×

HMPRO – 3Q66 กำไรเป็นไปตามตลาดคาด

01.11.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวานนี้ 31 ตุลาคม 2566 บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) รายงานกำไรสุทธิ 3Q66 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 5%QoQ เป็นไปตามตลาดคาด กำไรในระดับทรงตัว YoY หลักๆ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายค้าปลีก (การขยายสาขาช่วยชดเชย SSS ที่หดตัวลง) และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นถูกหักล้างโดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้น 

 

สำหรับรายการที่สำคัญใน 3Q66 ดังนี้

 

  1. รายได้ เติบโต 3%YoY สู่ 1.68 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการขยายสาขาช่วยชดเชย SSS ที่หดตัวลง ซึ่งประเมินได้ว่า SSS ที่ร้านโฮมโปรลดลง 3.6%YoY (เทียบกับ เพิ่มขึ้น 17.8%YoY ใน 3Q65 และ 4.9%YoY ใน 2Q66) เพราะถูกฉุดรั้งโดยความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และความไม่ชัดเจนในการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนฝนที่ตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลต่อการเดินทางมาใช้บริการที่สาขาของลูกค้า ทำให้เกิดการชะลอตัวของการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

 

ทั้งนี้ ใน 3Q66 HMPRO มีเปิดสาขา 2 สาขาคือ โฮมโปร 1 สาขา ที่ซีคอนบางแค และเมกาโฮม 1 สาขา ที่จังหวัดระยอง ส่งผลให้บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 124 สาขา ณ สิ้น 3Q66 (เพิ่มขึ้น 8%YoY และ 2%QoQ) ซึ่งประกอบด้วยโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 25 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

 

  1. อัตรากำไรขั้นต้น ลดลง 10bps YoY สู่ 26.7% ซึ่งเป็นผลมาจากการมีสัดส่วนการขายที่ดีน้อยลง โดยมีสัดส่วนยอดขายจากร้านเมกาโฮมที่ให้มาร์จิ้นต่ำเพิ่มมากขึ้นจากการขยายสาขา ในขณะที่สัดส่วนยอดขายจากร้านโฮมโปรที่ให้มาร์จิ้นสูงอยู่ในระดับทรงตัว YoY 

 

  1. EBIT Margin ลดลง 10bps YoY สู่ 12.5% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอลง และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขยายสาขาที่สูงขึ้น ต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ไปหักล้างรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 5%YoY) ทั้งนี้ รายได้ค่าเช่าและบริการอยู่ในระดับทรงตัว YoY หลักๆ เป็นเพราะไม่มีงาน HomePro Electric Expo ที่ไบเทค บางนา เหมือนใน 3Q65 ในขณะที่รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 10%YoY จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น

 

กระทบอย่างไร:

 

วันนี้ 1 พฤศจิกายน 2566 ณ 12.30 น. ราคาหุ้น HMPRO ปรับลง 1.68%DoD อยู่ที่ระดับ 11.70 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.18%DoD อยู่ที่ระดับ 1,384.26 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566

 

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลดลง 4% เพื่อสะท้อนยอดขายสาขา (SSS) ที่อ่อนแอกว่าคาดในเดือนตุลาคม โดยประเมินได้ว่า SSS ของ HMPRO จะหดตัวลงในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง YoY เพราะถูกฉุดรั้งโดยความไม่ชัดเจนในการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ความคืบหน้าเพิ่มเติมของนโยบาย Digital Wallet และช้อปดีมีคืน (ถ้ามี) จะช่วยหนุน Sentiment ตลาดและยอดขายของ HMRO ให้ปรับตัวดีขึ้น 

 

ใน 4Q66 ประเมินว่ากำไรจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY จากการขยายสาขา  (จะเปิดเมกาโฮม 2 สาขาใน 4Q66) อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ลดลง (ลดลง 15%YoY และ ลดลง 10%QoQ) แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล 

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research ยังคงเรตติ้ง Outperform สำหรับ HMPRO ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) ที่ปรับใหม่เป็น 15 บาทต่อหุ้น (จาก 16 บาท) หลังจากปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลดลง 4% จากการปรับประมาณการ SSS ลดลง

 

ปัจจุบันหุ้น HMPRO เทรดที่ PE ปี 2566 ระดับ 24 เท่า (-2S.D. จาก PE เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี) ความคืบหน้าของนโยบาย Digital Wallet และช้อปดีมีคืน (ถ้ามี) จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และนโยบายรัฐบาลใหม่

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising