×

MINT – 2Q66: กำไรปกติทำสถิติสูงสุด ดีเกินคาด

15.08.2023
  • LOADING...
mint 2q66

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) รายงานกำไรสุทธิ 2Q66 จำนวน 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว YoY และฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 976 ล้านบาทใน 1Q66 หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติทำสถิติสูงสุดที่ 3 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ NH Hotel Group (NHH) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

รายการที่สำคัญ

  • ธุรกิจโรงแรม (76% ของรายได้): NHH (กิจการหลักในยุโรปของ MINT) รายงานกำไรปกติทำสถิติสูงสุดที่ 78.7 ล้านยูโรใน 2Q66 (หรือ ~90% ของกำไรปกติของ MINT) โดยได้รับการสนับสนุนจากช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในยุโรป อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 73% ใน 2Q66 (เทียบกับ 69% ใน 2Q65 และ 60% ใน 1Q66) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) แข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 152 ยูโรต่อคืน (เพิ่มขึ้น 32%QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 37%) ส่งผลทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) อยู่ที่ 110 ยูโรต่อคืน (เพิ่มขึ้น 62%QoQ, สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 32%)

  • ธุรกิจร้านอาหาร (18% ของรายได้): ยอดขายสาขา (SSS) โดยรวมเติบโต 8.1% ใน 2Q66 (เทียบกับ เพิ่มขึ้น 7.8% ใน 2Q65 และเพิ่มขึ้น 11.4% ใน 1Q66) จีนรายงาน SSS เติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 39.8% หลังจากเปิดประเทศ ตามด้วยประเทศไทยที่ 7.9% และออสเตรเลียที่ 3.3%

  • ดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%YoY และ 19%QoQ เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ที่ 1.34 เท่า (30 มิถุนายน 2566) เพิ่มขึ้นจาก 1.18 เท่า (31 มีนาคม 2566) แต่ยังต่ำกว่า Debt Covenant ที่ 1.75 เท่า   

       

กระทบอย่างไร:

วันที่ 15 สิงหาคม ณ เวลา 12.30 น. ราคาหุ้น MINT ปรับลดลง 1.52%DoD อยู่ที่ระดับ 32.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 0.55%DoD อยู่ที่ระดับ 1,526.77 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ของ MINT เพิ่มขึ้น 10% สู่ 6.9 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2 พันล้านบาทในปี 2565) และคาดว่ากำไรปกติ 3Q66 จะปรับตัวดีขึ้น YoY ต่อเนื่อง แต่จะลดลง QoQ โดยมีสาเหตุมาจากช่วงโลว์ซีซันในยุโรป อย่างไรก็ตาม MINT กำลังติดตามผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ใน 3Q66 จนถึงปัจจุบัน บริษัทพบว่ายอดจองห้องพักล่วงหน้าที่ NHH อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการเดินทางเพื่อพักผ่อนและเพื่อธุรกิจที่เพิ่มขึ้น 

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือน สำหรับ MINT ไว้ที่ Outperform และปรับปีฐานที่ใช้ประเมินมูลค่าเป็นสิ้นปี 2567 ซึ่งส่งผลทำให้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มขึ้นสู่ 44 บาทต่อหุ้น (จากราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42 บาทต่อหุ้น) อ้างอิงวิธี Sum-of-the-Parts

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการเดินทางและต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหาร

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising