ตลาดเงินตลาดทุนตอบรับเชิงบวกผลประชุม กนง. คาดดอกเบี้ยไทยทยอยปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป นักเศรษฐศาสตร์ชี้แบงก์ใหญ่ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามสะท้อนการส่งผ่านนโยบายการเงินที่ไม่มีประสิทธิผล เปิดประตูให้ กนง. อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยแรงในครั้งหน้า
สงวน จุงสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย วิเคราะห์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ในวันนี้ (10 สิงหาคม) ว่าในภาพรวมการแถลงของ กนง. มองเศรษฐกิจไทยในเชิงบวกมากขึ้น มีการขยายตัวจากภาคการท่องเที่ยวเป็นวงกว้างไปสู่การบริโภคของภาคเอกชน การฟื้นตัวของตลาดแรงงานและรายได้ครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น โดย กนง. ยังบอกด้วยว่าจะมีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ในปีนี้
สงวนระบุว่า ท่าทีของ กนง. ส่งผลให้ตลาดเงินและตลาดทุนมีการตอบรับเชิงบวก โดยมีความมั่นใจมากขึ้นว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนจากผลตอบแทนพันธบัตรในภาพรวมที่ปรับลดลง 2-7 bps โดยบอนด์อายุ 2 ปี ปรับลดลง 2 bps บอนด์อายุ 5 ปี ปรับลดลง 3-5 bps และบอนด์อายุ 10 ปี ปรับลดลง 5-8 bps
“ก่อนหน้านี้ตลาดเคยมองว่า Terminal Rate ของไทยจะอยู่ที่ 2% แต่ตอนนี้คงต้องประเมินกันใหม่โดยมีความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ไม่เกิน 1.75%” สงวนกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจาก กนง. ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินบาทปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 35.56 บาทต่อดอลลาร์ จากที่เปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดพึงพอใจกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. แรงกดดันในเรื่อง Behind the Curve หายไปและกลับมาให้ความสนใจปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงรอฟังผลแถลงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.7% ทำให้ FOMC ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ในการประชุมรอบหน้า ซึ่งอาจกลับมากดดันเงินบาทในระยะข้างหน้าได้
ด้าน อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ในวันนี้ถือว่าเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด แต่โดยส่วนตัวมองว่าประเด็นที่น่ากังวลคือการที่ธนาคารขนาดใหญ่ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตาม เพราะแม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง แต่ในนัยหนึ่งก็หมายถึงการส่งผ่านนโยบายการเงินที่ไม่มีประสิทธิผล
“เรื่องนี้น่าห่วง หากการส่งผ่านนโยบายการเงินไม่มีประสิทธิผล สุดท้ายก็จะไม่มีใครมาแตะเบรกเศรษฐกิจไทย เงินเฟ้อคาดการณ์อาจจะสูงขึ้น การส่งผ่านต้นทุนของภาคธุรกิจอาจมาเร็วขึ้น ทำให้โอกาสที่เงินเฟ้อไทยจะลดลงมาอยู่ในกรอบ 1-3% เป็นไปได้ยากขึ้น ที่สำคัญยังอาจเป็นการเปิดประตูให้การประชุมครั้งต่อไป กนง. ต้องขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 0.50% หรืออาจต้องมีการประชุมนัดพิเศษหากเงินเฟ้อเร่งแรงขึ้น” อมรเทพระบุ
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
