×

PTTEP – แนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 คาดกำไรสุทธิถูกบดบังโดยรายการพิเศษจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน

08.04.2022
  • LOADING...
PTTEP

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q65 ของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 28 เมษายน 2565

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTEP ปรับลดลง 4.9%MoM อยู่ที่ระดับ 146.00 บาท แย่กว่า SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 3.4%MoM สู่ระดับ 1,682.41 จุด 

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ลดลง 23%YoY และ 16%QoQ สู่ 8.9 พันล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจำนวนมากถึง 250 ล้านดอลลาร์ จากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน สืบเนื่องมาจากการทำสัญญาประกันความเสี่ยง 15.4 ล้านบาร์เรล (~30% ของปริมาณการขายผลิตภัณฑ์เหลว (น้ำมันดิบและคอนเดนเสต) ที่บริษัทตั้งเป้าไว้) แม้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงใน 1Q65 โดยมีสาเหตุมาจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างรัสเซีย 

 

แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะหนุนให้กำไรปกติแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากสู่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น QoQ และเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า YoY เนื่องจากราคาน้ำมันปรับขึ้นและปริมาณการขายได้รับปัจจัยหนุนจากการขายก๊าซในประเทศไทยได้มากขึ้นและสินทรัพย์ใหม่ในตลาดต่างประเทศ

 

ด้านปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12%YoY และ 2%QoQ สู่ 427kBOED ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ก่อนหน้านี้อยู่ประมาณ 2% เนื่องจาก PTT เรียกรับก๊าซจากแหล่งบงกชลดลง แม้ว่ามีการปรับปริมาณการซื้อขายตามสัญญาของแหล่งอาทิตย์เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการผลิตก๊าซที่ลดลงของแหล่งเอราวัณ ขณะที่ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นที่โครงการ Oman Block 61 และ Malaysia Sabah-H เนื่องจากทั้งสองโครงการนี้เริ่มสร้างปริมาณการขายให้กับบริษัทในช่วงปลาย 1Q64

 

ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะหนุนให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) เพิ่มขึ้น 28%YoY และ 10%QoQ สู่ >51 ดอลลาร์ต่อ BOE โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้น 63%YoY และ 25%QoQ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังจะหนุนให้ราคาก๊าซของ PTTEP ปรับเพิ่มขึ้นสู่ >6 ดอลลาร์ต่อ mmbtu เทียบกับเป้าที่บริษัทวางไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.7 ดอลลาร์ต่อ mmbtu

 

นอกจากนี้ PTTEP ยังกล่าวว่า ราคาก๊าซเฉลี่ยในปี 2565 อาจแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยยังอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เทียบกับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะหนุนให้ราคาก๊าซเพิ่มขึ้น 0.015 ดอลลาร์ต่อ mmbtu ดังนั้นราคาก๊าซเฉลี่ยในปี 2565 อาจเพิ่มขึ้นสู่ 6.3-6.4 ดอลลาร์ต่อ mmbtu ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าที่บริษัทวางไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.9 ดอลลาร์ต่อ mmbtu

 

นอกจากนี้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลง 3.3% เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง (ลดลง 14% สำหรับเบรนต์) แม้ว่าวิกฤตยูเครนยังคงทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมัน และเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงยังสะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดต่อผลประกอบการ 1Q65 ซึ่งมองว่าไตรมาสนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ สืบเนื่องมาจากรายการพิเศษดังกล่าว ในขณะที่คาดว่า PTTEP จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

มุมมองระยะยาว:

SCBS ประเมินกำไรสุทธิปี 2565 ไว้ที่ 6.18 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 59%YoY) สะท้อนถึงกำไรสุทธิ 1.76 หมื่นล้านบาทต่อไตรมาส ใน 2Q-4Q65 ซึ่ง PTTEP ยังน่าจะทำได้เมื่อพิจารณาจากกำไรปกติ 1.71 หมื่นล้านบาท ใน 1Q65 โดยเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้นตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป เนื่องจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงมีการ Mark to Market ใน 1Q65 เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ Upside คือปริมาณการผลิตของโครงการ G1/61 (เดิมคือเอราวัณ) หลังจากบริษัทเริ่มดำเนินการภายใต้สัญญา PSC ฉบับใหม่ในเดือนเมษายน 2565

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 มีปัจจัยที่ต้องจับตาคือ การประกาศค้นพบแหล่งก๊าซเพิ่มที่โครงการในมาเลเซียและการพัฒนาในเมียนมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนปริมาณการขายของบริษัท

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising