×

‘MI GROUP’ ชู ‘ข้อมูลอินไซต์’ สำคัญสุดในยุคภูมิทัศน์สื่อใหม่ พร้อมแนะสร้าง Core Value ให้องค์กรและลูกค้า เสริมทางรอด

26.11.2022
  • LOADING...
MI GROUP

MI GROUP ระบุภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนเร็วและแตกออกเป็นซับเซ็ตที่หลากหลาย ซึ่งล้วนสื่อสารกันด้วยภาษาเฉพาะกลุ่ม แนะทางรอดจากความโกลาหลคือมีการมีข้อมูลอินไซต์ เพื่อเข้าใจตลาด ลูกค้า และพาร์ตเนอร์ได้อย่างแท้จริง พร้อมแนะฝัง 3 Core Value ในองค์กรและคู่ค้า เสริมทางรอด

 

ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI GROUP กล่าวในงานเวทีเสวนา THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2022 ในหัวข้อ MEDIA REVOLUTION จุดเปลี่ยนภูมิทัศน์สื่อ เมื่อ TIKTOK เปลี่ยนโลก ว่า ภูมิทัศน์สื่อมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ตั้งแต่ยุคของการเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล จนล่าสุดได้เกิดการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


โดยผลลัพธ์ที่ชัดที่สุดคือโซเชียลมีเดียกำลังทำให้สังคมสื่อสารแตกออกเป็นซับเซ็ตขนาดเล็กที่มีความเฉพาะตัวมากๆ โดยเฉพาะภาษาของการพูดคุยสื่อสารที่มีความเฉพาะเจาะจง 

 

ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนไปดังกล่าวทำให้มาร์เก็ตติ้งเอเจนซีต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้เท่าทันพฤติกรรมการสื่อสารและสังคมการสื่อสารที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา และมีความเฉพาะตัวมากขึ้น 

 

“เมื่อก่อนเราแบ่งกลุ่มคนด้วย Generation แต่ตอนนี้ภูมิทัศน์สื่อที่ต่างออกไปทำให้แต่ละ Generation ก็แตกกลุ่มก้อนย่อยออกไปเช่นกัน โดยเฉพาะ Gen Z ที่จะมีความแตกต่างกันไปหมดแม้จะเป็น Gen เดียวกันก็ตาม การสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งนี่คือความท้ทาย” ภวัตกล่าว 

 

สำหรับมุมของการใช้จ่ายผ่านแต่ละสื่อหรือแต่ละแพลตฟอร์มนั้น จากการเก็บตัวเลขของ MI GROUP พบว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านสื่อหรือแพลตฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงสอดรับกับปัจจัยลบเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด โดยล่าสุดที่โควิดเริ่มคลี่คลาย พบว่ายอดใช้จ่ายผ่านสื่อในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 

 

“แม้จะต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ก็เข้าใจได้เพราะเราว่ามีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากระทบตลอดเวลา ทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ จึงคาดว่าทั้งปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านสื่อน่าจะเติบโตราว 8% ส่วนปี 2566 อาจจะเติบโต 4.8% ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ค่อนข้างน้อยอยู่” 

 

และหากแยกการใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัล พบว่าอัตราการเติบโตยังเป็นตัวเลขสองหลัก ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเติบโตในอดีต 

 

ภวัตกล่าวเพิ่มว่า สัดส่วนของสื่อดิจิทัลในตระกร้าตลาดสื่อนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 33% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ขณะที่สื่อหลักหรือสื่อเก่า (โทรทัศน์และสิ่งพิมพ์) สัดส่วนในตลาดรวมปัจจุบันอยู่ที่ราว 40% กว่าๆ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง 

 

ต่อคำถามที่ว่า เมื่อภูมิทัศน์สื่อมีความโกลาหลเช่นนี้ ควรปรับตัวอย่างไร ในฐานะมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี เชื่อว่าการมี Insight Data ที่ถูกต้อง จะช่วยให้สามารถฝ่าความโกลาหลเช่นนี้ โดยการได้มาซึ่ง Insight Data นั้น ปัจจุบันใช้วิธี Social Listening หรือฟังข้อมูลจากผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานสื่ออย่างจริงจัง ซึ่งต่างจากวิธีการรวบรวม Data ในอดีต ที่จะเน้นการรวบรวมข้อมูล ทำงานวิจัย หรือ Focus Group 

 

“การรู้ Insight เป็นเรื่องสำคัญ เพราะภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนไป เราต้องหา Insight ที่เยอะและลึกที่สุด เมื่อได้ Insight และสกัดเป็น Culture แล้ว เราก็ต้องสื่อสารในทุกๆ Sub-Culture” 

 

ภวัตกล่าวอีกว่า การปรับตัวรับมือกับความโกลาหลนี้คือการฝัง Core Value สู่องค์กรและคู่ค้า โดย Core Value ที่สำคัญประกอบด้วย การตระหนักรู้ (Awareness) แบบเรียลไทม์, การปรับตัว (Adapt) ให้เท่าทันกับสิ่งที่ตระหนักรู้ไว้ และความปราดเปรียว (Agility) ในการทำสิ่งใหม่อย่างรวดเร็วแข่งกับเวลา 

 

“นอกจากนี้ สำคัญที่สุดคือต้องเอาเทคโนโลยีใส่เข้าไปด้วย เพราะไม่ว่าคนจะมี Core Value มากแค่ไหนก็มีความผิดพลาดอยู่ดี ซึ่งจุดนี้เทคโนโลยีจะช่วยได้”​

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising