วันนี้ (23 กรกฎาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยว่า หลังจากรายงานยืนยันว่าชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี เป็นผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายแรกของประเทศไทย
จากการติดตามผู้สัมผัสพบว่า มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง 19 ราย ไม่มีอาการป่วย ส่งสิ่งส่งตรวจไปยังห้องปฏิบัติการทั้งหมดแล้ว ผลออกมาไม่พบเชื้อ 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจและรอผลอีก 17 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอีก 14 ราย ส่วนการค้นหาเชิงรุกมีจำนวน 142 ราย ไม่พบอาการผื่นสงสัย แต่มีอาการอื่นๆ คือ ไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 6 ราย ส่งตรวจแล้ว 5 ราย ผลออกมาไม่พบเชื้อ เดินทางไปต่างประเทศ 1 ราย
นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า สำหรับชายชาวไนจีเรียที่เป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงที่พบรายแรก ได้รับแจ้งจากทางตำรวจและสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตว่าพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ชายแดนประเทศกัมพูชา ค่อนข้างชัดเจนว่าหลบหนีออกทางช่องทางธรรมชาติ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังทางการกัมพูชาในการติดตามผู้ป่วยรายดังกล่าวผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วที่มีความร่วมมือสาธารณสุขชายแดนจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย
ในส่วนข้อกังวลว่าผู้ป่วยรายนี้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างหรือไม่นั้น นพ.โอภาสกล่าวย้ำว่า โรคฝีดาษลิงไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายอย่างโควิด การติดต่อต้องเป็นการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ และอาการโรคส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรุนแรง
ซึ่งมาตรการป้องกันตนเองจากโควิดยังสามารถใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันการสัมผัสผู้ที่มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองตามผิวหนัง และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) มีการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังไม่ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ และประเทศไทยยังกำหนดให้โรคนี้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ไม่ได้เป็นโรคติดต่ออันตราย เมื่อพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิงต้องรายงานไปยังเจ้าพนักงานควบคุมโรค ติดต่อในพื้นที่เพื่อสอบสวนและควบคุมโรคโดยเร็ว
ซึ่งเมื่อวานนี้ (22 กรกฎาคม) กรมควบคุมโรค โดยกองระบาดวิทยาได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แจ้งยกระดับการเฝ้าระวังที่คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกสุขภาพเพศ และคลินิกแพทย์ที่มีผู้ป่วยสงสัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาใช้บริการ สื่อสารแนวทางการเฝ้าระวัง คัดกรอง และรายงาน หากพบผู้มีอาการสงสัยให้ส่งตรวจเชื้อไวรัสฝีดาษลิงทันทีที่ห้องปฏิบัติการที่ระบุในแนวทางดำเนินการ