เพราะไทยเป็นถึงตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส’ ล่าสุดจึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาทในการก่อสร้างโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นส่วนของศูนย์การผลิตรถยนต์ที่มีการลงทุนมากที่สุด
“โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้สอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางสำหรับปี 2563-2565 ที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ” ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าว
โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้จะช่วยให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ขยับเข้าใกล้เป้าหมายในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนสมดุลที่ยั่งยืนทั่วโลกในอีก 30 ปีข้างหน้า ผ่านแผนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องการจะส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียน ตลอดจนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทลงถึง 40%
โดยในทุกๆ ขั้นตอนของการผลิตในโรงงานพ่นสีแห่งใหม่จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds (VoCs) สู่สภาพแวดล้อมได้ถึง 50% ส่วนโรงงานบำบัดน้ำเสียช่วยในการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และลดการปล่อยน้ำเสียได้ถึง 50%
ปัจจุบันโรงงานที่แหลมฉบังมีกำลังการผลิตมากกว่า 400,000 คันต่อปี โดยผลิตรถยนต์ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต, มิตซูบิชิ มิราจ, มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี, ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต จะได้รับการพ่นสีในโรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) มีโรงงานทั้งหมด 5 แห่ง โดยในปัจจุบันมีพนักงานชาวไทยมากกว่า 6,200 คนทำงานอยู่ภายในศูนย์การผลิตฯ