จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแข่งขัน Mekhong Thai Spirit Cocktails 2017
เพื่อเฟ้นหา 2 สุดยอดเครื่องดื่มสัญชาติไทย เพื่อเสิร์ฟในงานประกาศรางวัลระดับโลกอย่าง MICHELIN Guide Bangkok 2018 Award Ceremony and Gala Dinner จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อค่ำวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากทั้ง 2 ผู้ชนะจะได้รับรางวัลและความภาคภูมิใจกลับบ้านไปแล้ว ค็อกเทลรสเยี่ยมจากการสร้างสรรค์ของพวกเขายังได้ทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมส่งต่อรสชาติแบบไทย ให้แขกที่มาร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสอีกด้วย
ความภาคภูมิใจของอาหารไทย
สำหรับคนไทยแล้ว อาหารไทยไม่เพียงแต่จะแสดงออกถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเฟื่องฟูของทรัพยากรภายในประเทศที่สืบทอดยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น แต่ยังแผ่ขยายสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สร้างความภาคภูมิใจกระทั่งได้รับฉายาว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยเรื่องสตรีทฟู้ดมากที่สุดประเทศหนึ่ง
การเดินทางมาของรางวัลมิชลิน ไกด์ในปีนี้ ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จไปอีกขั้นของวงการอาหารในบ้านเรา
เมื่ออาหารไทยประสบความสำเร็จบนเวทีระดับโลกเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาที่เครื่องดื่มสัญชาติไทยร่วมสานต่อความภาคภูมิใจ
ในฐานะแบรนด์สุราไทยแท้ที่อยู่คู่กับชาติไทยของเรามาอย่างยาวนานกว่า 7 ทศวรรษ Mekhong (แม่โขง) ไม่เพียงแต่จะแสดงออกถึงเอกลักษณ์และรสชาติของความเป็นไทย แต่แบรนด์ยังสนับสนุนและร่วมเชิดชูความเป็นไทยมาตลอดผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมายอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับในปีนี้ ที่ทางแบรนด์ได้สนับสนุนให้เครื่องดื่มสัญชาติไทยก้าวไปเป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลกโดยการจัดการแข่งขัน Mekhong Thai Spirit Cocktails 2017
การแข่งขันที่เชิญชวนมิกโซโลจิสต์สัญชาติไทยมาร่วมสร้างสรรค์ค็อกเทลที่นำสุราแม่โขงมาผสมผสานกับวัตถุดิบต่างๆ เผื่อถ่ายทอดความเป็นไทยในแบบฉบับของตัวเอง เพื่อเป็นตัวแทนของเครื่องดื่มสัญชาติไทยที่จะนำไปเสิร์ฟบนเวทีระดับโลก
การพัฒนาของวงการไทยมิกโซโลจิสต์กับเทรนด์ของโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
ความน่าตื่นเต้นของการจัดการแข่งขันในปีนี้ถูกถ่ายทอดผ่านความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดของมิกโซโลจิสต์ไทยทั้ง 9 ท่าน หากใครที่ติดตามข่าวสารในวงการอาหารและเครื่องดื่มอย่างใกล้ชิด จะค้นพบว่าศาสตร์แห่งการปรุงเครื่องดื่มของโลกได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลกทั้งยุโรปและอเมริกาต่างให้ความสนใจในการพัฒนาเครื่องดื่มของตนเองสดให้ใหม่และเต็มไปด้วยเรื่องราวไม่ต่างจากเชฟที่ถ่ายทอดศิลปะของเขาผ่านการปรุงอาหาร
ซึ่งประเทศไทยของเราก็มีมิกโซโลจิสต์หน้าใหม่เกิดขึ้นมาอยู่ทุกวัน และมีฝีไม้ลายมือที่พัฒนาขึ้นในทุกๆ ปี หลายคนสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลก และหลายคนกำลังจะก้าวไปจนถึงจุดนั้น
สิ่งสำคัญที่วงการเครื่องดื่มทั่วโลกให้ความสนใจคือการใช้วัตถุดิบที่แปลกใหม่ สร้างสรรค์ และมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบพื้นบ้านเพื่อนำมาทำให้เครื่องดื่มสดใหม่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เอื้ออำนวยให้ประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรผัก ผลไม้ และสมุนไพรอย่างบ้านเราได้ทำการยกระดับมาตรฐานการปรุงเครื่องดื่มให้แตกต่าง กระทั่งเรียกได้ว่าคุณจะได้สัมผัสความเป็นไทยตั้งแต่จิบแรกจนจิบสุดท้าย
มาตรฐานของเครื่องดื่มสัญชาติไทย
รสชาติของความเป็นไทยถูกตีความผ่านคอนเซปต์ที่ชัดเจนของเครื่องดื่ม ความคิดสร้างสรรค์ที่มิกโซโลจิสต์แต่ละท่านสามารถนำแรงบันดาลใจของตนเองมารังสรรค์ผ่านเครื่องดื่ม อีกทั้งยังต้องแพรวพราวไปด้วยเทคนิคและการนำเสนอที่สวยงาม และคงไว้ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรสชาติที่อร่อยนุ่มละมุน คุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นมาตรวัดชั้นดีที่ทำให้มีเพียง 2 มิกโซโลจิสต์จาก 9 ท่านที่ร่วมแข่งขันคว้าชัยชนะไปครอง ซึ่งทั้งสองแก้วนั้นได้แก่
‘ทอง (Thong)’ ผลงานของมิกโซโลจิสต์ คุณชัยสิทธิ์ ประทุมสูตร จากร้านเทพบาร์ ค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัตถุมีค่าอย่าง ‘ทอง’ ทั้งยังแสดงถึงความรุ่งโรจน์ รุ่งเรืองของประเทศไทยด้วย ซึ่งจากแรงบันดาลใจนั้นคุณชัยสิทธิ์ได้เลือกใช้ผลไม้ไทยอย่างมะม่วงสุก นำมาผสมกับแม่โขง น้ำผึ้งเดือนห้า น้ำตาลมะพร้าว ไข่ขาว น้ำมะนาว และเพิ่มความหอมอย่างเป็นเอกลักษณ์ด้วยยอดผักชีลาว กลายเป็นค็อกเทลหอมหวานที่นุ่มนวลทั้งรสชาติและรสสัมผัส
แก้วที่สองคือค็อกเทลที่มีชื่อว่า ‘ขุนศึก (Koon Suek)’ ผลงานของมิกโซโลจิสต์ คุณนันทวิชย์ สามีภักดิ์ จากบ้านสุริยาศัย นำเสนอความเข้มแข็งของนักรบขุนศึกของไทยผ่านค็อกเทลรสชาติเข้ม หอมสมุนไพรไทยทั้งกระวาน อบเชย กานพลู ตะไคร้ ใบโหระพา และอื่นๆ มากกว่า 10 ชนิด เข้ากับแม่โขง เหล้าเอ็กซ์ตร้าดรายเวอร์มุท ไวน์แดง มะนาว และน้ำเชื่อม ออกมาเป็นแก้วทานง่ายบวกกับความหอมของสมุนไพรยังทำให้สดชื่นอีกด้วย
ค็อกเทลทั้ง 2 นี้ ได้รับรางวัลผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงคุณเกล แวนฮูว ตัวแทนจาก Michelin และจากการโหวตของคนไทยทั้งประเทศ และซึ่งนับว่าเป็นตัวแทน Thai Spirit อย่างแท้จริง
และอีกหนึ่งค็อกเทลที่โดดเด่นไม่แพ้ 2 แก้วที่ชนะการแข่งขัน ก็คือค็อกเทลจากแม่โขงอย่าง ‘Mekhong Thai Sabai’ (แม่โขงไทยสบาย) การผสานที่ลงตัวของสุราไทยอย่าง Mekhong กับส่วนผสมที่มีความเปรี้ยว มีกลิ่นขิง วานิลลา และสมุนไพรไทย
ที่แม่โขงนำมาเสนอให้แขกในงานได้สัมผัสค็อกเทลประจำชาติไทยที่สื่อถึงความสบายๆ ความมีน้ำใจ ยิ้มแย้ม และเป็นมิตรของคนไทยที่จัดส่วนผสมของแม่โขง กับความสดชื่นจากมะนาว และกลิ่นความเป็นไทยจากใบโหระพา ที่ผ่านกรรมวิธีในการทำค็อกเทลด้วยการบดใบโหระพาด้วยมือและฉีกเล็กน้อยก่อนใส่ ลงในเชกเกอร์ ผสมเข้ากับ Mekhong สุราไทยแท้ที่ถูกปรุงจากตำรับยาโบราณ ที่ให้กลิ่นและรสสัมผัสแบบสุราไทยที่ไม่เหมือนใคร นำเสิร์ฟพร้อมกับเมนูอาหารของเชฟคนไทย
สำหรับ แม่โขงไทยสบาย เป็นค็อกเทลที่เหมาะจะทานคู่กับอาหารไทยที่รถจัดจ้าน เพราะมีรสออกเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นของผลไม้หรือสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ซึ่งให้รสชาติกำลังดี ขับเน้นความอร่อยของอาหาร และไม่ทำให้รสชาติอาหารจานนั้นๆด้อยลง
นอกจากความภาคภูมิใจที่ทั้งสองมิกโซโลจิสต์ได้รับในฐานะเป็นตัวแทนเครื่องดื่มไทยในเวทีระดับโลกอย่าง MICHELIN Guide Bangkok 2018 Award Ceremony and Gala Dinner แล้ว การสนับสนุนและเฟ้นหาสุดยอดนักชงของ Mekhong Thai Spirit 2017 ครั้งนี้ ยังถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานวงการเครื่องดื่มของไทยให้ก้าวไกลไปสู่ระดับสากลอีกด้วย