×

อมิลลิกา เฟิร์สต์ไทม์ อเมริกรู้ว Vlog ประสบการณ์เลิศๆ เบื้องหลัง Coachella จาก MILLI

02.09.2022
  • LOADING...

เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในเมืองลอสแอนเจลิส กับ ‘มิลลิ’ สาวน้อยจอมแสบ

 

ผ่านไปประมาณ 4 เดือน หลังการขึ้นแสดงบนเวที Coachella ของ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล ที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์ทั้งวงการบันเทิงไทยและวงการข้าวเหนียวมะม่วงไปพร้อมกันถ้วนหน้า

 

ในที่สุดค่าย YUPP! ก็ได้ฤกษ์ปังๆ ปล่อย Coachella Vlog ของมิลลิออกมาเรียบร้อย พร้อมกับฟุตเทจเบื้องหลังแบบเบิ้มๆ กรี๊ดๆ และ แป๊ะๆ (เสียงมิลลิตบหน้าตัวเอง) ที่ทำเอาเราทั้งขำและภูมิใจอยู่ไม่น้อย

 

 

ถ้าย้อนกลับไป มิลลิปรากฏตัวครั้งแรกในเวทีช่วงออดิชันของรายการ THE RAPPER 2 พร้อมกับไรม์เก๋ๆ ในเพลง หญิงลั้ลลา ที่เข้าตาทั้งโค้ชและผู้ชมหน้าจอมากมาย ก่อนจะได้เซ็นสัญญาเข้าเป็นศิลปินในสังกัดของ YUPP! และเริ่มสร้างกระแสด้วยเพลงของตัวเองอย่าง สุดปัง หรือ 17 นาที

 

ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ ว่ามิลลิเป็นศิลปินที่มีเสียงเป็นเอกลัษณ์มากๆ จนค่ายเพลงสัญชาติอเมริกาที่ทำงานร่วมกับศิลปินเอเชียมากมายอย่าง 88rising ชักชวนให้ไปทำโปรเจกต์ต่างๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ หรือการรีมิกซ์เพลง The Weekend ของ BIBI

 

มิลลิใช้เวลาไม่ถึง 3 ปี เดินทางจากเวทีออดิชันสู่เวทีใหญ่ที่คาดไม่ถึงอย่าง Coachella และน่าจะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นภาษาไทย อาหารไทย และศิลปินไทยไปปรากฏตัวอยู่บนนั้น

 

 

ตอนต้นของคลิปนี้ มิลลิได้เล่าที่มาที่ไปของการขึ้นเวที Coachella ครั้งนี้ เกิดจากการชักชวนของคุณจอห์น ทีมงานของ 88rising ที่พยายามพูดและชวนทุกทางให้มิลลิมาร่วมแจมในโชว์ Head In The Clouds Forever ให้ได้ แม้ว่าในตอนแรกมิลลิจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เหมาะสมกับเวทีนี้ ด้วยอายุงานและประสบการณ์ที่ไม่มากนัก แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจมาตามคำชวน ด้วยเหตุผลที่ว่า

 

“ปีนี้เขาอาจจะมีโอกาส จังหวะพอดี แล้วก็ชวนกันไปแจมๆ กัน ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็มาลองดูแล้วกัน เผื่อเจอทางที่มันเก่งได้อีก คือไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะได้มาอีก เออ มาๆ ไปก่อน”

 

 

ส่วนเนื้อหาใน Vlog นี้ประกอบด้วยความตื่นเต้นของน้องนวย (ชื่อเรียกอีกชื่อของมิลลิ) เป็นหลัก ประเดิมด้วย Instagram Story ของ จองกุก วง BTS ที่มีเพลง Mirror Mirror เป็นฉากหลัง ทำมิลลิเสียน้ำตาตั้งแต่ในโรงแรมจนขึ้นรถ เนื่องจากมิลลิเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบวง BTS มากๆ และตัวเธอเองก็เคยทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่า “อยากเก่ง เก่งมากๆ จนบังทันรู้จักอ่ะ” ซึ่งนี่ก็เป็นเหมือนความสำเร็จอีกขั้นของตัวเธอ

 

แน่นอนว่าเรื่องพีคๆ มันยังไม่จบ เพราะมิลลิก็ได้มีโอกาสพบเจอกับศิลปินระดับโลกอีกมากมาย เริ่มต้นด้วย แจ็คสัน หวัง ศิลปิน K-Pop ชื่อดังที่เข้ามากอดทักทาย และแนะนำตัวในฐานะ ‘พี่แจ็ค’ อย่างเป็นกันเอง ทำเอามิลลิต้องตบหน้าตัวเองเรียกสติไปหลายที พร้อมพูดประโยครัวลิ้นไปว่า

 

“Oh my god! ร้องไห้ สวัสดีค่ะ 

Is it real? You looks like in the cartoon, 

or I’m in something like the, am I dreaming?”

 

 

 

แถมพี่แจ็คคนนี้ยังมาพูดคุยกับน้องนวยในห้องแต่งตัว รับบทนักเรียนให้คุณครูมิลลิสอนพูดภาษาไทยว่า ‘โคตรเลิศ’ และ ‘เก๋มาก’ เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่นำไปสู่เพลง Mind Games และโชว์ดีๆ บนเวทีราชมังฯ และทุกครั้งที่แจ็คสันแยกตัวออกไป ก็มักจะจบด้วยการกรี๊ดและวิ่งไปรอบๆ เพื่อระบายความตื่นเต้น จนเรารู้สึกอิจฉากับแต้มบุญของเธออยู่เหมือนกัน

 

ต่อด้วย BIBI ที่เข้ามาหามิลลิพร้อมดอกกุหลาบด้วยท่าทางน่ารักๆ จนเราอดสงสัยไม่ได้ว่าพี่สาวเจ้าของเพลง The Weeken ที่มิลลิเคยไปร้องเวอร์ชันรีมิกซ์ต้องเอ็นดูเจ้านวยแค่ไหน ถึงเป็นทั้งเพื่อนเล่น เพื่อนคุย และให้อัลบั้มพร้อมลายเซ็นกับมิลลิได้ขนาดนี้

 

 

การไปอเมริกาครั้งแรกของมิลลิสร้างเรื่องไว้มากมาย ตั้งแต่การเตรียมงานจนสิ้นสุดเทศกาลดนตรี Coachella ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังของเพลง Mango Sticky Rice เกิดขึ้นด้วยพลัง One Night Miracle ทำเพลงต่อกัน 15 ชั่วโมงรัวๆ พร้อมทั้งการเข้าห้องอัดที่มีแผ่นเสียงของศิลปินระดับโลกเรียงไปตลอดแนวทางเดิน รวมถึงแรปเปอร์ชื่อดังอย่าง Lil Wayne ที่ทำให้มิลลิเสียอาการจนต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลยทีเดียว

 

หลังจากเพลง Mango Sticky Rice เสร็จเรียบร้อย มิลลิก็เริ่มซ้อมครั้งแรกในวันต่อมา ซึ่งดูเป็นตารางงานที่แน่นและโหดอยู่พอควร แต่ซ้อมๆ อยู่ก็มีอันต้องเสียน้ำตาอีกครั้งกับการเจอ CL แรปเปอร์ชาวเกาหลีใต้ สมาชิกของวง 2NE1 อีกหนึ่งศิลปินในดวงใจที่ทำให้มิลลิต้องตบหน้าตัวเองอีกหลายครั้ง ร้องไห้จนสุดปอดแบบที่ใครๆ ก็ต้องเอ็นดู

 

“หนูเล่าให้พี่ฟังว่าหนูเคย Cover เพลง CL เพลง Hello Bitches แล้วชนะ หนูก็เลยร้องได้ทุกคำเลยเพลงนั้น แล้วหนูก็เต้นได้ทุกอัน ไม่ไหว ร้องไห้  CL, She is real. I cannot handle this. I slapped on my face like third time. ไม่ไหว ไม่รู้จะทำตัวไงแล้ว มันเหนือจริงไปหมด”

 

 

คำว่าเหนือจริงที่มิลลิพูดมันยังเหนือจริงได้อีก เพราะนอกจากกระแสตอบรับอย่างล้มหลามของเพลง Mango Stricky Rice แล้ว ในสัปดาห์ต่อมาเธอก็ถูกชวนให้ขึ้นไปแสดงอีกครั้งก่อนจะกลับเมืองไทย ในโชว์เดียวกับวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง aespa พร้อมเพลงใหม่ที่เริ่ดกว่าเดิมอย่าง Sad Arobic ที่สนุกเหมือนยกบรรยากาศสวนลุมตอนเย็นมาไว้บนเวทีเลยทีเดียว

 

ตลอด 20 นาทีในคลิปวิดีโอนี้ เรานับไม่ได้ด้วยซ้ำว่านวยตบหน้าตัวเองไปกี่ครั้ง หรือพูดไม่ไหวไปกี่คำ แต่เราสัมผัสได้ว่าการมาถึงของเวทีนี้สำหรับมิลลิคือคำว่า ‘มันเหนือจริงไปหมด’ สำหรับเด็กอายุ 19 ปี บนเทศกาลดนตรีระดับโลก คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือความตื่นเต้นและความสำเร็จที่เหลือเชื่อ แต่ความสามารถและความปังของมิลลิก็เป็นเครื่องย้ำเตือนว่านี้คือเรื่องจริง เหมือนกับท่อนหนึ่งในเพลงสุดปัง

 

“ฝันที่เคยที่ฝันว่าอยากสวย

อย่างที่หวังดั่งนางฟ้านางสวรรค์

คิดว่าคงได้แค่ฝันแต่วันนี้มันกลับกัน

เพราะว่าลองกลับหลังหัน

มองตัวเองกระจกพบว่า อื้ม ก็แอบปัง”

 

 

 

เราเชื่อว่าฝันในการเป็นศิลปินของมิลลิได้สิ้นสุดไปอีกขั้น จากเด็กอายุ 16 ปี จนถึงวันนี้ ภาพในกระจกของมิลลิเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และตัวเธอเองก็น่าจะเติบโตไปได้อีกไกล

 

สิ่งหนึ่งที่ยังคงเด่นชัดเสมอมาคือความเป็นธรรมชาติ ไม่ประดิษฐ์ประดอยใดๆ ซึ่งน่าจะเป็นบัดกรีคุณภาพสูงที่เชื่อมต่อตัวตนของมิลลิกับผู้ฟังและแฟนๆ ทั่วโลกไว้ได้ในอนาคต

 

ชม MILLI : อมิลลิกา เฟิร์สต์ไทม์ อเมริกรู้ว (Coachella Vlog) ได้ทาง

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising