สธ. แถลงคืบหน้ากรณีผู้ป่วยโควิด-19 กลับจากเมียนมา ชี้ทั้ง 10 คนมีโทษรุนแรง เผยความเสี่ยงเครื่องบิน-รถตู้ที่โดยสาร

วันนี้ (3 ธันวาคม) กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 10 รายที่ติดเชื้อจากฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 10 ราย แบ่งเป็น เชียงใหม่ 3 ราย, เชียงราย 3 ราย, พะเยา 1 ราย, พิจิตร 1 ราย, กรุงเทพมหานคร 1 ราย และราชบุรี 1 ราย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้าจากการติดตามสอบสวนโรค โดยผู้ติดเชื้อ 10 รายส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไปเที่ยว กลับบ้าน มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อ บางรายได้ประวัติและไปสอบสวนโรค

ทั้งนี้การติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 175 คน ผลตรวจยังเป็นลบอยู่ อย่างไรก็ตาม จะตรวจซ้ำจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจำนวน 524 คนอยู่ระหว่างคุมไว้สังเกตอาการ รวมมีผู้สัมผัสทั้งเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำทั้งหมด 699 คนด้วยกัน

สำหรับกรณีที่หลายคนสงสัยว่าบนเครื่องบินนั้นมีความเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อดีของเครื่องบินคือมีการบังคับใส่หน้ากากอนามัยกันทุกคน ซึ่งหน่วยงานที่บังคับการใส่หน้ากากอนามัยถือว่ามีประโยชน์มาก ฉะนั้นหากใส่หน้ากากอนามัยกันทุกคน แน่นอนว่าความเสี่ยงต่ำ แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัย 2 แถวหน้า กับ 2 แถวหลังระหว่างที่ที่ผู้ติดเชื้อนั่งจะกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทันที ส่วนรถตู้นั้น หากขับไม่นานถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่หากโดยสารเกิน 15 นาทีจะกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การกระทำโดยการลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย ประกอบด้วย พ.ร.บ. โรคติดต่อ, พ.ร.บ. คนเข้าเมือง และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยทั้งหมดมีโทษที่รุนแรง ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป

นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขยังได้เปิดแผนผังงานฟาร์ม เฟสติวัลที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มีหญิงสาวพะเยาที่ติดเชื้อโควิด-19 และเพื่อนๆ เข้าไปในงานด้วย โดยข้อมูลมีดังต่อไปนี้