×

สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกคอนโดย่านสุขุมวิท หลังกลายเป็นจุดเสี่ยงจากเหตุพบผู้ติดโควิด-19

14.07.2020
  • LOADING...

สืบเนื่องจากกรณีพบผู้ติดโควิด-19 เป็นเด็กวัย 9 ปี ในครอบครัวทูต ซึ่งได้เดินทางเข้าพักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งนั้น

 

วันนี้ (14 กรกฎาคม) ทีมงานจากกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่คอนโดมิเนียม One X สุขุมวิท 26 เพื่อตรวจคัดกรองโควิด-19 ในพื้นที่ เนื่องจากกลายเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคอยู่ขณะนี้

 

โดย นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การที่ได้ลงพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากมีการรายงานจากโรงพยาบาลเอกชน และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. พบผู้ติดโควิด-19 ในเบื้องต้นจึงได้มีการลงพื้นที่สอบสวนโรคและควบคุมป้องกันโรค ซึ่งเป็นมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

 

นอกจากนี้ นพ.ชวินทร์ ยืนยันว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ตรวจหาบุคคลที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน, พนักงานรักษาความปลอดภัย หรือลูกบ้านในคอนโด อีกทั้งยังมีรถพระราชทานมาตรวจเชื้อให้กับผู้ที่อยู่ในอาคารแห่งนี้ทุกคน 

 

ส่วนไทม์ไลน์ของผู้ป่วยจากเคสดังกล่าวที่ได้รับการยืนยัน นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ครอบครัวดังกล่าวเข้ามาถึงสุวรรณภูมิวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 05.00 น. ซึ่งก็ได้มีการคัดกรองที่จุดตรวจเรียบร้อย และได้รับการยืนยันว่า มีเด็กวัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 หลังจากนั้นได้นำตัวมาพักในระบบของสถานทูต โดยคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดความแออัดของสถานที่ จึงได้นำตัวผู้ป่วยมาพักที่คอนโดแห่งนี้ ก่อนส่งตรวจโรงพยาบาล และได้รับการยืนยัน พร้อมการรักษา ส่วนเรื่องของอาการผู้ป่วย เรื่องปอดอักเสบตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว 

 

ขณะเดียวกันกลุ่มคนที่เดินทางเข้ามาในไฟลท์บินเดียวกันก็มีผู้โดยสารรวม 244 คน ซึ่งก็ได้มีการคัดกรองทั้งหมด และพบผู้ติดเชื้อแล้ว 12 ราย โดยมีการส่งกระจายไปรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ และมีผู้เข้าข่ายสอบสวนโรค 45 คน ส่วนคนไทยที่เหลือก็ต้องเข้าไปกักตัวใน State Quarantine ที่รัฐจัดเตรียมไว้ ส่วนคณะทูตก็ให้ถือเป็นไปตามเอกสิทธิ์ โดยจะต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่กักกันของสถานทูตไว้เช่นกัน

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามเพิ่มเติมถึงกรณีที่อาจถูกมองว่าจะเป็นการแบ่ง 2 มาตรฐานหรือไม่ ในกรณีที่คนไทยจากต่างแดนที่เดินทางมาถึงต้องกักตัวทันที แต่กลับกัน ทางคณะทูตสามารถเดินทางออกนอกจุดกักตัวได้ ก่อนกลับไปตรวจเชื้ออีกครั้ง

 

นพ.ชวินทร์ ระบุว่า ปัญหานี้เป็นที่รับทราบกันดีว่ากฎดังกล่าวทำให้เกิดช่องว่างอยู่บ้าง ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนในการที่จะให้ทาง ศบค. หรือนักวิชาการทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาช่วยระดมความคิดกันว่า มาตรการที่จะก่อให้เกิดความเข้มข้นในการป้องกันโรคและรัดกุม พร้อมสร้างความสบายใจให้พี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้นต้องทำอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฝ่ายจัดการนิติบุคคลโครงการคอนโดมิเนียม One X สุขุมวิท 26 ก็ได้ออกหนังสือชี้แจง เรื่องมาตรการรับมือกรณีผู้พักอาศัยคอนโด One X สุขุมวิท 26 ติดโควิด-19 พร้อมมาตรการที่ฝ่ายจัดการได้ดำเนินการ มีดังนี้

 

  • ฝ่ายจัดการได้ปิดลิฟต์โดยสารและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทันที่ที่ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 และจะมีการฆ่าเชื้อซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 14 และ 21 กรกฎาคม 2563
  • จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีพนักงานติดต่อโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ แต่มีพนักงานเพียงคนเดียวที่ได้ติดต่อกับสมาชิกในครอบครัวผู้ติดเชื้อ โดยพนักงานดังกล่าวได้สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการได้ดำเนินการกักตัวพนักงานคนดังกล่าว และจัดส่งพนักงานส่วนกลางเข้ามาปฏิบัติงานทดแทนเป็นระยะเวลา 14 วัน
  • ฝ่ายจัดการได้อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคในการนำรถพระราชทานตรวจหาโควิด-19 เข้ามาให้บริการแก่ผู้พักอาศัยภายในโครงการ  และได้ประสานแจ้งผู้พักอาศัยให้ช้ารับบริการตรวจหาเชื้อโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563
  • ฝ่ายจัดการได้ประกาศแจ้งลูกบ้านและผู้พักอาศัย และขอความร่วมมือผู้ที่ใช้ลิฟต์โดยสารระหว่างวันที่ 10-12 กรฎาคม 2563 ติดต่อเจ้าหน้าที่นิติบุคคล เพื่อรับบริการตรวจหาโควิด-19 ลงทะเบียนรับคู่มือดูแลตนเอง งดใช้พื้นที่ส่วนกลาง และกักตัวรอดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน
  • ฝ่ายจัดการยังคงมาตรการที่เข้มข้นรัดกุม โดยมีการทำความสะอาดตามจุดสัมผัสต่างๆ ในอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบันได มือจับประตู อุปกรณ์ฟิตเนส เป็นต้น และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่ผ่านเข้าออกโครงการ และห้ามผู้ที่มีความเสี่ยงใช้พื้นที่ และให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติหน้าที่ และห้ามพนักงานเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising