ถึงคิวธุรกิจฟาสต์ฟู้ด! ‘McDonald’s’ เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปิดสำนักงานใหญ่ในอเมริกาชั่วคราว 3 วัน เตรียมเลิกจ้างพนักงาน หวังลดค่าใช้จ่าย แม้ยอดขายหน้าร้านจะกลับมาแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเลิกจ้างพนักงานกี่ตำแหน่ง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งจดหมายถึงพนักงานทั้งในอเมริกาและพนักงานต่างชาติ สั่งให้พนักงานทำงานที่บ้านตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพุธ และสั่งให้ยกเลิกการประชุมร่วมกับคู่ค้าที่จะจัดขึ้นในสำนักงานใหญ่ เพื่อให้บริษัทสามารถจัดการแผนจ้างพนักงานให้เรียบร้อยก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- McDonald’s ไม่ขอยอมแพ้ใน ‘ตลาดไก่ทอด’ ดึง ChatGPT มาช่วยค้นหารสชาติที่ลูกค้าชอบ เชื่อจุดเด่นจะช่วยสร้างการเติบโตต่อเนื่อง
- McDonald’s ทุ่ม 7.8 หมื่นล้านบาท ลุยขยายสาขา 1,500 แห่งทั่วโลก ท่ามกลางพฤติกรรมลดค่าใช้จ่ายของลูกค้า
- อั้นไม่ไหว! McDonald’s ในญี่ปุ่น ขอปรับราคารอบ 2 ทำ ‘เบอร์เกอร์-ชุดเมนูสุดคุ้ม’ ขึ้นกว่า 80% รับต้นทุนพุ่งไม่หยุด
สอดรับกับ ‘คริส เคมป์ซินสกี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร McDonald’s กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพนักงานภายในเดือนเมษายน 2023 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลักที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น แม้ว่าภาพรวมยอดขายจะเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้จ่ายลดลงก็ตาม
พร้อมกันนี้ McDonald’s ยังเดินหน้าขยายสาขาตามแผนที่วางไว้ โดยแบ่งเป็นร้านที่บริษัทลงทุนเอง 400 สาขา และของแฟรนไชส์ซีประมาณ 1,500 สาขา ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการภายในร้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา McDonald’s ได้ดำเนินการปลดพนักงานมาแล้วหลายรอบ โดยให้เหตุผลว่าต้องสร้างความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มขีดการแข่งขันในอนาคต
ปัจจุบัน McDonald’s มีพนักงานมากกว่า 150,000 คนทั่วโลก แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง 70% และสาขาที่ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ดูแลประมาณ 30%
อย่างไรก็ตามท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตัดสินใจปลดพนักงานมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเทคโนโลยีอย่าง Amazon ที่ได้เลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีก 9,000 ตำแหน่ง หลังจากประกาศเลิกจ้างไปก่อนหน้านี้ และขณะนี้ได้ลุกลามมาที่ธุรกิจอาหารเรียบร้อยแล้ว
อ้างอิง: