บอร์ดดีอี มีมติให้จัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์ และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ หรือสถาบันบิ๊กดาต้าภาครัฐ ซึ่งจะอยู่ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้เกิดกลไกการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ และให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลต่างๆ มุ่งเน้นการเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ให้เกิดการเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมต่อไป
วันนี้ (9 พ.ค.) นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยว่าระหว่างการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (8 พ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องสืบเนื่อง และพิจารณาเรื่องสำคัญในครั้งนี้หลักๆ 3 ประเด็น ที่มีนัยเพื่อพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลเพื่อรองรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลต่างๆ มุ่งเน้นการเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ให้เกิดการเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมต่อไป ดังนี้
ประเด็นที่ 1 การจัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (Government Big Data Institute) และบอร์ดดีอีพิจารณาการจัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ โดยปรับรูปแบบของ Service Delivery Unit ให้เป็น Business Unit ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเกิดกลไกการวิเคราะห์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนในเรื่องต่างๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562
ประเด็นที่ 2 จะพิจารณาเรื่องความสอดคล้องของแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (พ.ศ.2561-2564) กับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งประกาศและมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบหลักการแผนฯ สำหรับการจัดทำแผนแม่บทก็ได้มีการปรับปรุงและอ้างอิงมาจากแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี และแผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี ที่รวมประกาศเป็นนโยบายและแผนระดับชาติแล้ว
ประเด็นที่ 3 บอร์ดดีอีเห็นชอบการปรับแผนงบประมาณรายจ่ายโครงการเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ซึ่งสำนักงาน กสทช. เสนอปรับแผนงบประมาณรายจ่ายโครงการประจำปี 2562 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินโครงการศึกษาเพื่อกำหนดรูปแบบ และหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่รองรับการให้บริการ 5G จากเดิมจัดจ้างที่ปรึกษา มาเป็นความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย Chalmers University of Technology ภายในกรอบวงเงินเดิมที่ได้รับอนุมัติ และปรับเพิ่มโครงการระบบตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายจากการออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์ระดับภูมิภาค พร้อมวงเงิน 95.010 ล้านบาท
“กระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งเป้าในการพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะภาครัฐจะต้องเร่งผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้สามารถบูรณาการและให้บริการข้อมูลข้ามหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และเป็นข้อมูลในการพัฒนาประเทศต่อไป” อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัล กล่าว
ภาพ: Royal Thai Government
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: