ก่อนหน้านี้ไม่นาน ‘ไมเนอร์’ ซึ่งมีร้านอาหารกว่า 2,300 สาขา ใน 26 ประเทศ อยู่ในมือ เพิ่งทุ่มเงิน 2 พันล้านบาท เข้าซื้อ BonChon เชนไก่ทอดชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 40 สาขา
แต่ด้วยตัวเลขที่ไมเนอร์ประเมินว่า BonChon สามารถขยายสาขาเป็น 150-200 สาขาในอนาคตได้สบายๆ ทำให้ล่าสุด ไมเนอร์ตัดสินใจทุ่มอีก 2,483 ล้านบาท เข้าถือหุ้นในบริษัท Spoonful Pte. Ltd. ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ของ BonChon ในไทย และบริษัท สพูนฟูล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการร้าน BonChon ที่ขยายต่อไปในประเทศไทย
พูดง่ายๆ คือ ตอนนี้ไมเนอร์ได้เข้าไปถือหุ้น 70% ของมาสเตอร์แฟรนไชส์ BonChon ทำให้ต่อไปไมเนอร์คือผู้ดำเนินธุรกิจร้าน BonChon ในไทย ตลอดจนเป็นเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ในระยะยาวแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงให้สิทธิ์ในการให้แฟรนไชส์ต่อ
เบื้องลึกที่ทำให้ไมเนอร์ตัดสินใจทุ่มเงินรวมกันกว่า 4,483 ล้านบาท (รวมการเข้าซื้อ 2 ครั้ง) มาจากการมองว่า ตลาดไก่ทอดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และ BonChon ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ที่สำคัญแม้จะเจอปัญหา เช่น โรคโควิด-19 แต่ยอดขายต่อร้านเดิม (Same-Store-Sales) ในช่วง 2 เดือนแรกของปี ยังแข็งเกร่ง ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากบริการส่งแบบเดลิเวอรี
อีกทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA Margin) จะช่วยให้ BonChon สามารถรับมือกับความสามารถในการทำกำไรที่อาจลดลง อันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทายดังกล่าว
นอกจากนี้แล้ว BonChon ยังมีโอกาสขยายสาขาได้อีกมาก โดยเฉพาะในหัวเมืองต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบัน BonChon มีเพียง 2 สาขา ที่อยู่นอกกรุงเทพฯ โดยไมเนอร์วางแผนที่จะขยายสาขามากกว่า 150 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2567
พอล เคนนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมเนอร์ ฟู้ด กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์การเพิ่มแบรนด์ในเครือร้านอาหาร และสร้างความแข็งเกร่งให้กับธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งการที่ร้าน BonChon เปิดมานานเกือบ 10 ปี ทำให้มีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ (กลุ่ม Millennials และ Generation Z) ซึ่งมีความภักดีสูง จนสามารถนำไปต่อยอดได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล