ยานนิส อันเททูคูมโป ทำสกอร์ 50 แต้ม พา มิลวอกี บักส์ คว้าแชมป์ NBA สมัยที่ 2 และเป็นแชมป์สมัยแรกในรอบ 50 ปี ด้วยการแซงเอาชนะ ฟีนิกซ์ ซันส์ ในเกมที่ 6 ด้วยสกอร์ 105-98 เอาชนะซีรีส์ NBA ไฟนอลส์ 4-2 เกม ท่ามกลางแฟนบาสฯ ราว 20,000 คนในสนามไฟเซิร์ฟ ฟอรัม และอีกประมาณ 65,000 คนที่รอฉลองแชมป์นอกสนาม
ยานนิสทำ 50 แต้ม 14 รีบาวด์ เป็น ‘ดับเบิล ดับเบิล’ โดยการทำ 50 คะแนนในเกมปิดซีรีส์ ยังช่วยให้เขาเป็นผู้เล่นคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่สามารถทำคะแนนระดับนี้ได้ในเกมไฟนอลส์ พร้อมกับคว้ารางวัล MVP รอบชิงชนะเลิศมาครองด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ และเป็นผู้เล่นต่างชาติคนที่ 4 เท่านั้นที่คว้ารางวัลนี้มาครองได้ ต่อจาก เดิร์ก โนวิตซกี, ฮาคีม โอลาจูวอน และ โทนี พาร์กเกอร์
เกมนี้บักส์ตามหลังในตอนพักครึ่งอยู่ 42-49 คะแนน แต่ยานนิสทำคนเดียว 32 คะแนนในครึ่งหลัง พาทีมกลับมาแซงเอาชนะเกมนี้ ทำให้เขาได้รับการยกย่องเทียบกับตำนานของทีมอย่าง คารีม อับดุล จับบาร์ และ ออสการ์ โรเบิร์ตสัน เลยทีเดียว
🗣️🏆
Giannis elation in #PhantomCam. pic.twitter.com/rC16SKZOdB
— NBA (@NBA) July 21, 2021
ยานนิส อันเทโทคูมโป ฉลองการคว้า MVP รอบไฟนอลส์
“บางทีในอีก 15 หรือ 20 ปีข้างหน้า ชื่อของผมอาจจะถูกพูดไปพร้อมๆ กับชื่อของ คารีม หรือ ออสการ์ โรเบิร์ตสัน ผมหวังว่าผมจะอยู่ในระดับนั้น” อันเทโทคูมโปกล่าว “ผมอยากจะขอบคุณมิลวอกกีที่เชื่อมั่นในตัวผม ผมต้องการจะขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่เล่นลุยกันมาหนักพร้อมๆ กับผม”
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ของบักส์ เป็นการคว้าแชมป์โดยไม่มีผู้เล่นที่เคยได้แชมป์ NBA มาก่อนอยู่ในทีมเลย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้โค้ช ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมตั้งแต่ปี 2018 ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นแชมป์ แต่อย่างไรก็ตาม โค้ชไมค์ก็ยกเครดิตในการคว้าแชมป์ครั้งนี้ให้กับยานนิสเช่นกัน
“ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากเขา เขาเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง” บูเดนโฮลเซอร์ กล่าว “ผู้เล่นเหล่านี้เป็นแชมป์ในทุกๆ วันอยู่แล้ว พวกเขาพยายามทำทุกสิ่งออกมาให้ดีกว่าเดิมเสมอในทุกๆ วัน”
ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ มีอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้นในเวลาที่ 2 ตำนานอย่าง คารีม อับดุล จับบาร์ และ ออสการ์ โรเบิร์ตสัน พาบักส์ไปคว้าแชมป์สมัยเดียวของพวกเขาในปี 1971 ซึ่งพ่อแม่ของผู้เล่นบางคนในทีมชุดนี้ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
อ้างอิง: