×

Mindset of Champion: สิ่งที่ทำให้ ราฟาเอล นาดาล กวาดแกรนด์สแลมที่ 22 ในวัย 36 ปี

07.06.2022
  • LOADING...
Mindset of Champion

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • นับจากที่นาดาลเริ่มลงแข่งในเฟรนช์โอเพนและคว้าแชมป์สมัยแรกได้ในปี 2005 นาดาลเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 17 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 14 ครั้ง ชนะทั้งหมด 112 และแพ้เพียงแค่ 3 แมตช์
  • คำเดียวที่จะบรรยายตัวตนของนาดาลได้ดีที่สุดน่าจะเป็นคำว่า Intensity หรือพลังอันแรงกล้าที่เราจะสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาที่ยอดนักเทนนิสชาวสเปนลงแข่งขัน
  • ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนหรือเก่งแค่ไหน ใครก็ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้นาดาลก้าวข้ามทุกอย่างได้คือ การที่เขารู้จักวิธีที่จะไม่เก็บเอาความหงุดหงิด ผิดหวัง และความคิดแง่ลบทั้งหลาย มาใส่ใจ

อาจไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศที่ยากลำบากอะไรสำหรับ ราฟาเอล นาดาล เมื่อคู่แข่งอย่าง แคสเปอร์ รุด ห่างชั้นเกินกว่าจะต้านทานราชาคอร์ตดินอย่างเขาได้ และทุกอย่างก็จบลงในเวลาแค่ 2 ชั่วโมงกับอีก 18 นาทีเท่านั้น ด้วยชัยชนะ 6-3, 6-3, 6-0

 

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแชมป์โรลังด์การ์รอส หรือเฟรนช์โอเพน ประจำปี 2022 จะไม่มีความหมายสำหรับยอดนักเทนนิสขวัญใจคนทั้งโลกชาวสเปน ในทางตรงกันข้าม นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์สำหรับนักกีฬาที่เพิ่งจะฉลองอายุครบรอบ 36 ปีได้ไม่กี่วัน

 

ในเชิงสถิติแล้ว ในประวัติศาสตร์การแข่งขันโรลังด์การ์รอส 131 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีนักกีฬาคนใดที่จะกวาดแชมป์ได้มากถึง 14 สมัยเหมือนนาดาล โดยนับจากที่เขาเริ่มลงแข่งและคว้าแชมป์สมัยแรกได้ในปี 2005 นาดาล เข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 17 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 14 ครั้ง ชนะทั้งหมด 112 และแพ้เพียงแค่ 3 แมตช์

 

นาดาลยังเป็นนักเทนนิสชายที่อายุมากที่สุดที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้ด้วยวัย 36 ปี ทำลายสถิติของ อันเดรส คิเมโน นักเทนนิสชาวสเปนเช่นกัน ที่เคยทำสถิติไว้ด้วยวัย 34 ปี เมื่อปี 1972

 

ที่สำคัญที่สุดคือ ถ้วยรางวัลที่รับจากมือของ บิลลี จีน คิง ตำนานนักเทนนิสหญิงผู้ยิ่งใหญ่ ถือเป็นแชมป์แกรนด์สแลมที่ 22 ของเขา หนีห่าง โนวัค ยอโควิช และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ยังหยุดนิ่งที่ 20 แกรนด์สแลม ออกไปอีก


กระทิงดุจากสเปนแอบเปิดเผยความลับออกมาเล็กน้อยหลังได้แชมป์ว่า “มันคงจะไม่ทำให้คุณประหลาดใจนักว่าการจะคว้าโรลังด์การ์รอสถึง 14 ครั้ง หรือ 22 แกรนด์สแลม นั้นเป็นเพราะคนคนนั้นเป็นพวกเย่อหยิ่งจองหองอย่างรุนแรง

 

“แต่ความจริงคือผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลย ผมไม่เคยฝันว่าจะประสบความสำเร็จมากเท่าที่ผมทำได้ตอนนี้ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะเก่งหรือดีอะไรขนาดนั้นเลยจริงๆ ผมแค่ก้าวทีละก้าว ฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการจะพัฒนาตัวเองในด้านใด นี่คือสิ่งที่อยู่ใน Mindset ของผมมาตลอดชีวิตการเล่น ลงคอร์ต ซ้อมทุกครั้งต้องมีสิ่งที่เราทำได้ดีขึ้นเสมอ นี่คือความเข้าใจกีฬาในรูปแบบเดียวที่ผมรู้

 

“ด้วยปรัชญานี้และด้วยความช่วยเหลืออย่างดีเยี่ยมจากทีมของผมรวมถึงครอบครัวและเพื่อนๆ ทุกคนที่คอยสนับสนุนผมตลอดเส้นทางที่ผ่านมาล้วนมีความสำคัญกับผมมาก ผมได้เรียนรู้ในทุกสถานการณ์ไม่ใช่เฉพาะแค่ในโลกเทนนิส ผมได้เรียนรู้ในเรื่องของการใช้ชีวิต และประสบการณ์ทุกอย่างช่วยให้ผมเติบโตขึ้นเสมอ”

 

อย่างไรก็ดี กรอบความคิดของนาดาลนั้นไม่ได้มีแค่นี้ครับ ยังมีสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ Mindset of Champion ของเขาได้อีก

 

ราฟาเอล นาดาล ฮีโร่ของเด็กๆ เสมอ

 

1. ด้วยใจอันแรงกล้า

หากจะหาคำคำเดียวที่จะบรรยายตัวตนของนาดาลได้ดีที่สุดน่าจะเป็นคำว่า Intensity หรือพลังอันแรงกล้าที่เราจะสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาที่ยอดนักเทนนิสชาวสเปนลงแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คู่แข่งเอาชนะเขาได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยในรายการที่ต้องใช้พละกำลังทั้งกายและใจสูงกว่าคอร์ตอื่นอย่างคอร์ตดินในโรลังด์การอส

 

นักกีฬาไม่ว่าจะคนใดก็ตาม หากเพิ่มความแรงกล้าเข้าไปในการเล่นและมีสมาธิจดจ่อกับการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ ก็จะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของจิตใจและเล่นได้อย่างสุดความสามารถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่นาดาลถนัดเป็นอย่างมาก

 

เหมือนในนัดชิงออสเตรเลียนโอเพน ที่ด้วยวัยและสถานการณ์แล้วนาดาลไม่น่ารอดจาก ดานิล เมดเวเดฟ ที่ได้ 2 เกมพอยต์ แต่สุดท้ายด้วยพลังใจของเขาที่เหนือกว่า ทำให้จากแค่ไม่ยอมแพ้ กลายเป็นไล่ต้อนคู่แข่งให้จนมุมและกลับมาเอาชนะได้อย่างมหัศจรรย์

 

สำหรับนาดาล ลองบอกเขาว่ามีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาจะทำให้ดูเองว่ามันเป็นไปได้

2. ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด

ครั้งหนึ่งนาดาลเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเรียนรู้ในระหว่างเส้นทางการเป็นนักเทนนิสที่จะสนุกไปกับปัญหาและความเจ็บปวด”

 

เพราะเขาเชื่อว่า ยิ่งเราเอาชนะปัญหา ความเจ็บปวด และอุปสรรค ได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น และยิ่งผ่านช่วงเวลาแบบนี้มามากแค่ไหน เราก็จะยิ่งค้นพบความสุขจากความเจ็บปวดมากเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายมันจะทำให้เรากลายเป็นคนไร้เทียมทาน

 

และที่นาดาลทำแบบนี้ได้ เพราะเขาอุทิศทั้งตัวและหัวใจให้แก่การเล่นเทนนิส เขาใช้ชีวิตเป็น ‘เทนนิส’ และมันทำให้เขาไปได้ไกลกว่าคนอื่น

 

แต่ยังมีสิ่งอื่นที่ช่วยให้เขาอยู่ยืนยาวกลายเป็นกระทิงอมตะจนถึงวันนี้

 

3. หัวใจไม่ได้มีไว้ใส่ความหงุดหงิดผิดหวัง

ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหนหรือเก่งแค่ไหน ใครก็ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งนั้น สำหรับนาดาลเองนอกจากคู่แข่งแล้ว ศัตรูที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาก็คืออาการบาดเจ็บของตัวเอง และก็ดันเป็นคนที่เจ็บหนักบ่อยเสียด้วย

 

เรียกได้ว่าความผิดหวังกับนาดาลก็เป็นของคู่กันอยู่ เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาก้าวข้ามทุกอย่างได้คือ การที่เขารู้จักวิธีที่จะไม่เก็บเอาความหงุดหงิด ผิดหวัง และความคิดแง่ลบทั้งหลาย มาใส่ใจ

 

เมื่อครั้งที่คว้าแชมป์โรมมาสเตอร์สได้ในปี 2019 นาดาลบอกว่า “ผมไปที่คอร์ตเทนนิสทุกวันและซ้อมทุกวัน บางครั้งผมอาจจะแพ้นัดชิงมา หรือบางครั้งผมอาจจะต้องถอนตัวจากการแข่งกลางคันเพราะบาดเจ็บ แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ความคิดแง่ลบและความผิดหวังเข้ามารบกวนจิตใจเด็ดขาด สิ่งที่ผมสนใจคือการซ้อมในทุกวันเท่านั้น”

 

กับ แคสเปอร์ รุด ลูกศิษย์จากอะคาเดมีของตัวเอง

 

4. ลงทะเบียนเรียนทั้งชีวิต

เพียงแต่กว่าจะบรรลุถึงขั้นนี้ได้ เขาเองก็เคยผ่านช่วงเวลาที่มืดมน หลงลืมไปว่าตัวเองเคยเป็นนักเทนนิสที่เก่งแค่ไหน เรียกได้ว่าแทบจะหลงทางกันไปเลย

 

นักกีฬาชั้นยอดหลายคนที่เคยประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถยอมรับช่วงเวลาที่ตกต่ำได้ เรื่องนี้เป็นปัญหา ซึ่งแม้แต่นาดาลเองก็เคยเจอ แต่สุดท้ายแล้วเขาเลือกที่จะขอเบรกจากการเล่นและทบทวนตัวเองใหม่ทั้งหมด

 

เขาใช้เวลาในการทดสอบการเล่นของตัวเอง ใช้เวลาค้นหาว่าจุดใดที่ควรจะทำให้ดีขึ้น และเมื่อพบแล้วก็จะตัดสินใจทำทันทีเพื่อให้มันดีขึ้น หากไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ วันมะรืนก็ต้องดีขึ้น

 

จากคนที่ขี้หงุดหงิด ผิดหวัง นาดาลกลายเป็นคนที่สุขุมขึ้น ต่อให้แพ้ แต่เขาก็พร้อมที่จะยอมรับและมองหาสิ่งที่จะเรียนรู้จากความพ่ายแพ้

 

นั่นนำไปสู่ชัยชนะที่สำคัญที่สุดของเขา สิ่งที่เรียกว่าการชนะใจตัวเอง

 

5. ทำไปเถิดจะเกิดผล

ในชีวิตจริงหลายคนอาจยึดติดกับผลลัพธ์หรือปลายทางเป็นหลัก แต่สิ่งที่ยอดนักกีฬาอย่างนาดาลยึดติดนั้นไม่ใช่เรื่องของผลลัพธ์ แต่เป็นเรื่องของสิ่งที่ทำหรือสิ่งที่อยู่ระหว่างทาง

 

ทำไปเถอะ ถ้าเราทำดี ช้าหรือเร็วมันจะต้องได้สิ่งที่ดีกลับมาอย่างแน่นอน


เหมือนครั้งหนึ่งที่นาดาลแพ้ต่อยอโควิชแบบหมดรูปในนัดชิงชนะเลิศ รายการออสเตรเลียนโอเพน ซึ่งความจริงเขาควรจะผิดหวัง แต่สิ่งที่ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมคือ “ถึงจะเป็นในช่วงที่แข่งอยู่ ผมก็ยังมองเกมนี้จากระยะไกล ซึ่งหมายความว่าผมไม่ได้มีอีโก้อะไรในนี้ ผมรู้ว่ายอโควิชกำลังเล่นได้พีคที่สุดในวันนี้ เขาเล่นดีกว่าผมตลอดทั้งเกม และเป็นชัยชนะที่ชัดเจนสำหรับเขา”

 

แต่เมื่อนาดาลไม่ได้ยึดติดกับผลลัพธ์ว่าจะชนะหรือแพ้ มันทำให้ความหมายของชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ก็เปลี่ยนไปด้วย

 

ผลลัพธ์นั้นไม่ได้อยู่ในมือเราเสมอไป สิ่งเดียวที่อยู่ในมือเราจริงๆ คือการทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

 

ไม่มีอะไรดีกว่านี้ การันตีความสำเร็จแน่นอนโดย ราฟาเอล นาดาล 🙂

 

อ้างอิง:

FYI
  • แคสเปอร์ รุด เป็นอดีตเด็กที่เคยเรียนที่อะคาเดมีของนาดาลเมื่อปี 2018 และมีโอกาสทดสอบฝีมือ ‘ครู’ แบบจริงจังครั้งแรก ก่อนจะพบความจริงว่าครูอย่างนาดาลนั้นโหดแค่ไหน
  • ในแกรนด์สแลม 22 ครั้ง นาดาลได้โรลังด์การ์รอสเยอะที่สุด 14 ครั้ง นอกเหนือจากนั้นคือ ออสเตรเลียนโอเพน 2 ครั้ง, วิมเบิลดัน 2 ครั้ง และยูเอสโอเพน 2 ครั้ง
  • การคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนต่อจากออสเตรเลียนโอเพนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตของนาดาลที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมต่อเนื่องกัน โดยก่อนหน้านี้เคยคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพน, วิมเบิลดัน และยูเอสโอเพน ต่อเนื่องกันได้ครั้งเดียว
  • นาดาลเปิดเผยว่า เขามีอาการบาดเจ็บที่เท้าซ้ายและต้องฉีดยาชาลงเล่น ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นหากไม่หายก็จะไม่ลงแข่งวิมเบิลดันต่อ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising