษัทจะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเร็วเป็นพิเศษ เนื่องจากกรมควบคุมโรคมีสัญญาการสั่งซื้อที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มชนิดของวัคซีนที่ผลิตเพื่อฉีดเด็กอายุ 6 เดือน – น้อยกว่า 5 ปีโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสูง เนื่องจากเป็นวัยที่ยังไม่สามารถดูแลป้องกันตนเองได้ การที่เด็กได้รับวัคซีนจะช่วยลดโอกาสของการเจ็บป่วย และลดการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในครอบครัวอีกด้วย