นักวิเคราะห์เลือกหุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เป็นหนึ่งใน Top Picks เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยวแล้ว และการคาดการณ์ของผลประกอบการที่ ‘สดใส’ ในช่วงที่เหลือของปี 2566
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เห็นสัญญาณผลกำไรในไตรมาสที่ 2 ที่แข็งแกร่ง ที่กำลังจะได้รับอานิสงส์จากช่วงฤดูการท่องเที่ยวไฮซีซันในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีโรงแรมส่วนใหญ่ของไมเนอร์ตั้งอยู่ ภายใต้แบรนด์โรงแรม NH และเป็นกลุ่มโรงแรมที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท
“เราแนะนำให้ลงทุนใน MINT ก่อนที่จะเข้าช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวของยุโรปในไตรมาส 2/66 โดยคาดกำไรไตรมาส 2/66 จะขยายตัว (โดยหนุนมาจากทุกธุรกิจ) และ QoQ (ไฮซีซันของโรงแรม NH)” หลักทรัพย์บัวหลวงกล่าวในรายงานซึ่งตีพิมพ์ในเดือนเมษายนนี้
จากการสอบถามผู้บริหารของ MINT บล.บัวหลวง ยังได้กล่าวถึงต้นทุนพลังงานในทวีปยุโรปที่มีแนวโน้มเป็นขาลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป
“ถึงแม้ว่าไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซันของเราในทวีปยุโรป แต่สถิติการดำเนินงานในเดือนเมษายนและยอดจองห้องพักในไตรมาสต่อๆ ไป สร้างความมั่นใจให้เราว่าจะเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งไปจนถึงสิ้นปีนี้” ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ MINT กล่าว
MINT ยังคงได้รับอานิสงส์จากความต้องการจากนักเดินทางทั่วโลก ทั้งเพื่อการพักผ่อนและการจัดประชุมต่างๆ (MICE) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ส่งผลให้แนวโน้มการดำเนินงานโดยรวมของธุรกิจโรงแรมมีความแข็งแกร่ง
ปัจจุบัน โรงแรมที่ MINT ดำเนินงานในประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 70% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเข้าพักในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 45% และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมในทวีปยุโรปก็คาดการณ์อัตราการเข้าพักสูงขึ้นเช่นเดียวกัน จาก 60% ในไตรมาสแรกของปี 2566 เป็นสูงกว่า 70-75% ในไตรมาสที่เหลือของปี
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจร้านอาหารของ MINT ก็ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จากความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ร้านอาหารในเครือให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงแบรนด์สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เล่อร์ และบอนชอน โดยมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 100 ล้านบาท สูงกว่าช่วงก่อนการเกิดโควิดในปี 2562 ถึง 12%
ในส่วนของประเทศสเปน ซึ่งทางกลุ่มไมเนอร์มีโรงแรมกว่าเกือบ 90 แห่ง มีการคาดการณ์จากสมาคมการท่องเที่ยว Exceltur ของประเทศสเปน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าจะทำรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 นี้ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อยู่ที่กว่า 1.7 แสนล้านยูโร ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกว่า 8.3% จากปีที่แล้ว
และกว่า 9.4% ก่อนเกิดการระบาดโควิด ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการท่องเที่ยวภายในประเทศที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาจากทวีปยุโรปด้วยกันเอง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจากทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
โดยสเปนนับเป็นประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2565 รองจากประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของไมเนอร์ โฮเทลส์ 72% มาจากทวีปยุโรปในปี 2565 ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘กอบศักดิ์’ แนะทยอยซื้อหุ้นเทคสหรัฐฯ เชื่อผลตอบแทนในอีก 1-2 ปีข้างหน้าดีกว่าฝากแบงก์
- เปิดพอร์ตพันล้าน ‘เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์’ ถือหุ้นอะไรบ้าง
- หุ้นไทย SET ดิ่ง 90 จุด ใน 3 วัน! โบรกชี้ภาวะ Panic Sell พ่วงแรงขายจาก ‘การบังคับขาย’ แต่ 1,520 จุด อาจไม่ใช่จุดขายแล้ว!