(31 ส.ค.) นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่เช้านี้มีธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีปริมาณธุรกรรมข้ามธนาคารจำนวนมากเกิดปัญหาระบบขัดข้อง ทำให้เกิดรายการค้างรอจำนวนมาก มีผลกระทบไปสู่ธนาคารหลายแห่งให้เกิดการสะดุดหรือล่าช้าในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะบริการ Mobile Banking
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และให้ธนาคารเร่งแก้ไข รวมทั้งกันธนาคารดังกล่าวออกจากระบบกลางเพื่อลดผลกระทบที่มีกับธนาคารอื่นให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้ตกลงกันไว้
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำชับธนาคารให้มีการดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย เช่น กรณีรายการโอนเงินไม่สมบูรณ์ หรือไม่ได้รับเงินทันที
นอกจากนี้ได้สั่งการธนาคารที่มีปัญหาให้มีแผนการยกระดับศักยภาพความสามารถในการให้บริการเพื่อรองรับธุรกรรมที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
สำหรับช่วงเช้าวันนี้มีรายงานข่าวแจ้งปัญหาการใช้งานระบบ Digital Banking ของหลายธนาคารไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้
โดยธนาคารกสิกรไทย (9.40 น.) ชี้แจงและยอมรับว่าขณะนี้เกิดปัญหาระบบขัดข้อง ไม่สามารถทำธุรธรรมทั้งทาง ATM, K-Cyber Banking และ K PLUS ได้ ทำได้เพียงฝาก-ถอนเงินผ่านสาขา ไม่สามารถโอนเงินหรือรับโอนเงินจากต่างธนาคารได้ ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนที่สุด
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (10.15 น.) ยืนยันว่าระบบยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ และกำลังตรวจสอบการใช้งานผ่าน ATM อาจจะติดขัดกรณีที่โอนเงินต่างธนาคารไปที่ธนาคารปลายทางที่ระบบมีปัญหาจะยังไม่สามารถทำได้ ต้องรอให้ธนาคารปลายทางแก้ไขปัญหาเสร็จก่อน
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยันว่าระบบของธนาคารอื่นๆ เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารธนชาต ก็พบปัญหาขัดข้องด้วย