ไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศในที่ประชุม Republican Jewish Coalition ในลาสเวกัส เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 ตุลาคม) ว่าเขาถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่เวลาของผม” ท่ามกลางคะแนนนิยมที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
“เราทราบมาโดยตลอดว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่ผมไม่เสียใจเลย” เพนซ์ระบุในแถลงการณ์
เพนซ์เป็นผู้สมัครเบอร์ต้นคนแรกของพรรครีพับลิกันที่ยุติการหาเสียง หลังจากที่ผลสำรวจความคิดเห็นเผยให้เห็นคะแนนนิยมของเพนซ์ที่ตกลงเรื่อยๆ ในขณะที่เขาพยายามหาเสียงจากบรรดาผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ท่ามกลางผู้แข่งขันหลายราย ซึ่งนำโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้แคมเปญรณรงค์หาเสียงของเพนซ์ยังก่อให้เกิดหนี้จำนวนมาก โดยรายงานระบุว่า เพนซ์มีหนี้อยู่ 621,000 ดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน และมีเงินในธนาคารเพียง 1.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ จากพรรครีพับลิกัน
“ผมกำลังจะยกเลิกแคมเปญนี้ แต่ผมจะไม่มีวันละทิ้งการต่อสู้เพื่อคุณค่าความเป็นอนุรักษนิยม” เขาระบุในแถลงการณ์ที่เขียนถึงผู้สนับสนุนของเขา
อดีตรองประธานาธิบดี วัย 64 ปี สูญเสียคะแนนนิยมอย่างมากหลังจากที่เขาประกาศแตกหักกับทรัมป์จากกรณีเหตุจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 นอกจากนี้เขายังเป็นประธานในการรับรองผลการเลือกตั้งปี 2020 ของ โจ ไบเดน ในสภาคองเกรส ซึ่งสวนทางกับที่ทรัมป์พยายามกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่าเดโมแครตและไบเดนทุจริตการเลือกตั้ง
อดีตรองประธานาธิบดีกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่า การที่ทรัมป์สนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการจลาจล “ทำให้ครอบครัวของผมและทุกคนที่อาคารรัฐสภาในวันนั้นตกอยู่ในอันตราย”
ทั้งนี้ ทรัมป์เคยตักเตือนเพนซ์ที่ขาด ‘ความกล้าหาญ’ เมื่อเขาปฏิเสธที่จะล้มผลชนะการเลือกตั้งของผู้นำพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุจลาจลบางคนร้องตะโกนว่า “แขวนคอ ไมค์ เพนซ์” ขณะที่พวกเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อปี 2021 และตั้งแต่นั้นมาผู้สนับสนุนที่จงรักภักดีต่อทรัมป์หลายคนก็มองว่าเพนซ์เป็นคนทรยศ
การตัดสินใจถอนตัวของเพนซ์จากการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดขึ้นไม่นานก่อนการดีเบตครั้งที่ 3 ของผู้สมัครของพรรคในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดี เพนซ์ยังไม่ได้ประกาศสนับสนุนผู้สมัครคนใดของพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการหลังการถอนตัว
ภาพ: Ethan Miller / Getty Images
อ้างอิง: