หลังจากที่เปิดให้บริการอย่างไม่เต็มรูปแบบในช่วงล็อกดาวน์โควิดตั้งแต่กลางปี 2021 Midsummer Night’s Dream Bar ก็พร้อมเปิดม่านต้อนรับชาวทองหล่อและบาร์ฮอปเปอร์อีกครั้ง พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากองก์แรกของบทประพันธ์ชั้นเอกของ Shakespeare ‘A Midsummer Night’s Dream’ ใครที่มาบาร์ครั้งแรกอาจงงเล็กน้อยว่าทางเข้าอยู่ไหน ให้สังเกตร้านดอกไม้ WYNN WOOD Florist Studio แล้วผลักประตูเข้ามาจะเจอบันไดวน เดินขึ้นบันไดไม่กี่อึดใจก็ถึงหน้าบาร์เรียบร้อย
จริงๆ แล้วบาร์ไม่ได้มีแค่ช้ันเดียว แต่ประกอบไปด้วย 3 ชั้น ชั้นแรกเมื่อเดินขึ้นมาถึงคือค็อกเทลบาร์หลัก และมีที่นั่งมุมโซฟาเผื่อหน้าบาร์เต็ม หรือก๊วนเพื่อนกลุ่มเล็ก
ขึ้นบันไดไปชั้นบนเป็นจินบาร์กว่าร้อยฉลาก ใครที่เป็นสายจินรับรองได้เลยว่าที่นี่คือสวรรค์ ส่วนผู้ชื่นชอบวิสกี้หรือซิงเกิลมอลต์ให้ตรงขึ้นไปที่ชั้นบนสุด
ค็อกเทลที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทประพันธ์ของ Shakespeare ‘A Midsummer Night’s Dream’ ในส่วนขององก์แรก และแบ่งย่อยออกเป็น 4 ส่วน เริ่มตั้งแต่ส่วนแรก เล่าถึงการหนีเข้าป่าจากปัญหารักสี่เส้า ส่วนต่อมา เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่า ส่วนที่สาม ช่วงท้ายของละครที่มีการคลี่คลายปมประเด็นต่างๆ และส่วนที่สี่ ซึ่งเกี่ยวกับการแซ่ซ้องสรรเสริญบทละคร
เป็นธรรมดาที่การนั่งหน้าบาร์จะเริ่มต้นด้วยดริงก์แนวสดชื่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนอันแสนยาวไกล อย่ารีรอ พลิกเมนูไปที่หน้า Act I, Scene I: Reflection of the Forest (420 บาท) แก้วนี้ตีความภาพสะท้อนของป่าแห่งความฝัน โดยตีความให้เป็น Fizzy Drink รสสดชื่นที่เบสด้วยจินอินฟิวส์กับคาโมมายล์ ชั้นบนสุดคือแอร์โฟมกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ ตามด้วยชั้นกลางที่ใสจากโซดากับจิน และชั้นล่างสุดเป็นเยลลี่องุ่นกับมินต์ อย่าลืมจิบแล้วตักเยลลี่กินตามเข้าไปด้วย
จิบเรียกความสดชื่นเรียบร้อยแล้วก็ไปต่อที่ Act I, Scene II: Hermia’s Status (450 บาท) ตีความนางเอกละคร Hermia ผู้งดงามและเป็นที่หมายปองของชายทั่วอาณาจักร ค็อกเทลแก้วนี้มีกลิ่นหอมและเล่นกับเลเยอร์เครื่องดื่ม เบสด้วยจินกับลิลเลต์โรเซ่ เติมความหวานอมเปรี้ยวด้วยเลมอนกับลิ้นจี่ และเคลือบปากแก้วด้วยแยมกุหลาบ ซึ่งเพิ่มสัมผัสและมิติให้กับดริงก์ทุกคร้ังที่จิบ
ใครที่สนใจรสชาติ Savory ของค็อกเทล แนะนำ Act I, Scene III: Drop of Enchanted (420 บาท) มีเรื่องราวมาจากยาเสน่ห์ที่ Oberon ทำขึ้นเพื่อใช้กับ Titania ให้ตกหลุมรักสิ่งมีชีวิตแรกที่เธอลืมตาตื่นมาเห็น เบสด้วยจินที่อินฟิวส์กับผลควินซ์ (มะตูมฝรั่ง) ผสมกับรส Savory ที่มาจากเวอร์มุทอินฟิวส์กับเอฮิเระหรือครีบปลากระเบนตากแห้ง เติมรสชาติด้วยเหล้าบ๊วยกับดอกซากุระดอง แก้วนี้ดรายเชกกับไข่ขาวเพื่อให้รสนวลและสัมผัสที่เนียนนุ่ม ก่อนที่จะหยดซากุระบิตเทอร์ปิดท้าย
Act I, Scene III: Theseus Morning Hunt (450 บาท) พรรณนาถึงฉากที่ Theseus ออกไปล่าสัตว์ยามเช้า และพบกับคู่รักทั้งสี่สลบไสลกลางป่า ค็อกเทลแก้วนี้เป็นแนวสปิริตฟอร์เวิร์ด เบสด้วยรัมใบเนียมที่มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย จับคู่กับคัสตาร์ด ชั้นบนเป็น Espuma หรือโฟมนุ่มๆ ทำจาก Mulled Wine ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มในช่วงคริสต์มาส ส่วนผงป่นบนโฟมคือแพลนต์เบสเบคอน เราแนะนำให้จิบครบทุกเลเยอร์เพื่อบาลานซ์รสชาติของรัมและความหวานจากโฟม
ปิดท้ายด้วย Act I, Scene IV: Midsummer Night’s Dream (450 บาท) ทวิสต์มาจาก New York Sour ที่เบสด้วยวิสกี้แล้วท็อปด้วยไวน์ แต่ Midsummer Night’s Dream Bar เสิร์ฟแบบ Upside-down โดยเบสด้วยไวน์ก่อนแล้วค่อยท็อปด้วยวิสกี้ ชั้นล่างเป็น Fino Sherry ไวน์หวานหอม เติมควินินเพื่อให้เกิดรสขมจางๆ ที่ปลายลิ้น จากนั้นรินวิสกี้ปิดท้าย จิบทั้งวิสกี้และไวน์พร้อมๆ กัน เพื่อรสชาติและประสบการณ์ที่ดีที่สุด
Midsummer Night’s Dream Bar
Open: 18.00-23.00 น.
Address: WYNN WOOD Florist Studio, ปากซอยทองหล่อ 1
Budget: 500-1,000 บาท
Tel: 08 2646 0949
Website: https://instagram.com/midsummernightdreambar
Map: